แพทย์ผู้รักษาอาการ “สมัคร” ชี้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ไม่ใช่ท้องเสีย เลื่อนกำหนดการเยือนฟิลิปปินส์ปลายสัปดาห์โดยไม่มีกำหนด ขณะที่โฆษกพรรคอาศัยจังหวะนอมินีแม้วนอนซม ชิงถอนหงอกถึงเตียงคนไข้
วันนี้ (2 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังคงพักรักษาอาการไข้หวัดใหญ่อยู่ภายในห้องเลขที่ 1101 โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เป็นวันที่ 2 สำหรับวันนี้ได้มีบุคคลสำคัญในแวดวงต่างๆ ส่งกระเช้าดอกไม้เข้าเยี่ยม เช่น นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงกระเช้าดอกไม้จากวงดนตรีสุนทราภรณ์ แต่ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังไม่เปิดโอกาสให้มีการลงนามในสมุดเยี่ยม
ด้าน นพ.อภิชาติ ศิวยาธร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ พร้อมคณะแพทย์ แถลงความคืบหน้าอาการป่วยของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งได้เข้าพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นวันที่ 2 ว่า เนื่องจากเป็นไข้หวัดใหญ่ คณะแพทย์ได้ตรวจอาการของนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ในช่วงเช้าวันนี้พบว่าไม่มีไข้ อาการสดชื่นขึ้น ยังมีอาการไอเล็กน้อย กินอาหารได้ดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้นายสมัครอารมณ์ดีขึ้นหลังรับทราบข่าวสารเกี่ยวกับอาการป่วยของตนเองที่สื่อนำเสนอไปโดยไม่ผิดเพี้ยนว่านายกรัฐมนตรีเป็นไข้หวัดใหญ่ ไม่ใช่ท้องเสีย สำหรับภารกิจของนายกรัฐมนตรีที่จะเดินทางไปเยือนฟิลิปปินส์ และบรูไน ในวันที่ 4-5 เมษายนนี้ ได้เลื่อนออกไป อย่างไม่มีกำหนด
ส่วนบรรยากาศบริเวณหน้าลิฟต์ชั้น 11 ซึ่งเป็นชั้นที่นายกรัฐมนตรีพักอยู่ได้มีการรักษาความปลอดภัยค่อนข้างเข้มงวด
โดยวานนี้ ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน เสนอแนะ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ให้ควบคุมประเด็นการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนให้ดี อย่าพูดสะเปะสะปะว่า เรื่องนี้ต้องดูที่เจตนา และประเด็นที่นำเสนอ เนื้อหาที่พูดเป็นไปตามหลักการ ไม่ใช่เป็นการตำหนินายกฯ แต่ประเด็นที่พูดต้องการให้มีการปรับปรุงประเด็นที่ให้ข่าว ต้องให้ทันต่อสถานการณ์ ถ้าปล่อยไว้แบบนี้จะเป็นปัญหาไม่มีที่สิ้นสุด อีกทั้งนายกฯต้องทำงานมากกว่าพูดเหมือนในสมัยรัฐบาลทักษิณ 1 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เข้ามาเป็นรัฐบาลแค่ 2 เดือนยังมีผลงาน แต่ 2 เดือนของรัฐบาลนี้ยังไม่มีอะไร ดังนั้น จึงมี ส.ส.พรรคพลังประชาชนหลายคนได้เสนอแนวทางให้นายกฯไปลงพื้นที่จังหวัดต่างๆ เพื่อพบประชาชน ดูโครงการต่างๆ รวมถึงการแก้ปัญหาภัยแล้ง ถือเป็นการขับเคลื่อนงานแล้วกำหนดประเด็นข่าว เพราะถ้าไม่ลงพื้นที่ การกำหนดประเด็นข่าวก็ขึ้นอยู่กับจินตนาการ เป็นข่าวที่ไม่จริง เช่น เรื่องปฏิวัติ ผิดแนวทางการทำงานไปเลย เป็นการทำให้ประชาชนเสียโอกาส จะทำให้ประชาชนที่สนับสนุนท้อถอยได้
ร.ท.กุเทพ กล่าวอีกว่า ตอนนี้เห็นใจนายกฯ ที่ต้องตอบคำถามสื่อมวลชนทุกเรื่อง บางเรื่องเราเห็นว่าสำคัญ แต่สื่อเห็นประเด็นอื่นสำคัญจึงหยิบมาเล่น จะไปโทษสื่อมวลชนก็ไม่ได้ ดังนั้น ต้องใช้วิธีเหมือนสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ใช้กิจกรรมและการทำงาน ประเด็นข่าวจะตามมาเอง ต่อไปใครจะปฏิวัติก็ไม่ได้ เพราะไม่ได้ประโยชน์ต่อประชาชน อีกทั้งกองงานโฆษกทำเนียบรัฐบาลต้องทำงานเป็นเชิงยุทธศาสตร์ โดยให้กระทรวงต่างๆ ส่งข้อมูลมา เพื่อกำหนดประเด็นก่อนที่จะให้นายกฯ พูดผ่านรายการสนทนาประสาสมัคร ไม่ใช่ปล่อยให้มีการพูดผ่านรายการโดยธรรมชาติ จนมีบางประเด็นแทรกขึ้นมา เช่น การเปิดบ่อนกาสิโน เมื่อพูดแล้วก็เงียบหายไปไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าทุกคนในพรรคสามารถแสดงความเห็นได้เพื่อให้เป็นแนวทางปฏิบัติที่ดี
