เด็กแม้วถอนหงอก “หมัก” ชี้ปากพล่อยปูดข่าวปฏิวัติ ไร้ผลงาน

“พลังแม้ว” เสียงแตก โฆษกพรรคอัดนายกฯตัวปลอม ปากพล่อย แขวะ 2 เดือนรัฐบาลสมัคร 1 ไร้ผลงาน จวก ปูดข่าวปฏิวัติทำชาวบ้านท้อถอย

วันนี้ (1 เม.ย.) ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน เสนอแนะ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ให้ควบคุมประเด็นการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนให้ดี อย่าพูดสะเปะสะปะ ว่า เรื่องนี้ต้องดูที่เจตนา และประเด็นที่นำเสนอ เนื้อหาที่พูดเป็นไปตามหลักการ ไม่ใช่เป็นการตำหนินายกฯ แต่ประเด็นที่พูดต้องการให้มีการปรับปรุงประเด็นที่ให้ข่าว ต้องให้ทันต่อสถานการณ์ ถ้าปล่อยไว้แบบนี้จะเป็นปัญหาไม่มีที่สิ้นสุด อีกทั้งนายกฯต้องทำงานมากกว่าพูดเหมือนในสมัยรัฐบาลทักษิณ 1 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เข้ามาเป็นรัฐบาลแค่ 2 เดือนยังมีผลงาน แต่ 2 เดือนของรัฐบาลนี้ยังไม่มีอะไร ดังนั้น จึงมี ส.ส.พรรคพลังประชาชน หลายคน ได้เสนอแนวทางให้นายกฯไปลงพื้นที่จังหวัดต่างๆ เพื่อพบประชาชน ดูโครงการต่างๆ รวมถึงการแก้ปัญหาภัยแล้ง ถือเป็นการขับเคลื่อนงานแล้วกำหนดประเด็นข่าว เพราะถ้าไม่ลงพื้นที่ การกำหนดประเด็นข่าวก็ขึ้นอยู่กับจินตนาการ เป็นข่าวที่ไม่จริง เช่น เรื่องปฏิวัติ ผิดแนวทางการทำงานไปเลย เป็นการทำให้ประชาชนเสียโอกาส จะทำให้ประชาชนที่สนับสนุนท้อถอยได้

ร.ท.กุเทพ กล่าวอีกว่า ตอนนี้เห็นใจนายกฯ ที่ต้องตอบคำถามสื่อมวลชนทุกเรื่อง บางเรื่องเราเห็นว่าสำคัญ แต่สื่อเห็นประเด็นอื่นสำคัญจึงหยิบมาเล่น จะไปโทษสื่อมวลชนก็ไม่ได้ ดังนั้นต้องใช้วิธีเหมือนสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ใช้กิจกรรมและการทำงาน ประเด็นข่าวจะตามมาเอง ต่อไปใครจะปฏิวัติก็ไม่ได้ เพราะไม่ได้ประโยชน์ต่อประชาชน อีกทั้งกองงานโฆษกทำเนียบรัฐบาลต้องทำงานเป็นเชิงยุทธศาสตร์ โดยให้กระทรวงต่างๆ ส่งข้อมูลมา เพื่อกำหนดประเด็นก่อนที่จะให้นายกฯพูดผ่านรายการสนทนาประสาสมัคร ไม่ใช่ปล่อยให้มีการพูดผ่านรายการโดยธรรมชาติ จนมีบางประเด็นแทรกขึ้นมา เช่น การเปิดบ่อนกาสิโน เมื่อพูดแล้วก็เงียบหายไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า ทุกคนในพรรคสามารถแสดงความเห็นได้เพื่อให้เป็นแนวทางปฏิบัติที่ดี

ร.ท.กุเทพ กล่าวด้วยว่า เมื่อสภาปิดประชุมสมัยสามัญ นายสมัคร เคยระบุว่า จะจัดสัมมนา ส.ส.ของพรรคที่ต่างจังหวัด เพื่อเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน จึงเป็นโอกาสดีที่จะสะท้อนปัญหาให้นายกฯรับทราบ ขณะนี้ปัญหามะรุมมะตุ้ม รัฐบาลจึงต้องนำเสนอผ่านสื่อไปก่อน ยอมถูกตำหนิ และพรรคจำเป็นต้องเสนอแนวทางการทำงานด้านต่างๆ ไปถึงรัฐบาลเหมือนกัน เพราะรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่มา อย่างไรก็ตาม ที่พูดทั้งหมดมาจากสามัญสำนึก ไม่มีใครมาบงการอยู่แล้ว

ร.ท.กุเทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ยืนยันว่าสิ่งที่ตนแสดงความเห็นไปนั้นเป็นไปตามหลักการ แต่มีการเอาไปนำเสนอในทำนองสั่งสอนหัวหน้าพรรค ตนไม่รู้จะพูดอย่างไร ตนเปิดกว้างรับข้อเสนอหรือความเห็นของทุกคน อย่างกรณีของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ที่พูดแสดงความเห็นมาถึงตนนั้นตนก็ยินดีรับฟัง ยืนยันว่าทุกคนในพรรคสามารถแสดงความเห็นได้เพื่อให้เป็นแนวทางปฏิบัติที่ดี

ส่วนที่ตนแนะนำท่านนายกรัฐมนตรีไปนั้น เนื่องจากช่วงนี้นายกรัฐมนตรีเดินทางไปต่างประเทศบ่อย รวมทั้งในการประชุมพวกเราสมาชิกพรรคก็ไม่ค่อยมีโอกาสพูดคุยกับหัวหน้าพรรค จึงไม่ได้ให้ข้อคิดเห็นหรือคำแนะนำต่างๆ ต่อหัวหน้าพรรค จึงจำเป็นต้องออกมาพูดกันคนละทีอย่างนี้ ยืนยันว่าในพรรคไม่มีปัญหาอะไร เราเห็นนายกรัฐมนตรีมีเวลาน้อยจึงไม่มีโอกาสได้รับฟังข้อมูล ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นสมัยประชุมสภาก็คงจะมีโอกาสจัดสัมมนาร่วมกันทั้งพรรคเพื่อให้มีโอกาสได้พูดคุยกันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงระหว่างวันที่ 1-6 เมษายน ตนจะเดินทางไปกรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อร่วมประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภาสากล หรือไอพียู

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า การออกมาพูดถึงนายสมัครครั้งนี้เป็นใบสั่งจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ตนขอปฏิเสธอย่างหนักแน่น ยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้อยู่เบื้องหลังการพูดของตน แต่เป็นความคิดเห็นส่วนตัว และที่พูดเพื่อไม่ต้องการให้ท่านนายกรัฐมนตรีหลงประเด็นข่าว ไม่อยากให้ข่าวไม่ดีออกมาเบียดบังข่าวการทำงานของรัฐบาล

พปช.แฉกันเอง“กุเทพ” ด่า“สมัคร”เพราะเสียผลประโยชน์

รายงานข่าวจากพรรคพลังประชาชนเปิดเผยว่า กรณีที่ ร.ท.กุเทพ ออกมาพูดพาดพิงถึงนายสมัคร นั้น เป็นเพราะที่ผ่านมา ร.ท.กุเทพ ทำให้สมาชิกในพรรคไม่พอใจหลายกรณี เช่น กรณีที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้จัดสรรผู้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมาธิการ รวมทั้ง ร.ท.กุเทพไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องตำแหน่งในรัฐบาลชุดนี้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไร เพราะร.ท.กุเทพไม่มีพาวเวอร์อะไรในพรรค