แก๊ง “ประชา” ฝืนคำสั่ง “หัวหน้าหมัก” เปิดตัวกลุ่มมหาประชาชนฯ อ้างปกป้องประชาธิปไตย จัดเวทีชนพันธมิตรฯ 28 มี.ค.กล่าวหาดื้อๆ สร้างความวุ่นวาย เป็นอันธพาลป่วนเมือง พร้อมแปลงตู้ ปณ.ทำเนียบ รับไปรษณียบัตรต่อต้านพันธมิตรฯ แถมขู่มีคนพร้อมเข้าตี
วันนี้ (26 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ห้องสีดา โรงแรมรัตนโกสินทร์ มีการแถลงเปิดตัว “กลุ่มมหาประชาชนร่วมพิทักษ์ประชาธิปไตย” อย่างเป็นทางการ นำโดย นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคพลังประชาชน นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา พร้อม นพ.วัลลภ ยังตรง อดีต ส.ส.สมุทรปราการ นายวัฒนา เซ่งไพเราะ อดีต ส.ส.กทม.พรรคไทยรักไทย และ นายบุญยงค์ จรัสจรูญฤทธิ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานี มีการแจกเสื้อโปโลปักสัญลักษณ์ของกลุ่มให้กับแกนนำกลุ่มด้วย โดยมีประชาชนสนใจร่วมฟังประมาณ 50 คน
นายประชา แถลงว่า เวลา 1 ปี 6 เดือน ประเทศไทยได้รับความบอบช้ำ เจ็บปวด เกียรติภูมิของชาติ ตกต่ำลงอย่างมากมายในสายอารยประเทศ สภาพเศรษฐกิจถดถอย สังคมเสื่อมทรามลง โอกาสการพัฒนาประเทศหลุดลอยไป เป็นผลมาจากการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นผู้ออกมาเคลื่อนไหว เรียกร้องและสร้างเงื่อนไขก่อให้เกิดความวุ่นวาย ต่อมาถูกคณะทหารในนาม คปค.นำไปเป็นข้ออ้างในการนำกำลังทหารออกมายึดอำนาจจากรัฐบาล และหลังจากได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญปี 2550 ที่ยกร่างโดยคณะบุคคลที่เป็นตัวแทน คปค.หลายคนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพันธมิตรฯ จนอาจกล่าวได้ว่าฝ่ายรัฐประหาร และพันธมิตรฯ เป็นผู้กำหนดกติกาการเมืองในรัฐธรรมนูญขึ้นมาเองและมีการเลือกตั้งจนมี ส.ส.และรัฐบาลที่มาจากเลือกตั้งรวมถึง ส.ว.จากแต่งตั้ง และเลือกตั้งเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญดังกล่าวแล้ว
“แต่ว่ากลุ่มพันธมิตรฯ กลับไม่พอใจผลการตัดสินใจของประชาชนผ่านการเลือกตั้ง จึงได้ประกาศนัดชุมนุมและทำการเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกครั้งในวันที่ 28 มี.ค.นี้ ซึ่งมีเจตนาสร้างความวุ่นวาย ไม่รู้จักจบสิ้น ยุยงก่อให้เกิดความแตกแยก และการไม่เคารพกติกาทางการเมือง จะทำให้ประเทศชาติต้องจมปลักในความทุกข์ระทม ทั้งที่เศรษฐกิจตกอยู่ในความยุ่งยากอยู่แล้ว ต้องช้ำร้ายลงไปอีกด้วยระบบการเมืองที่ไม่มั่นคง ประชาชนตกอยู่ในความสิ้นหวัง ไม่มีอนาคต รัฐบาลจะเป็นรัฐที่ล้มเหลวในการปกครอง ท้ายที่สุดจะนำไปสู่ล่มสลาย กลุ่มคนนอกกฎหมายเหล่านี้เพียงไม่กี่คน ทำตนเป็นอันธพาล ขี้แพ้ชวนตี แสดงอำนาจบาตรใหญ่ออกรัฐธรรมนูญ ข่มขู่ คุกคามสวัสดิภาพของประเทศชาติอย่างร้ายแรง ก่อกวน และทำลายเสถียรภาพของรัฐบาลที่เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และมาจากการเลือกตั้งของปวงชนชาวไทยผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย” นายประชา อ้าง
นายประชา กล่าวอีกว่า กลุ่มมหาประชาชนฯ จึงได้เกิดขึ้นจากประชาชนที่ต้องการปกป้องตนเอง สังคม และประเทศชาติ ตามสิทธิพื้นฐานแห่งความเป็นมนุษย์และพลเมือง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ในเมื่อผ่านการเลือกตั้งได้ข้อสรุปทางการเมืองภายใต้กติกาอันเป็นที่ยอมรับของประชาชนแล้ว ความขัดแย้งทางการเมืองควรจะยุติลงได้แล้ว ประเทศชาติควรจะเดินหน้าต่อไปหลังจากสะดุดหยุดมานาน โดยกลุ่มจะร่วมทำตามกฎหมาย ทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย และทำให้กติกาของสังคมมีความศักดิ์สิทธิ์ เพื่อพิทักษ์รักษาและปกครองระบอบประชาธิปไตยไว้ พร้อมจะเป็นเวทีคู่ขนานเพื่อสร้างสรรค์สังคมประชาธิปไตยที่ยึดมั่นในกติกา เพื่อวิงวอน และบอกให้สังคมรับรู้ว่าความขัดแย้งทางการเมืองและความแตกแยกทางความคิด แก้ได้โดยวิธีเดียวคือการที่ทุกคนต้องยอมรับกติกาของสังคมที่เราทุกคนมีส่วนร่วมในการกำหนดขึ้นมา เราจะดำเนินกิจกรรมโดยปราศจากความรุนแรงและยึดกฎหมายเป็นตัวตั้ง โดยเปิดกว่างให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมในการปกป้องตนเองและประเทศชาติด้วยกัน
ลั่นเปิดเวทีคู่ขนาน ชน ขู่แฉ 5 พันธมิตรฯ
นอกจากนี้ นายประชา ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการเคลื่อนไหวในวันที่ 28 มี.ค.นี้ กลุ่มมหาประชาชนฯ จะจัด “เวทีคูขนานสร้างสรรค์สังคม” เวลา 17.00 น.เพื่อเปิดโปงข้อมูลข้อเท็จจริงของแกนนำ 5 พันธมิตร ที่ประชาชนยังไม่เคยรับรู้ พร้อมกันนี้ จะมีการเปิดเวทีในภาคเหนือเช่นกันด้วย ส่วนการจัดครั้งที่ 2 และ 3 จะมีการประกาศต่อไป อย่างไรก็ตาม เรายืนยันจะปักหลักจัดในโรงแรมเท่านั้น ส่วนหากจะมีประชาชนกลุ่มอื่นใดไปเคลื่อนไหวข้างนอก หรือปักหลักที่ท้องสนามหลวงนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับทางกลุ่มแต่อย่างใดทั้งสิ้น เป็นเรื่องของประชาชนและเป็นสิทธิที่สามารถแสดงพลังได้
เปิดตู้ ปณ.ทำเนียบ รับ จม.ต้านพันธมิตรฯ
นายบุญจง ในฐานะตัวแทนภาคอีสาน กล่าวว่า ทางกลุ่มมีเจตนารมณ์ชัดเจนเพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่วันนี้กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาเคลื่อนไหวจุดประเด็นจะนำไปสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง ขอเรียกร้องให้พันธมิตรฯ หยุดสร้างความวุ่นวาย ความแตกแยกในสังคม หรือจุดชนวนขึ้นอีก ซึ่งเราจะไม่ยอมให้กลับไปสู่จุดเดิมๆ เราต้องการเห็นบ้านเมืองมีความมั่นคง จึงต้องรวมกันเพื่อให้ความรู้กับประชาชนเป็นคู่ขนานว่าพันธมิตรฯ ได้สร้างความเสียหายแก่บ้านเมืองอย่างไร และขอยืนยันว่า จะไม่มีการขนคนมาชนพันธมิตรฯเพื่อให้เกิดความขัดแย้งให้เป็นข้ออ้างในการยึดอำนาจ แต่จะพยายามติดอาวุธทางปัญญา จึงขอเชิญชวนประชาชน นักวิชาการทุกภาคส่วนมาร่วมกันพิทักษ์ประชาธิปไตย
นายบุญจง ได้เชิญชวนให้ประชาชนส่งไปรษณียบัตร ใบละ 2 บาท เพื่อแสดงความคิดเห็นว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่จะนำไปสู่ความวุ่นวาย โดยส่งไปที่ ตู้ ปณ.1111 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อสะท้อนความคิดเห็นอีกทางด้วย
ปลุกจังหวัดละ 500 รวมตัว อ้างต้านเผด็จการ
นายสงวน ในฐานะตัวแทนภาคเหนือ กล่าวเสริมว่า การรวมตัวของภาคประชาชนมีมานานแล้ว แต่วันนี้อยากให้ประชาชนแต่ละจังหวัดรวมตัวจังหวัดละ 500 คน เพื่อประกาศไม่รับอำนาจเผด็จการที่ปล้นชาติ ปล้นแผ่นดิน เชื่อว่า ทหารไม่กล้าปฏิวัติยึดอำนาจ เพราะผลที่ผ่านมาสร้างความเสียหายแก่ประเทศมหาศาล ดังนั้น การรวมตัวเป็นกลุ่มเพื่อร่วมกันรักษาดูแลบ้านเมืองเพื่อลูกหลานในอนาคต
“แม้ว่าพวกเราจะเป็น ส.ส.ในพรรคพลังประชาชน แต่ในพรรคเราไม่เคยพูดถึง ไม่มีใครกล้าถาม แม้ท่านหัวหน้าพรรคยังไม่ถาม ต้องไปพูดผ่านสื่อเพื่อเราตั้งใจมีความแน่วแน่ ลงทุนด้วยชีวิต ซึ่งไม่จำเป็นต้องขนคนมาทะเลาะ เราไม่ต่อต้าน ขอให้พันธมิตรฯ ชุมนุมตามสบาย แต่เราจะทำงานการเมืองภาคประชาชน กลุ่มพันธมิตรฯทำอย่างไรเราก็จะทำอย่างนั้น” นายสงวนกล่าว
“หมอวัลลภ” ขู่มีคนพร้อมตีพันธมิตรฯ
ด้าน นพ.วัลลภ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทุกคนทราบดีว่าผลจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ได้สร้างความวุ่นวาย เกิดความเสียหายให้ประเทศชาติมหาศาล การตั้งกลุ่มนี้ขึ้นพร้อมเป็นเวทีหนึ่งเพื่อเป็นทางออกให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ปกป้องประเทศ และเราเชื่อว่ามีคนที่พร้อมเข้าไปตีกับกลุ่มพันธมิตรอย่างแน่นอน จึงขอเตือนพันธมิตรฯ ว่าให้เคลื่อนไหวในกรอบกฎหมาย อย่าทำอะไรนอกกรอบ หรือเอาเรื่องเท็จมาพูด เพราะเราพร้อมตอบโต้ทุกเรื่องทุกประเด็นกับพันธมิตรฯ
นพ.วัลลภ อ้างว่า ถึงวันนี้เราทราบดีว่ากลุ่มพันธมิตรฯคงมีประชาชนไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯไม่กี่คน เพราะหลายคนรู้ความจริงแล้ว ดังนั้น การรวมตัวเหมือนในอดีต คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
สำหรับการประกาศตัวตั้งกลุ่มมหาประชาชนฯ ครั้งนี้ ถือว่าสวนทางกับคำพูดของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่พูดผ่านรายการ “สนทนาประสาสมัคร” เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า ได้ห้ามลูกพรรคไม่ให้เคลื่อนไหวใดๆ เพื่อเผชิญหน้ากับพันธมิตรฯ
"ชัย"วอนพันธมิตรฯ หยุดต้าน
ส่วนที่รัฐสภา เมื่อเวลา 18.00 น. นายชัย ชิดชอบ ประธานคณะกรรมการประสานพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยระบุว่าหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะนำกำลังประชาชนออกมาต่อต้าน ว่า ตนขอวิงวอนว่าอย่าสร้างปัญหาและความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในประเทศอีกเลย แม้ว่าจะเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่จะสามารถทำได้ แต่อยากให้ใช้ดุลยพินิจ และเข้าใจว่ากระบวนการดำเนินการทางกฎหมายไม่ใช่ทำอย่างรวบรัด เพราะถือว่าเป็นงานใหญ่ แม้จะเป็นเรื่องธรรมดา ทางที่ประชุมสภา ทั้งวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้ง 480 คน จะต้องใช้ความรอบคอบ และรับฟังความเห็นจากรอบด้าน อย่างไรก็ตามรัฐบาลพร้อมที่จะรับฟังคำท้วงติงจากประชาชนทุกภาคส่วน
นายชัย กล่าวด้วยว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ซึ่งอาจจะถึง 1-2 ปี เพราะว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเป็นกฎหมายแม่บท จะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นจากหลายๆ ฝ่าย ทั้งนักวิชาการ ประชาชน ส่วนที่มีการระบุว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะใช้เวลา 3 เดือนนั้น ตนมองว่าเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
วันนี้ (26 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ห้องสีดา โรงแรมรัตนโกสินทร์ มีการแถลงเปิดตัว “กลุ่มมหาประชาชนร่วมพิทักษ์ประชาธิปไตย” อย่างเป็นทางการ นำโดย นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคพลังประชาชน นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา พร้อม นพ.วัลลภ ยังตรง อดีต ส.ส.สมุทรปราการ นายวัฒนา เซ่งไพเราะ อดีต ส.ส.กทม.พรรคไทยรักไทย และ นายบุญยงค์ จรัสจรูญฤทธิ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานี มีการแจกเสื้อโปโลปักสัญลักษณ์ของกลุ่มให้กับแกนนำกลุ่มด้วย โดยมีประชาชนสนใจร่วมฟังประมาณ 50 คน
นายประชา แถลงว่า เวลา 1 ปี 6 เดือน ประเทศไทยได้รับความบอบช้ำ เจ็บปวด เกียรติภูมิของชาติ ตกต่ำลงอย่างมากมายในสายอารยประเทศ สภาพเศรษฐกิจถดถอย สังคมเสื่อมทรามลง โอกาสการพัฒนาประเทศหลุดลอยไป เป็นผลมาจากการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นผู้ออกมาเคลื่อนไหว เรียกร้องและสร้างเงื่อนไขก่อให้เกิดความวุ่นวาย ต่อมาถูกคณะทหารในนาม คปค.นำไปเป็นข้ออ้างในการนำกำลังทหารออกมายึดอำนาจจากรัฐบาล และหลังจากได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญปี 2550 ที่ยกร่างโดยคณะบุคคลที่เป็นตัวแทน คปค.หลายคนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพันธมิตรฯ จนอาจกล่าวได้ว่าฝ่ายรัฐประหาร และพันธมิตรฯ เป็นผู้กำหนดกติกาการเมืองในรัฐธรรมนูญขึ้นมาเองและมีการเลือกตั้งจนมี ส.ส.และรัฐบาลที่มาจากเลือกตั้งรวมถึง ส.ว.จากแต่งตั้ง และเลือกตั้งเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญดังกล่าวแล้ว
“แต่ว่ากลุ่มพันธมิตรฯ กลับไม่พอใจผลการตัดสินใจของประชาชนผ่านการเลือกตั้ง จึงได้ประกาศนัดชุมนุมและทำการเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกครั้งในวันที่ 28 มี.ค.นี้ ซึ่งมีเจตนาสร้างความวุ่นวาย ไม่รู้จักจบสิ้น ยุยงก่อให้เกิดความแตกแยก และการไม่เคารพกติกาทางการเมือง จะทำให้ประเทศชาติต้องจมปลักในความทุกข์ระทม ทั้งที่เศรษฐกิจตกอยู่ในความยุ่งยากอยู่แล้ว ต้องช้ำร้ายลงไปอีกด้วยระบบการเมืองที่ไม่มั่นคง ประชาชนตกอยู่ในความสิ้นหวัง ไม่มีอนาคต รัฐบาลจะเป็นรัฐที่ล้มเหลวในการปกครอง ท้ายที่สุดจะนำไปสู่ล่มสลาย กลุ่มคนนอกกฎหมายเหล่านี้เพียงไม่กี่คน ทำตนเป็นอันธพาล ขี้แพ้ชวนตี แสดงอำนาจบาตรใหญ่ออกรัฐธรรมนูญ ข่มขู่ คุกคามสวัสดิภาพของประเทศชาติอย่างร้ายแรง ก่อกวน และทำลายเสถียรภาพของรัฐบาลที่เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และมาจากการเลือกตั้งของปวงชนชาวไทยผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย” นายประชา อ้าง
นายประชา กล่าวอีกว่า กลุ่มมหาประชาชนฯ จึงได้เกิดขึ้นจากประชาชนที่ต้องการปกป้องตนเอง สังคม และประเทศชาติ ตามสิทธิพื้นฐานแห่งความเป็นมนุษย์และพลเมือง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ในเมื่อผ่านการเลือกตั้งได้ข้อสรุปทางการเมืองภายใต้กติกาอันเป็นที่ยอมรับของประชาชนแล้ว ความขัดแย้งทางการเมืองควรจะยุติลงได้แล้ว ประเทศชาติควรจะเดินหน้าต่อไปหลังจากสะดุดหยุดมานาน โดยกลุ่มจะร่วมทำตามกฎหมาย ทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย และทำให้กติกาของสังคมมีความศักดิ์สิทธิ์ เพื่อพิทักษ์รักษาและปกครองระบอบประชาธิปไตยไว้ พร้อมจะเป็นเวทีคู่ขนานเพื่อสร้างสรรค์สังคมประชาธิปไตยที่ยึดมั่นในกติกา เพื่อวิงวอน และบอกให้สังคมรับรู้ว่าความขัดแย้งทางการเมืองและความแตกแยกทางความคิด แก้ได้โดยวิธีเดียวคือการที่ทุกคนต้องยอมรับกติกาของสังคมที่เราทุกคนมีส่วนร่วมในการกำหนดขึ้นมา เราจะดำเนินกิจกรรมโดยปราศจากความรุนแรงและยึดกฎหมายเป็นตัวตั้ง โดยเปิดกว่างให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมในการปกป้องตนเองและประเทศชาติด้วยกัน
ลั่นเปิดเวทีคู่ขนาน ชน ขู่แฉ 5 พันธมิตรฯ
นอกจากนี้ นายประชา ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการเคลื่อนไหวในวันที่ 28 มี.ค.นี้ กลุ่มมหาประชาชนฯ จะจัด “เวทีคูขนานสร้างสรรค์สังคม” เวลา 17.00 น.เพื่อเปิดโปงข้อมูลข้อเท็จจริงของแกนนำ 5 พันธมิตร ที่ประชาชนยังไม่เคยรับรู้ พร้อมกันนี้ จะมีการเปิดเวทีในภาคเหนือเช่นกันด้วย ส่วนการจัดครั้งที่ 2 และ 3 จะมีการประกาศต่อไป อย่างไรก็ตาม เรายืนยันจะปักหลักจัดในโรงแรมเท่านั้น ส่วนหากจะมีประชาชนกลุ่มอื่นใดไปเคลื่อนไหวข้างนอก หรือปักหลักที่ท้องสนามหลวงนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับทางกลุ่มแต่อย่างใดทั้งสิ้น เป็นเรื่องของประชาชนและเป็นสิทธิที่สามารถแสดงพลังได้
เปิดตู้ ปณ.ทำเนียบ รับ จม.ต้านพันธมิตรฯ
นายบุญจง ในฐานะตัวแทนภาคอีสาน กล่าวว่า ทางกลุ่มมีเจตนารมณ์ชัดเจนเพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่วันนี้กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาเคลื่อนไหวจุดประเด็นจะนำไปสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง ขอเรียกร้องให้พันธมิตรฯ หยุดสร้างความวุ่นวาย ความแตกแยกในสังคม หรือจุดชนวนขึ้นอีก ซึ่งเราจะไม่ยอมให้กลับไปสู่จุดเดิมๆ เราต้องการเห็นบ้านเมืองมีความมั่นคง จึงต้องรวมกันเพื่อให้ความรู้กับประชาชนเป็นคู่ขนานว่าพันธมิตรฯ ได้สร้างความเสียหายแก่บ้านเมืองอย่างไร และขอยืนยันว่า จะไม่มีการขนคนมาชนพันธมิตรฯเพื่อให้เกิดความขัดแย้งให้เป็นข้ออ้างในการยึดอำนาจ แต่จะพยายามติดอาวุธทางปัญญา จึงขอเชิญชวนประชาชน นักวิชาการทุกภาคส่วนมาร่วมกันพิทักษ์ประชาธิปไตย
นายบุญจง ได้เชิญชวนให้ประชาชนส่งไปรษณียบัตร ใบละ 2 บาท เพื่อแสดงความคิดเห็นว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่จะนำไปสู่ความวุ่นวาย โดยส่งไปที่ ตู้ ปณ.1111 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อสะท้อนความคิดเห็นอีกทางด้วย
ปลุกจังหวัดละ 500 รวมตัว อ้างต้านเผด็จการ
นายสงวน ในฐานะตัวแทนภาคเหนือ กล่าวเสริมว่า การรวมตัวของภาคประชาชนมีมานานแล้ว แต่วันนี้อยากให้ประชาชนแต่ละจังหวัดรวมตัวจังหวัดละ 500 คน เพื่อประกาศไม่รับอำนาจเผด็จการที่ปล้นชาติ ปล้นแผ่นดิน เชื่อว่า ทหารไม่กล้าปฏิวัติยึดอำนาจ เพราะผลที่ผ่านมาสร้างความเสียหายแก่ประเทศมหาศาล ดังนั้น การรวมตัวเป็นกลุ่มเพื่อร่วมกันรักษาดูแลบ้านเมืองเพื่อลูกหลานในอนาคต
“แม้ว่าพวกเราจะเป็น ส.ส.ในพรรคพลังประชาชน แต่ในพรรคเราไม่เคยพูดถึง ไม่มีใครกล้าถาม แม้ท่านหัวหน้าพรรคยังไม่ถาม ต้องไปพูดผ่านสื่อเพื่อเราตั้งใจมีความแน่วแน่ ลงทุนด้วยชีวิต ซึ่งไม่จำเป็นต้องขนคนมาทะเลาะ เราไม่ต่อต้าน ขอให้พันธมิตรฯ ชุมนุมตามสบาย แต่เราจะทำงานการเมืองภาคประชาชน กลุ่มพันธมิตรฯทำอย่างไรเราก็จะทำอย่างนั้น” นายสงวนกล่าว
“หมอวัลลภ” ขู่มีคนพร้อมตีพันธมิตรฯ
ด้าน นพ.วัลลภ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทุกคนทราบดีว่าผลจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ได้สร้างความวุ่นวาย เกิดความเสียหายให้ประเทศชาติมหาศาล การตั้งกลุ่มนี้ขึ้นพร้อมเป็นเวทีหนึ่งเพื่อเป็นทางออกให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ปกป้องประเทศ และเราเชื่อว่ามีคนที่พร้อมเข้าไปตีกับกลุ่มพันธมิตรอย่างแน่นอน จึงขอเตือนพันธมิตรฯ ว่าให้เคลื่อนไหวในกรอบกฎหมาย อย่าทำอะไรนอกกรอบ หรือเอาเรื่องเท็จมาพูด เพราะเราพร้อมตอบโต้ทุกเรื่องทุกประเด็นกับพันธมิตรฯ
นพ.วัลลภ อ้างว่า ถึงวันนี้เราทราบดีว่ากลุ่มพันธมิตรฯคงมีประชาชนไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯไม่กี่คน เพราะหลายคนรู้ความจริงแล้ว ดังนั้น การรวมตัวเหมือนในอดีต คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
สำหรับการประกาศตัวตั้งกลุ่มมหาประชาชนฯ ครั้งนี้ ถือว่าสวนทางกับคำพูดของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่พูดผ่านรายการ “สนทนาประสาสมัคร” เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า ได้ห้ามลูกพรรคไม่ให้เคลื่อนไหวใดๆ เพื่อเผชิญหน้ากับพันธมิตรฯ
"ชัย"วอนพันธมิตรฯ หยุดต้าน
ส่วนที่รัฐสภา เมื่อเวลา 18.00 น. นายชัย ชิดชอบ ประธานคณะกรรมการประสานพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยระบุว่าหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะนำกำลังประชาชนออกมาต่อต้าน ว่า ตนขอวิงวอนว่าอย่าสร้างปัญหาและความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในประเทศอีกเลย แม้ว่าจะเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่จะสามารถทำได้ แต่อยากให้ใช้ดุลยพินิจ และเข้าใจว่ากระบวนการดำเนินการทางกฎหมายไม่ใช่ทำอย่างรวบรัด เพราะถือว่าเป็นงานใหญ่ แม้จะเป็นเรื่องธรรมดา ทางที่ประชุมสภา ทั้งวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้ง 480 คน จะต้องใช้ความรอบคอบ และรับฟังความเห็นจากรอบด้าน อย่างไรก็ตามรัฐบาลพร้อมที่จะรับฟังคำท้วงติงจากประชาชนทุกภาคส่วน
นายชัย กล่าวด้วยว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ซึ่งอาจจะถึง 1-2 ปี เพราะว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเป็นกฎหมายแม่บท จะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นจากหลายๆ ฝ่าย ทั้งนักวิชาการ ประชาชน ส่วนที่มีการระบุว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะใช้เวลา 3 เดือนนั้น ตนมองว่าเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน