“หัวหน้าปลาไหล” สุดกลั้นกล่าวโทษ “สุเมธ” ไร้มายาทชี้นำ กกต.ใบแดงพ่วงยุบพรรค เปิดใจยอมเสียสัตย์เสียบพลังแม้วเพื่อชาติ หนุน “สมัคร” นั่งนายกฯ ครบวาระ 4 ปี เชื่อไม่มีใบสั่งจากผู้ใหญ่ยุบเหลือเพียงพรรคเดียว ชี้ทางออกยุบสภาแก้ปัญหาบ้านเมืองวุ่นวายแน่
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายบรรหาร ศิลปอาชา พูดในการประชุมใหญ่พรรคชาติไทยประจำปี 2551
วันนี้ (21 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมใหญ่พรรคชาติไทยประจำปี 2551 ณ ห้องฟีนิกซ์ อิมแพค เมืองทองธานี โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักเนื่องจากแกนนำพรรคและสมาชิกพรรคได้เดินทางเข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง เช่น นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยและรองนายกฯ นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทย นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รองหัวหน้าพรรคและรัฐมนตรีว่าการกรระทรวงการท่องเที่ยวฯ นายอนุรักษ์ จุรีมาศ รองหัวหน้าพรรคและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายจองชัย เที่ยงธรรม นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย นายสมพัฒน์ แก้วพิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ และนางสาวจณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ โฆษกพรรคชาติไทย
โดยที่ประชุมได้มีการรับรองรายงานการประชุมใหญ่พิจารณาการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองและรับรองงบการเงินประจำปี 2550 พร้อมทั้งได้มีการถกกันในประเด็นการแก้ไขข้อบังคับการประชุม โดยนายบรรหารได้ปรารภถึงรัฐธรรมนูญปี 2550 ว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำให้เกิดความยุ่งยากในการดำเนินการของพรรคการเมือง อย่างเรื่องการลงคะแนนภายในพรรค ซึ่งแบบนี้ถือว่าเป็นการบั่นทอนทางการเมืองของประเทศไทยหรือเปล่า หรือว่าจะทำให้การเมืองไทยดีขึ้น ซึ่งตนเห็นด้วยที่ต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
จากนั้น พล.ต.สนั่น พร้อมด้วยรัฐมนตรีของพรรคชาติไทยได้ร่วมกันบรรยายพิเศษเรื่อง “ความรับผิดชอบของรัฐมนตรีพรรคชาติไทยในรัฐบาลชุดปัจจุบัน” โดยรัฐมนตรีของพรรคได้บรรยายถึงหน้าที่ความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมายในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช นอกจากนี้ พล.ต.สนั่น ได้กล่าวยืนยันว่า ตนและรัฐมนตรีของพรรคจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อนำนโยบายของพรรคนำไปสู่การปฏิบัติให้ได้ และจะรักษาเกียรติยศชื่อเสียงของพรรคให้ดีที่สุด
ด้าน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาที่สำคัญสำหรับเกษตรกร คือ เรื่องปัญหาราคาปุ๋ยที่มีราคาแพง ซึ่งในวันอังคารนี้ตนจะเชิญเอกอัครราชทูตจีนมาหารือในเรื่องนี้ นอกนั้นก็จะคุยกับทางลิเบียเพื่อหาช่องทางต่อไป ซึ่งเชื่อว่าหากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบกับแนวทางเหล่านี้ เชื่อว่าจะเป็นการเพิ่มช่องทางเลือกของราคาปุ๋ยมากขึ้น
ขณะที่ นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า การทำงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้พยายามส่งเสริมในหลายด้าน การท่องเที่ยวซึ่งจะสนับสนุนให้ลงลึกในระดับชุมชน ส่วนด้านกีฬาจะเริ่มสนับสนุนตั้งแต่ระดับชุมชนเช่นกันเพื่อพัฒนาไปสู่การเป็นมืออาชีพ พร้อมสนับสนุนให้มีโทรทัศน์ช่องกีฬา กระตุ้นให้ประชาชนมีความสนใจเรื่องกีฬา
ต่อมา นายบรรหารได้ปราศรัยกับสมาชิกพรรคว่า ตนอยู่พรรคชาติไทยมา 32 ปี เป็นรองเลขาธิการพรรคอยู่ 3 ปี เลขาธิการพรรค 15 ปี และหัวหน้าพรรค 15 ปี พรรคชาติไทยดำรงอยู่ได้ด้วยสามัคคี ก้าวหน้า และมั่นคง ซึ่งตนอยู่พรรคชาติไทยก็พยายามทำให้พรรคเจริญก้าวหน้า มั่นคงอยู่ตลอด การที่เลือกตั้ง 23 ธ.ค.ที่ผ่านมาเรายังไม่เคยมีการประชุมใหญ่เลย วันนี้จึงขอพูดว่าทำไมพรรคชาติไทยจึงร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีการแบ่งการหาเสียงเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายพรรคพลังประชาชน และฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติไทย แต่หลังเลือกตั้งเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมาย พรรคชาติไทยซึ่งคิดว่าได้ 50 กว่าที่นั่งได้แค่ 34 ที่นั่ง เมื่อตัวเลขออกมาอย่างนี้เราจะทำอย่างไร เมื่อพรรคพลังประชาชนได้เสียงข้างมาก ฝ่ายพวกเราก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ เขาเล่นการเมืองสูงจับกับพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา พรรคประชาราช พรรคมัชฌิมาธิปไตย เมื่อรวมอย่างนี้ฝ่ายไหนก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ ตนเรียนว่าการรักษาสัจจะต้องดูเหตุการณ์บ้านเมืองด้วย หากบ้านเมืองไปไม่รอดก็ต้องตัดสินใจ เมื่อพรรคพลังประชาชนทาบทามให้พรรคชาติไทยร่วมรัฐบาล ตนจึงตัดสินใจโดยพลการ แต่ก็ได้ถามสมาชิกทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ฝ่ายที่เห็นด้วยมีมากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม การเข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้ตนเจ็บมาพอสมควร ถูกต่อว่าก็เยอะ ชมก็มี แต่ต้องนึกถึงประชาชนไว้ก่อน
“ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าถ้าพรรคชาติไทยมาร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนจะถูกใบแดง ผมไม่เชื่อเท่าไหร่ แต่ก็ต้องเชื่อ เพราะเมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ชัยนาทถูกใบแดง และอาจถูกยุบพรรค ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ตอนนี้เหตุการณ์ใกล้เคียงแล้ว ผมไม่พูดว่ามีใบสั่งหรือไม่ บอกไม่ได้ แต่ที่นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ออกมาพูด จริงๆ ท่านไม่ควรพูดที่บอกว่ามาตรา 237 (2) ของรัฐธรรมนูญปี 2550 กับ มาตรา 103 (2) ของ พ.ร.บ.พรรคการเมืองใช้คำพูดว่าหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคต้องรับผิดชอบ เรื่องนี้ก็ต้องดูด้วยว่าพรรคยับยั้งหรือไม่ ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย ผมขอตำหนินายสุเมธ ไม่น่าพูดอย่างนี้ เป็นการชี้นำ แล้วบอกว่า กกต.ส่วนใหญ่เห็นด้วย ทั้งที่เรื่องยังอยู่ที่ที่ปรึกษา ซึ่งโดยมารยาทแล้วคนพูดเรื่องนี้ต้องเป็นประธาน กกต. อย่างการประชุมพรรคเราก็บอกแล้วเราห้ามแล้ว มีการเซ็นรับรองด้วย ปราศรัยทุกทีเราก็บอกหมด นี่เป็นความคิดที่ผมให้การไป แล้วท่านกลับบอกว่าให้แปลกฎหมายด้วย ผมว่าแบบนี้มันไม่ถูก นี่คือที่มาที่ไปขอให้ใจเย็น ระยะทางยังอีกยาวไกลต้องสู้ต่อไป ผมอยู่การเมืองมา 30 ปี ฝนห่าใหญ่ก็เจอมาแล้ว แต่ตอนนี้ไม่รู้เจอฝนห่าอะไร ตอบไม่ได้ว่าสู้กับอะไร แต่ไม่เชื่อว่าจะมีใบสั่งจากผู้ใหญ่มา ที่บอกว่าพรรคการเมืองจะเหลือพรรคเดียวแบบนี้บ้านเมืองจะวิปริต แล้วประเทศชาติจะเดินไปได้อย่างไร ผมพูดแบบนี้ไม่กลัว เพราะตอนนี้อายุ 75 แล้ว” นายบรรหาร กล่าว
นายบรรหาร กล่าวต่อว่า ถ้ายุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่คงไม่ไหวแล้ว เพราะฉะนั้น การตัดสินใจของพรรคชาติไทยจะผิดหรือถูกตนขอรับผิดชอบคนเดียว แต่เห็นว่าถ้าหากไม่มีรัฐบาลนี้ปัญหาอีกหลายอย่างจะเกิดขึ้นแน่นอน เมื่อมันไปไม่ได้แล้วจะอยู่ต่อไปได้อย่างไร เดือน พ.ค.ก็เลือกตั้งกันใหม่อีก ไม่ไหวแล้วต้องหนีไปอยู่ที่อื่นแล้ว ถ้ายุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ไม่ไหว อย่างน้อยก็เอาอย่างที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ ว่าให้อยู่ให้ครบ 4 ปีก็แล้วกัน ดังนั้น ขอฝากไปที่คนที่จะมายุบพรรคต้องให้ความเป็นธรรมไม่ใช่เอากฎหมายอย่างเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุม นายบรรหารได้เดินทางออกจากห้องประชุมทันทีเพื่อไปรับประทานอาหาร โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่รออยู่ อย่างไรก็ตาม ระหว่างการประชุมพรรคชาติไทย ผู้สื่อข่าวได้ดักรอเพื่อที่จะขอสัมภาษณ์แต่ปรากฏว่านายบรรหารกลับปฎิเสธที่จะให้สัมภาษณ์เพียงกล่าวสั้นๆ ว่า “ผมไม่ให้สัมภาษณ์”