“ทั่นยุทธ” ไม่ได้อยู่ในความสนใจของ กกต.หลังส่งตัวแทนแจ้งดำเนินคดีกับ 3 กกต.ที่ให้ใบแดง ยันทำหน้าที่โดยสุจริต “สุเมธ” ยกคำผู้ใหญ่สอน “การเป็นคนสุจริตนั้นไม่ยาก แต่จะทำให้คนอื่นเชื่อว่าเราสุจริตกลับเป็นเรื่องที่ยากกว่า”
วันนี้ (18 มี.ค.) นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวถึงกรณีที่ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งตัวแทนไปแจ้งความที่กองปราบเพื่อดำเนินคดีกับ กกต.ทั้ง 3 คน ประกอบด้วย นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม ที่มีมติให้ใบแดง นายยงยุทธ ว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียด ว่า นายยงยุทธ ร้องแจ้งความในข้อหาอะไร แต่ตนยืนยันว่าได้ทำหน้าที่อย่างสุจริตแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีความเห็นใจ นายยงยุทธ ที่อาจจะรู้สึกว่า ว่า กกต.ไม่น่าไว้ใจจึงได้ไปแจ้งความตามที่มีข่าวปรากฏออกมา ซึ่งก็เป็นสิ่งทำได้ตามกระบวนการทางกฎหมาย เพราะตนและนายยงยุทธ เป็นคนที่ไม่รู้จักกัน ทำให้ นายยงยุทธ อาจมีความคิดเห็นหรือมีความรู้สึกได้ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ก็อาจจะเป็นความผิดของเราที่ทำโดยสุจริต แต่ไม่สามารถทำให้เขาเห็นได้ว่าเราสุจริต เมื่อครั้งผมเป็นผู้พิพากษา ผู้ใหญ่เขาจะสอนเรา ว่า การเป็นคนสุจริตนั้นไม่ยาก แต่จะทำให้คนอื่นเชื่อว่าเราสุจริตกลับเป็นเรื่องที่ยากกว่า ซึ่งกรณีที่คุณยงยุทธแจ้งความนั้น ถ้าเราเป็นเขาก็อาจจะทำอย่างนั้นก็ได้ เพราะยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนอย่างไร เหมือนที่เขาก็ไม่รู้ว่าเราเป็นคนอย่างไร” นายสุเมธ กล่าว
เมื่อถามว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป นายสุเมธ ปฏิเสธที่จะให้คำตอบ และระบุว่า ไม่ได้อยู่ในความสนใจ
ด้าน นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง ยิ้มอย่างอารมณ์ดี เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี นายยงยุทธ แจ้งความที่กองปราบ และกล่าวว่า ไม่มีอะไรน่าหนักใจ เพราะทำงานโดยสุจริต”
ขณะที่ นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า เบื้องต้นได้รายงานให้ที่ประชุม กกต.ได้รับทราบ และ กกต.ก็ไม่ได้แสดงอาการวิตก หรือตกใจแต่อย่างใด เพราะได้คาดคิดไว้ก่อนหน้านี้อยู่แล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ทีได้รับผลกระทบจากการลงมติของ กกต.ก็เคยฟ้องร้องในลักษณะเดียวกันมาก่อน หรือแม้กระทั่งไปร้องศาลปกครองก็มี
เรื่องเช่นนี้ต้องแยกระหว่างเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ และการใช้ดุลพินิจในการวินิจฉัย อีกทั้ง กฎหมายก็ได้ให้ความคุ้มครอง กกต.ไว้ในมาตรา 29 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.กรณีที่ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต ซึ่งหากถ้ากังวลกับเรื่องนี้ต่อไปก็ไม่ต้องเป็นอันทำอะไร ส่วนทางฝ่ายสำนักงานก็จะช่วยเหลือด้านการสู้คดี โดย กกต.จะมอบอำนาจให้สำนักกฎหมายและคดีเป็นผู้ดำเนินการต่อไป