xs
xsm
sm
md
lg

สร้างภาพสุดฤทธิ์! “แม้ว” ฟาด 400 ล้านลงมูลนิธิ ตะแบงแปรหวยช่วยคนจน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“แม้ว ซิเนตรา” ตะแบงสร้างภาพนักบุญใจบาป ทุ่มงบการกุศลมูนิธิครอบครัว เรียกคะแนนเสียงเพิ่มอีก 400 ล้าน กร้าวไม่หวั่นคดีหวยบนดินแค่ช่วยคนจน โต้ “ประสงค์” อย่าวิตกแทนลี้ภัยประเทศที่ 3

วันนี้ (10 มี.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานมูลนิธิไทยคม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมวิสามัญคณะกรรมการมูลนิธิไทยคมว่า เป็นการประชุมกรรมการมูลนิธิไทยคม และตนได้เข้าไปเป็นประธานมูลนิธิ ตั้งแต่ตั้งมาเพราะเคยเป็นมาแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ก็กลับมาเป็นประธานมูลนิธิดังเดิม เนื่องจากว่ามีเวลาที่จะทำงานด้านการกุศล โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึกษาและการให้โอกาสเด็กไทย ในการได้รับการศึกษา พัฒนาตัวเองทั้งการศึกษาและการกีฬาแล้วก็โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของวิธีการเรียนการสอน ที่จะทำให้เด็กไทยคิดเป็นทำเป็น นั้นคือหัวใจที่จะพยายามสร้างทุนการศึกษานี้ ไปในแนวเรื่องการจัดระบบการศึกษา ให้เด็กไทยคิดเป็นทำเป็น ให้ทุนการศึกษาแก่เด็ก แก่ครู เพื่อให้ช่วยกันมาพัฒนาเด็ก นอกจากนั้นในอนาคตก็จะทำเรื่องของการสร้างห้องสมุด เพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้ให้กับเด็กๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีตั้งเป้าการให้ทุนในปีนี้จะสักกี่ล้าน พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ปีนี้บริจาคไปทำเพื่อเฉลิมพระเกียรติเพื่อใช้สำหรับการศึกษาแนวทางการศึกษาสมัยใหม่ 200 กว่าล้าน ให้ทุนไปอีก 100 กว่าล้าน คงจะให้ทุนการศึกษาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยจะเป็นการให้ทุนต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กได้เรียนหนังสือและมีความต่อเนื่องมาตั้งแต่ชั้นมัธยมจนถึงปริญญา ก็จะดูตรงนั้น

เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่าการเข้ามาทำงานมูลนิธิแล้วจะมีคนแปรเจตนาเป็นอย่างอื่นหรือโยงเข้ากับการเมือง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ก็เข้าใจได้ เขาอาจจะโยงได้ แต่จริงๆ แล้วมันอยู่ที่ใจผม ใจผมวันนี้มันอยากจะทำงานเพื่อส่วนรวมมากกว่า เพราะว่าเรื่องการเมืองนั้น พอแล้ว ทำมาเยอะแล้ว ทำการเมืองมาเยอะ วันนี้ทำเรื่องที่มันเป็นประโยชน์ต่อเยาวชน ต่อบ้านเมืองดีกว่า

เมื่อถามว่าดูเหมือนว่าคนยังไม่เชื่อว่าท่านจะเลิกการเมืองจริงๆ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า “ความคิดของคนไม่เหมือนกัน คืออย่าไปคิดแทนผม เพราะผมไม่ใช่คนที่คิด และคนที่คิดก็ไม่ใช่ผม”

เมื่อซักว่า น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ระบุว่า ไปอังกฤษแล้วจะไม่กลับมาเพราะเกรงเรื่องคดี ยืนยันหรือไม่ว่าจะกลับมา พ.ต.ท.ทักษิณ ย้อนถามว่า ทำไมถึงไม่มา ไม่ได้ทำอะไรผิด อย่าไปกลัว

เมื่อถามว่ามีคดีเรื่อง คตส.เพิ่มเติมเรื่องหวย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดอย่าไปกลัว เรื่องหวยเราทำเพื่อว่าเป็นเจตนาเอาเงินของคนจนทั้งหลายที่ถูกตัวมาเฟียยึดไปเอามาคืนให้กับคนในสภาพของทุนการศึกษาให้ลูกให้หลาน แต่ว่าเงินที่หายไป เงินที่ขึ้นมาแล้วหายกลับไปใหม่ ตรงนี้ไม่รู้ว่าเขาเรียกว่าอะไร อยากให้ทุกคนเข้าใจว่า การเมืองมันเป็นการเมือง จนผมมันเบื่อการเมืองแล้วงัย ผมเลยอยากทำงานการกุศล อะไรให้บ้านเมืองมากว่า เรื่องการเมืองก็คงไม่สนใจ

เมื่อถามว่าจำนวนเงินที่หายไปถึงสามหมื่นกว่าล้าน พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า หายไปไหน ก็หายไปให้ทุนการศึกษาเด็ก แต่ว่าตอนนี้มันหายไปไม่รู้ว่าหายไปอยู่กระเป๋าใคร กระเป๋าพ่อค้าหวยหมด

ถามว่าหนักใจหรือไม่กับการทำงานของ คตส.ในคดีต่างๆ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่หนักใจอะไรเลย ไม่ได้ทำอะไรผิดอย่าไปหนักใจ เราพิสูจน์ได้ทุกเรื่อง

เมื่อซักว่าเตรียมพร้อมชี้แจงที่จะขึ้นศาลในวันที่ 12 มีนาคม หรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่มีอะไร บอกแล้วว่าไม่ได้ทำอะไรผิดอย่าไปตกใจ

เมื่อถามว่า แต่ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ายังมีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า อย่างที่คุณสมัครให้สัมภาษณ์ดีแล้ว

เมื่อถามว่าได้มีการยื่นเรื่องขออนุญาตศาลเพื่อเดินทางออกนอกประเทศแล้วหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ยื่นไปแล้ว เมื่อซักว่าขออนุญาตกี่วัน พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ประมาณ 3 อาทิตย์

ผู้สื่อข่าวถามว่า การกลับมาครั้งนี้เพื่อมาแก้ภาพการไม่จงรักภักดีเป็นพิเศษหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เป็นเรื่องกล่าวหากันเอง ของผมไม่ต้องห่วงเลย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวตัดบทว่า “ตกลงจะถามการเมืองเหรอ ผมไม่ได้เข้าการเมืองนะ ถามเรื่องการกุศลดีกว่า ผมไม่ได้อยู่การเมืองแล้ว ขอบคุณครับ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเปิดประชุมวิสามัญคณะกรรมการมูลนิธิไทยคมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 1/2551 โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา นายโอฬาร ไชยประวัติ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมกรรมการมูลนิธิร่วมประชุมเพื่อหารือเรื่องแผนการดำเนินงานที่ผ่านมาในปี 2550 และโครงการที่จะทำต่อไปในอนาคต

โดยนายบรรณพจน์ กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันการดำเนินงานของมูลนิธิฯ ได้ขยายกิจกรรมทางสังคมเพิ่มมากขึ้น และต้องการกรรมการผู้มีความรู้ ความสามารถและสามารถสละเวลาให้กับกิจกรรมทางสังคมได้ จึงเรียนเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นประธานกรรมการ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร เป็นรองประธานกรรมการ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และนายทรงศักดิ์ เปรมสุข เข้ามาร่วมเป็นกรรมการของมูลนิธิฯ เพื่อช่วยสาธารณกุศลด้านการศึกษาของสังคมไทยให้เข้มแข็งต่อไป

ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ที่ประชุมได้รายงานถึงโครงการและกิจกรรมที่ผ่านมา ส่วนใหญ่มูลนิธิฯ มุ่งให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษา กีฬา และสังคม โดยเรื่องของการศึกษาปีที่แล้ว บริจาคเงินจำนวน 240 ล้านบาทให้แก่มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี เพื่อก่อสร้างอาคารสถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มูลนิธิไทยคม เพื่อใช้ในการต่อยอดเรื่องการเรียนการสอนตามแนวทฤษฎีการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ด้วยปัญญา โดยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธี เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2550 นอกจากนี้มูลนิธิฯ ยังมีโครงการมอบทุนการศึกษา 2 โครงการ มูลค่ารวม 14.8 ล้าน ได้แก่ โครงการต่อทุน หนุนฝัน โดยมอบทุนการศึกษาจำนวน 400 ทุน แก่นักเรียนที่เรียนดี ประพฤติดีแต่ขาดทุนทรัพย์ และโครงการร้อยเรียงคำ ถวายพ่อ เพื่อต่อฝัน มอบทุนการศึกษา จำนวน 980 แก่เยาวชนที่มีความสามารถทางด้านการแต่งกลอนสุภาพ

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องกีฬานั้น ได้ใช้งบประมาณกว่า 20 ล้านบาท พาทีมชาติไทยไปเตรียมตัวสู่บอลโลก และทีมงานสตาฟโค้ช ไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่สโมสรแมนฯ ซิตี้ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเพื่อเตรียมตัวสู้ศึกคิงส์คัพ ครั้งที่ 38 และครั้งที่ 2 เพื่อเตรียมคัดเลือกฟุตบอลโลกรอบ 20 ทีมสุดท้ายโซนเอเชีย นอกจากนี้ยังมอบบ้านไทยคม จำนวน 395 หลัง ด้วยงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท แก่ผู้ประสบภัยจากดินโคลนถล่มใน 4 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่อุตรดิตถ์ แพร่ สุโขทัย พิษณุโลก และในปีนี้มูลนิธิฯ ได้มีแผนที่จะสนับสนุนในโครงการด้านการศึกษาต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การสอบสนับสนุนการสอน แบบ innovative learning การให้ทุนการศึกษาแก่เยาวชนที่ด้อยโอกาส โครงการเปิดประสบการณ์ระดับโลก พาเยาวชนไปแมนซิตี้ จัดให้มีเวทีการท้าทายความคิดสร้างสรรค์ สำหรับเยาวชน และการนำนิทรรศการการเรียนรู้ที่มีชื่อเสียงระดับโลกเข้ามาจัดแสดงเพื่อให้เยาวชนไทยได้มีโอกาสเรียนรู้สิ่งใหม่ และก้าวทันโลกยุคใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ยังมีการแจกเอกสาร THAICOM PROJECT 2007 ที่แสดงถึงรายละเอียดโครงการและงบประมาณต่างๆ แบ่งแยกประเภทเป็น ทุนการศึกษา การศึกษา สังคม กีฬา ดังต่อไปนี้ คือ โครงการต่อทุนหนุนฝัน /ร้อยเรียงคำถวายพ่อเพื่อต่อฝัน มูลค่า 14.8 ล้านบาท อาคารสถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มูลนิธิไทยคม 240 ล้านบาท บ้านไทยคม 395 หลัง 80 ล้านบาท มูลนิธิไทยคมสานฝันฟุตบอลไทยสู่ระดับโลกครั้งที่ 1 และ 2 40 ล้านบาท กล้องผ่าตัดตา /ห้องเรียนภาษา / โรงเรียนพาทยกุล /วงดนตรี ดร.แซกเชมเบอร์ 11 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นคิดเป็นมูลค่าของโครงการ 385.8 ล้านบาท

ทั้งนี้ คณะกรรมการมูลนิธิไทยคม ตามมติวันที่ 10 มีนาคม 2551 ประกอบด้วย 1.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประธานกรรมการ 2.คุณหญิงพจมาน ชินวัตร รองประธานกรรมการ 3.นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา รองประธานกรรมการ 4.นายโอฬาร ไชยประวัติ รองประธานกรรมการ 5.นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ กรรมการ 6.นายชัยอนันต์ สมุทวณิช กรรมการ 7.นายพานทองแท้ ชินวัตร กรรมการ 8.พิณทองทา ชินวัตร กรรมการ 9.แพทองธาร ชินวัตร กรรมการ 10.ทรงศักดิ์ เปรมสุข กรรมการ 11.ลัลธริมา หัสดินทร ณ อยุธยา กรรมการและเหรัญญิก 12.นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรรมการและเลขานุการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมายังมูลนิธิไทยคม เพื่อเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการมูลนิธิ ทั้งนี้ นายประทุม เกิดศรี ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ 16 ได้มาพบ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมกับมอบพวงมาลัย 1 พวง ขนมสังขยา และเป็ดพะโล้ นอกจากนี้ นายประทุมยังกล่าวทักทายกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าอยากให้กลับมาดังเร็วๆ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวตอบว่า ไม่ไหวแล้ว แก่แล้ว ให้คนหนุ่มทำงานดีกว่า นายประทุมยังกล่าวอีกว่า อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำสโมสรแมนซิตี้ ติดในอันดับพรีเมียร์ลีก พ.ต.ท.ทักษิณ จึงตอบกลับว่าเดี๋ยวจะกลับไปดูแลแล้ว

นายชัยอนันต์ สมุทวณิช เปิดเผยถึงสาเหตุที่มีรายชื่อเป็นกรรมการมูลนิธิไทยคมว่า เมื่อประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมานายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่ได้มาชวนไปทำงาน ซึ่งในขณะนั้นมีนายเชาวน์ ณ ศีลวันต์ เป็นประธานมูลนิธิ จึงตอบตกลงเพราะเป็นมูลนิธิที่ทำงานด้านการศึกษา แต่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมกับมูลนิธิมานานแล้ว และไม่มีบทบาทสำคัญใดๆ ในมูลนิธิ
กำลังโหลดความคิดเห็น