“น้องเขยแม้ว” จ่อล้างบางบอร์ดที่ปรึกษากฎหมาย ก.ศึกษาฯ ได้ทีเชือดคน คมช.“สุรพล-คมสันต์” ด้าน “นปก.” ชูคอขย้ำ อ้างคุณสมบัติกรรมการชุดใหม่ ต้องไม่สับสนเรื่องประชาธิปไตย
วานนี้ (4 มี.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ในการประชุมวันนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้เสนอต่อ ครม.พิจารณาอนุมัติปรับปรุงองค์ประกอบ และอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการมีบทบาทภารกิจเกี่ยวข้องกับกฎหมายว่าด้วยระเบียบการบริหารราชการของกระทรวงศึกษาธิการหลายประเด็น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีคณะผู้มีความรู้ความสามารถด้านกฎหมายมาช่วยผู้มีอำนาจตัดสินใจวินิจฉัยเพื่อความมีประสิทธิภาพ และความรวดเร็ว
“โดยจะมีการปรับปรุงองค์ประกอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้เสนอมา ซึ่งเดิมมี 12 คน จะปรับเพิ่มเป็น 15 คน และปรับปรุงอำนาจหน้าที่ เช่น 1.ให้คำปรึกษา และข้อเสนอแนะปัญหาข้อกฎหมายตามที่รัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีช่วย หรือหัวหน้าในส่วนราชการสังกัดกระทรวงศึกษาธิการหารือ 2.พิจารณาให้ความเห็น และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินการตามภารกิจที่ กระทรวงศึกษาต้องดำเนินการตาม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย การพัฒนากฎหมาย และการปฏิบัติราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบของกระทรวงศึกษาฯ แก่ รมว.ศึกษาฯ” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า 3.การประชุมกรรมการประธานกรรมการ อาจเชิญกรรมการทั้งคณะ หรือกรรมการบางคน ซึ่งเกี่ยวข้องกับประเด็นที่จะต้องพิจารณา มาประชุมร่วมกันก็ได้ ทั้งนี้จะต้องมีการประชุมไม่น้อยกว่าหนึ่งในสาม ของจำนวนกรรมการที่ได้รับเชิญ หรือ กรรมการทั้งหมด แล้วแต่กรณี จึงจะครบองค์ประชุม และอาจเชิญผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วยก็ได้
“4.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานเพื่อดำเนินการใดๆ ตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของกระทรวงศึกษาฯ โดยมีรายชื่อคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายที่ปรับปรุงใหม่ อาทิ 1.นายบุญปลูก ชายเกตุ ตำแหน่งกรรมการที่ปรึกษา รองศาสตราจารย์ธงทอง จันทรางศุ ตำแหน่ง ประธานกรรมการ นางกาญจรัตน์ ลีวิโรจน์ ตำแหน่งรองประธานกรรมการ ส่วนกรรมการประกอบด้วย นายพงษ์อาจ ตรีกิจวัฒนากุล ร.ศ.ลาวัลย์ หอนพรัตน์ น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล นายณรงค์เดช สุรโฆษต นายพิเศษ สะอาดเย็น ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และนายปริญญา บุญชู อัยการอาวุโส ผู้อำนวยการสำนักนิติการ ส่วนสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นกรรมการ และเลขานุการ นิติการ สำนักนิติการ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (จำนวนไม่เกิน 2 คน) เป็นกรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการ”นายณัฐวุฒิ ระบุ
รายงานข่าวแจ้งว่า เป็นที่สังเกตว่า ครม.เห็นชอบตามที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการ เสนอขอเปลี่ยนแปลงรายชื่อคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมายของกระทรวงศึกษาฯ ในยุคที่นายวิจิตร ศรีสะอ้าน เป็น รมว.ศึกษาฯ ทั้งนี้ยังเปลี่ยนแปลงอำนาจหน้าที่ของกรรมการเดิม โดยเพิ่มอำนาจในการให้ความเห็น และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินงานตามภารกิจของกระทรวงศึกษาฯ ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ การพัฒนากฎหมาย และการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และระเบียบของกระทรวงศึกษาฯ แก่ รมว.ศึกษาฯ จากเดิมที่มีอำนาจเพียงเสนอแนะเท่านั้น ทั้งนี้ยังสามารถเรียกกรรมการทั้งคณะหรือบางคนซึ่งเกี่ยวข้องกับประเด็นที่จะต้องพิจารณามาประชุมร่วมกันได้ โดยจากเดิมที่จะต้องร่วมประชุมทั้งคณะ
ทั้งนี้ รายชื่อคณะกรรมการชุดเดิมของรัฐบาลที่แล้ว ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกร่างรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น เช่น นายสุรพล นิติไกรพจน์ นายศรีราชา เจริญพานิช นายคมสัน โพธิ์คง เป็นต้น
รายงานแจ้งเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของกระทรวงศึกษาธิการตามมติ คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 ต.ค.2549 ประกอบด้วย ศ.สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานกรรมการ ร.ศ.ศรีราชา เจริญพาณิช รองประธานกรรมการ ส่วนกรรมการประกอบด้วย ร.ศ.กมลชัย รัตนสกาววงศ์ นายจุณวิทย์ ชลิดาพงษ์ นายคมสันต์ โพธิ์คง นายโอภาส เขียววิชัย นายเอกศักดิ์ คงตระกูล ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่วนผู้อำนวยการสำนักนิติการสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาฯ เป็นกรรมการ และเลขานุการ นายกิตติรัตน์ มังคละคีรี เป็นกรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการ น.ส.วนิดา แสงสารพันธ์ เป็นกรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการ
แต่ในส่วนของนายณัฐวุฒิ กลับตั้งข้อสังเกตเรื่องการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายครั้งนี้ของกระทรวงศึกษาธิการ ว่าคุณสมบัติของคณะกรรมการชุดใหม่ก็คือ จะต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานที่ไม่มีความสับสนในเรื่องประชาธิปไตย
