“อนงค์วรรณ” ให้ปากคำคดียุบพรรค “มัชฌิมาฯ” อ้างพรรคมีหลายสาย ทำให้ไม่รู้เห็นกับการซื้อเสียงของ “สุนทร” ด้าน “บุญทัน” คาด 4 มี.ค.ได้ข้อสรุป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 ก.พ.) คณะกรรมการสืบสวนสอบสวนกรณียุบพรรคชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย ได้เชิญ นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย มาให้ข้อมูลกับคณะกรรมการเป็นครั้งสุดท้าย โดยภายหลังการประชุม นางอนงค์วรรณ กล่าวว่า ได้ชี้แจงตามความเป็นจริง ว่า ทางพรรคมีเวลาน้อยมากในการช่วยผู้สมัครรณรงค์หาเสียงผู้สมัครในเขตต่างจังหวัด เนื่องจากเรามีเรื่องภายในพรรคอยู่เสมอๆ ดังนั้น การรู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดของ นายสุนทร วิลาวัลย์ ที่เป็นผู้สมัครในต่างจังหวัดจึงเป็นไปไม่ได้ และยอมรับว่าได้ชี้แจงเรื่องความขัดแย้งภายในพรรคให้คณะอนุฯทราบด้วย ว่า พรรคมีหลายสาย แต่ละสายจะดูแลผู้สมัครของตนเองเท่านั้น
นางอนงค์วรรณ กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงการเป็นหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค ว่า ขณะนี้รอเพียงการตอบรับจาก กกต.ว่า อดีตหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดก่อนได้ลาออกจากหัวหน้าพรรคไปแล้ว จากนั้นเราจึงจะเสนอเรื่องการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ไปให้ กกต.รับรอง เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน และเกิดความชัดเจนในการนำเสนอต่อสื่อมวลชน
ด้าน นายบุญทัน ดอกไธสง ประธานอนุกรรมการสืบสวนฯ กล่าวว่า ขณะนี้ได้สอบสวนพยานของทั้ง 2 พรรคเสร็จสิ้น จากนี้จะขอผลสอบสวนผู้ถูกใบแดงจากทาง กกต.รวมทั้งขอสำเนาความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาด้วยเพื่อดูในเรื่องที่ว่า มีประจักษ์พยาน และเมื่อได้เอกสารทั้ง 2 ชุด ก็จะนำไปศึกษา และประชุมเพื่อหารือในวันที่ 4 มี.ค.ที่จะถึงนี้ และคาดว่า จะสรุปผลได้ในวันเดียวกัน
ทั้งนี้ จากการให้การของทั้ง 2 พรรค ต่างก็ปฏิเสธว่าการกระทำของผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่มีความเกี่ยวพันกับพรรค เพราะก่อนหาเสียงก็ได้มีการเตือนไม่ให้กระทำผิดกฎหมาย นอกจากนี้ท างพรรคยังยอมรับตอนที่สมัครรับเลือกตั้งว่ามีความฉุกละหุกและเมื่อสมัครแล้วต่างก็แยกย้ายกันไปหาเสียง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากยอมรับการแก้ตัวของพรรคที่ระบุว่าก่อนการหาเสียงได้เคยเตือนเอาไว้แล้วว่าไม่ให้ทำผิดกฎหมายได้รับการยอมรับ ก็เท่ากับ กฎหมายมาตรานี้ถูกทำให้เป็นหมันใช่หรือไม่ นายบุญทัน กล่าวว่า นี่ก็เป็นสิ่งที่เราเป็นห่วง เราจึงพยายามขอความเห็นเรื่องใบแดงจากกรรมการกฤษฎีกามาดู อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ กกต.ให้คณะกรรมการสืบสวนชุดนี้ทำ มีเพียงดูว่าการกระทำของผู้ที่ถูกใบแดงเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองหรือไม่เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความเห็นของคณะกรรมการที่จะเสนอต่อ กกต.นั้น จะเหมือนกันทั้ง 2 พรรคหรือไม่ นายบุทันกล่าวว่า อาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ เพราะต้องดูเรื่องรายละเอียด
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า กรณีการตัดสินนี้จะสามารถนำไปเทียบเคียงกรณีของพรรคพลังประชาชนหาก นายยงยุทธ ติยะไพรัช ถูกศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งได้หรือไม่ นายบุญทัน กล่าวว่า “คงเทียบไม่ได้ เพราะอาจจะมีรายละเอียดที่ต่างกัน”