xs
xsm
sm
md
lg

“พลังแม้ว” ฟันธงไม่ยุบสภาหนีคดี “ยุทธ ตู้เย็น”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ชูศักดิ์” เสียงแข็ง “พลังแม้ว” ไม่คิดยุบสภาหนี เพียงแค่คดียงยุทธ เตรียมทางออกหากจำเป็นอาจลอยแพ โวยกฎหมายเหมาเข่งเกรงครอบคลุมหวั่นไม่เหลือพรรคการเมือง

วันนี้ (27 ก.พ.) นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช นั้น คงไม่ทำให้พรรคกังวลจนถึงขั้นต้องยุบสภา เพราะนายยงยุทธมีทีมทนายและพยานหลักฐานที่จะสู้คดีได้

เมื่อถามว่า หลังจากนี้ จะเดินหน้าต่อสู้คดีใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า แน่นอน เพราะหลังจากนี้ กกต.ก็จะยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา ซึ่ง นายยงยุทธ ก็มีทีมทนายอยู่แล้ว แต่พรรคอาจจะเข้ามาเสริมด้วยส่วนหนึ่ง แต่ตอนนี้ต้องสันนิษฐานก่อนว่า นายยงยุทธ ยังไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ การประกาศหยุดทำหน้าที่เป็นเพียงการแสดงสปิริตเท่านั้น

ต่อข้อถามว่า จะกระทบต่อการพิจารณากฎหมายของสภา หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีวาระเรื่องร่างกฎหมาย วาระการประชุมในสภา มีเพียงเรื่องการพิจารณาข้อบังคับการประชุมสภา การตอบกระทู้ หรือเสนอญัตติเท่านั้น จึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และมีรองประธานสภา ปฏิบัติหน้าที่แทน จึงไม่มีผลกระทบต่องานของสภาแน่นอน

เมื่อถามว่า ที่ นายยงยุทธ กล่าวว่า เป็นการจัดฉาก จะนำมาต่อสู้ในด้านข้อกฎหมายด้วยหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องข้อกฎหมาย แต่เป็นเรื่องข้อเท็จจริงที่ต้องนำสู่ชั้นศาล โดยระบบของศาลฎีกาเป็นระบบไต่สวน ก็จะมีการสืบพยานหาข้อเท็จจริง และจะมีการขอซักค้านหรือถามติงได้ ซึ่งศาลจะเป็นผู้แสวงหาข้อเท็จจริง

ต่อข้อถามว่า ประเด็นเรื่อง พล.อ.ที่ นายยงยุทธ กล่าวถึง จะมีการขอสืบพยานหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า นายยงยุทธ มีสิทธิอ้างและนำเสนอต่อศาล สุดแต่ นายยงยุทธ จะร้องขอ จากนั้นศาลจะไปประมวลข้อเท็จจริงต่อไป ส่วนเรื่องมติ กกต.ที่ไม่เป็นเอกฉันท์นั้นเป็นประเด็นที่ศาลรับรู้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องนำมาต่อสู้

ต่อข้อถามจะลอยแพ นายยงยุทธ หรือไม่นั้น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น เพียงแต่พรรคต้องวิเคราะห์อย่างรอบคอบ เพราะตั้งแต่มีการยุบพรรคไทยรักไทยตามประกาศของ คมช.ก็ยังมีการใส่ข้อความส่วนนี้ลงในรัฐธรรมนูญด้วย กฎหมายเช่นนี้จึงมีลักษณะเป็นกฎหมายเหมาเข่ง ไม่ว่าใครจะรู้หรือไม่รู้ ก็เหมาว่ามีความผิดหมด ซึ่งผิดหลักกฎหมายทั่วไปที่ถือว่าคนคนนั้นยังบริสุทธิ์ จนกว่าศาลจะพิสูจน์ได้ว่ามีความผิด หากยึดหลักกฎหมายนี้เคร่งครัด ก็จะไม่เหลือพรรคการเมืองอีกต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเป็นเหตุให้แก้รัฐธรรมนูญเร็วขึ้นหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า อยู่ที่กระบวนการตีความมากกว่า การตีความต้องระวังและให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศ เมื่อกฎหมายแข็งเกินไป ก็ต้องพึ่งบุคคลที่ตีความกฎหมายที่จะตีความว่าเป็นการกระทำส่วนบุคคล ไม่กระทบพรรค ซึ่งที่พูดไม่ใช่เพื่อพรรคพลังประชาชน แต่พรรคชาติไทยหรือมัชฌิมาธิปไตยก็กังวลเช่นกัน สุดท้ายก็จะหาคนเป็นกรรมการบริหารพรรคยาก เพราะคนกลัว ก็จะได้ใครก็ไม่รู้มาเป็นกรรมการบริหาร และมีคนชักใยเบื้องหลังแทน บ้านเมืองจะยิ่งไปกันใหญ่

เมื่อถามว่า กระแสข่าวที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญชุดใหม่ให้ตีความว่ากฎหมายบางอย่างที่ออกโดย คตส.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในทางกฎหมายทำได้หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า การยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญทำได้เสมอ แต่ต้องเป็นคู่ความในคดีจึงจะร้องได้ แต่ต้องเป็นในประเด็นที่กฎหมายนั้นแย้งกับรัฐธรรมนูญ เช่น ทุกคนเสมอภาคกัน แต่กฎหมายนั้นเลือกปฏิบัติ ทั้งนี้ จะยืนชุดไหนก็เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องรอศาลรัฐธรรมนูญชุดใหม่
กำลังโหลดความคิดเห็น