“จุรินทร์” สอน “หมัก” ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้มีแค่เศษสตางค์ ชี้ต้องมีกึ๋นพร้อมแก้ทุจริต เหน็บชอบพูด “มือที่มองไม่เห็น” หวังตีปลาหน้าไซ เรียกคะแนนสงสาร ชี้หากมีจริงต้องใช้อำนาจจัดการ ด้าน “ทั่นยุทธ” ตีหน้าเศร้า ประกาศให้อภัยทุกคนที่จองเวร ปัดขนม็อบกดดัน กกต.โวยถูกสร้างข่าวให้เป็นผู้ร้าย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาล ว่า คงเน้นในเรื่องของราคาสินค้าราคาแพง ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนมาก และรัฐบาลก็ต้องตอบคำถามให้ได้ว่าจะมีนโยบายในการแก้ไขปัญหาอย่างไร คงไม่ใช่แค่แก้ด้วยเศรษฐกิจ หรือเศษสตางค์เท่านั้น เพราะความจริงปัญหาไม่ได้อยู่ที่เศษสตางค์ ความจริงสตางค์นั้นมีพอ แต่ประเด็นคือ ความสามารถที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ของรัฐบาลมากกว่า ว่า มีความสามารถที่จะแก้ปัญหาได้มากน้อยแค่ไหน รวมถึงปัญหาการทุจริตด้วยรัฐบาลต้องตอบให้ได้ว่าจะแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่า นโยบายของรัฐบาล พยายามที่จะต่อยอดนโยบายประชานิยมของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ความจริงรัฐบาลนี้ก็ประกาศมาตลอด ว่า จะนำมาใช้ แต่ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมานั้นนโยบายประชานิยมได้สร้างปัญหาและเป็นภาระมาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้น ถ้ารัฐบาลจะนำมาใช้อีกก็จะต้องตอบให้ชัดเจนว่าจะนำแนวคิดเดิมมาทั้งดุ้นหรือจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขอย่างไร
“มีประเด็นหนึ่งที่นายกฯ พูดบ่อย และเป็นเรื่องที่พูดมาจนถึงทุกวันนี้ คือ เรื่อง มือที่มองไม่เห็น ซึ่งก็เป็นเครื่องหมายคำถามอยู่เหมือนกันว่าท่านพูดขึ้นมาเพราะอะไร ตั้งใจที่จะเรียกร้องความสงสาร หรือต้องการที่จะตีปลาหน้าไซว่ามีคนที่ต้องจะทำลายรัฐบาลอยู่หรือกลั่นแกล้งรัฐบาลอยู่หรือไม่ และผมว่าถ้ามือที่มองไม่เห็นนั้นเป็นมือที่สกปรก ขณะนี้รัฐบาลมีอำนาจรัฐอยู่ในมือ แล้วทำไมไม่ใช้อำนาจรัฐจัดการ เพราะถ้าเป็นมือสกปรกก็แสดงว่าเป็นมือที่ไม่ถูกต้อง แต่ปัญหาก็คือ มือที่มองไม่เห็นนั้น อาจจะเป็นมือสะอาดที่มาจัดการกับมือที่สกปรกหรือไม่ ที่ทำให้นายกฯ ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ จึงออกมาพูดเหมือนเป็นการตีปลาหน้าไซในขณะนี้หรือไม่ มาเรียกร้องความสงสาร ความเห็นใจอยู่ในขณะนี้หรือไม่” นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงการทำหน้าที่ของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่ยังมีคดีอยู่ว่า ตามกฎหมายประธานสภาฯ ก็ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อยู่ จะเหมาะหรือไม่ถึงอย่างไรก็ต้องทำหน้าที่ และฝ่ายค้านก็คงไม่ออกมาเรียกร้องให้ประธานแสดงสปิริต
ทางด้าน นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่า ในที่ประชุมวันนี้ วิป 3 ฝ่าย ได้มีการพูดคุยกันแล้วถึงเวลาในการอภิปรายในส่วนของผู้นำฝ่ายค้านไม่จำกัดเวลา ดังนั้น ในวันนี้ไม่น่าจะมีการขัดแย้งรุนแรงอะไร เพราะเป็นเพียงการฟังคำแถลงจากรัฐบาลเท่านั้น
เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่าการทำหน้าที่ประธานสภาฯ จะไม่ได้รับความเชื่อมั่นจากสมาชิกเพราะตัวประธานมีปัญหาเกี่ยวกับการพิจารณาคดีเลือกตั้งจาก กกต.อยู่ นายยงยุทธ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องแยกออกจากกัน และวันนี้หากตนไม่มาทำหน้าที่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ซึ่งทำหน้าที่ด้วยนั้นก็จะเหนื่อย สำหรับเรื่องคดีของตนนั้น ก็เป็นเรื่องของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง วันนี้ถ้าเราติดกับดักความขัดแย้งแล้วมาโต้ตอบ เถียงกันเป็นรายวัน งานก็จะไม่เดินไปไหน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่จะมีม็อบจาก จ.เชียงราย มากดดันการพิจารณาของ กกต.ในคดีนี้ นายยงยุทธ กล่าวว่า ไม่มี เป็นการสร้างข่าวเพื่อทำให้รู้สึกว่าตนเป็นคนไม่ดี สำหรับตนไม่มีปัญหา ส่วนตัวเชื่อในความยุติธรรม อยากขอร้องว่าตอนนี้บ้านเมืองสงบแล้ว ไม่อยากให้มาคอยตั้งข้อกล่าวหาแล้วนำหลักฐานเท็จมาเล่นงานกัน บ้านเมืองจะไปไม่รอด
เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นผู้เสียหาย จะเรียกร้องให้มีการตรวจสอบข่าวที่รั่วออกมาจากคณะอนุกรรมการ กกต.หรือไม่ ประธานสภาฯ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะที่ผ่านมาตนพูดถึงความปรองดองมาตลอด ตนให้อภัยกับทุกฝ่าย และจะพยายามไม่พูดให้คนอื่นกดดัน วันนี้ทุกฝ่ายรู้ดีว่าอะไรคืออะไร เมื่อถามว่ารู้สึกท้อใจหรือไม่ที่มีเรื่องคดีค้างคาอยู่ นายยงยุทธ กล่าวว่า การเมืองเป็นเรื่องของการเสียสละ และพร้อมสำหรับการตรวจสอบ และเราอยู่กลางสปอตไลต์ก็ยินดีให้ตรวจสอบ แต่กติกาและผู้ตรวจสอบนั้น ต้องมีความยุติธรรมและเป็นธรรมก็ไม่น่ามีปัญหา
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในการอภิปรายวันนี้ในส่วนของฝ่ายค้านจะไม่มีการอภิปรายนอกกรอบแน่นอน แต่จะชี้ให้ประชาชนเห็นว่านโยบายที่รัฐบาลแถลงวันนี้น่าเชื่อถือหรือไม่ เราเป็นฝ่ายค้านที่มีเกียรติ และรักษากฎระเบียบตลอด อย่างไรก็ตาม ก็ต้องทำใจไว้เพราะคงต้องมีองครักษ์ลุกขึ้นโต้ ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา และคนที่เคยเป็นองครักษ์หลายคนในวันนี้ก็ได้ดิบได้ดี ก็คิดว่าประชาชนที่เป็นคนดูจะเห็นเอง และวันนี้เชื่อว่าประชาชนได้เห็นภาพใหม่ๆ ของการอภิปรายในสภาแน่นอน
