“หมัก” ต้องรอลุ้นเก้าอี้นายกฯ อีก 2-3 วัน วันนี้ปิดปากเงียบ แต่เดินเข้าห้องพยาบาลชั่งน้ำหนักเช็กความดันตั้งแต่เช้า ขณะที่ “เลี้ยบ” ระบุโควตารัฐมนตรีใช้สัดส่วน 9 ต่อ 1 ย้ำเก้าอี้ “ขุนคลัง” ต้องเป็นคนในพรรค พร้อมยืนยันทำงานเป็นทีมเพื่อเรียกความเชื่อมั่น
วันนี้ (22 ม.ค.) นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีว่า เบื้องต้นได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลในส่วนของตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้ลงในรายละเอียดเพราะอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอีก โดยหลังจากนี้อีก 2-3 วันจะมีการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งหลังจากนั้นจึงจะมีบทสรุปที่ชัดเจนออกมาอีกครั้งหนึ่ง
นพ.สุรพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการแบ่งจะแบ่งตามสัดส่วน เบื้องต้น ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล 315 คน จะแบ่งได้อยู่ที่สัดส่วน 9 คนต่อรัฐมนตรี 1 คน ส่วนรายละเอียดนั้นจะมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่งหลังจากเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ทั้งนี้ ทิศทางของ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเบื้องต้นตรงกัน คือ ต้องการให้มีการแก้ไขปัญหาของประเทศและหาบทสรุปร่วมกัน ดังนั้น โผรัฐมนตรีที่เป็นข่าวเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นของแหล่งข่าว เพราะขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนใดๆ หากสังเกตดูจะพบว่าแต่ละสัปดาห์จะมีการเปลี่ยนโผรัฐมนตรีอยู่ตลอดเวลา
ถามว่า ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาจจะให้บุคลากรในพรรคพลังประชาชนมาดำรงตำแหน่ง เพราะไม่สามารถเชิญคนนอกได้ใช่หรือไม่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า การเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปส่งผลให้คนนอกหลายคนกังวลใจ รวมถึงการมีกฎหมายที่กำหนดให้มีการตรวจสอบผู้ดำรงตำแหน่งหลายครั้งทำให้คนนอกกังวลใจ นอกจากนี้ การเมืองที่มีการทำลายล้างกันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนที่มีความสามารถไม่มั่นใจต่อสถานการณ์ สำหรับบุคคลที่เหมาะสมกับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนั้น พรรคพลังประชาชนอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยจะเป็นบุคคลที่ทำนโยบายของพรรคมาตังแต่ต้น แต่ยังไม่ปรากฏต่อหน้าสื่อ นอกจากนี้ยังมีทีมงานอีกหลายคนที่อยู่เบื้องหลัง
เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนั้นต้องเป็นผู้นำและกล้าตัดสินใจ พรรคพลังประชาชนไม่ได้คิดว่าจะมีรัฐมนตรีคลังเพียงคนเดียวที่ดูแลแก้ปัญหาทั้งหมด แต่มีการจัดสรรทีมงานเพื่อแก้ปัญหา โดยทีมเศรษฐกิจจะมีทั้งคนในพรรคพลังประชาชนและนักวิชาการที่พร้อมเข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศ โดยทุกคนต่างรู้ว่าต้องทำงานหนัก เมื่อพรรคพลังประชาชนได้เข้ามาบริหารประเทศ สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดสำหรับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศคือรัฐบาลต้องสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากขณะนี้นักลงทุนต่างชาติมีเงินแต่ไม่กล้าลงทุน เนื่องจากปัญหาสถานการณ์การเมือง
สำหรับการกำหนดสัดส่วนคนนอกและคนในที่จะมาเป็นรัฐมนตรีนั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ไม่มีโควต้าคนนอกคนใน เพราะทุกคนที่พรรคร่วมเสนอชื่อมานั้นได้รับความเห็นชอบ และมีพรรคร่วมรัฐบาลสนับสนุนอยู่แล้ว ส่วนความคืบหน้าในการจัดทำนโยบายของรัฐบาลนั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า จากนี้ประมาณ 1-2 วันจะมีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อกำหนดนโยบายของรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้เดินทางมาถึงรัฐสภาเมื่อเวลา 08.45 น. พร้อมกับยกมือปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สบายใจหรือไม่ที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน สนช.ออกมาระบุว่า สนช.ไม่มีอำนาจล่ารายชื่อถอดถอนนายสมัคร ปรากฏว่านายสมัครไม่ตอบคำถาม แต่รีบเดินไปยังห้องพยาบาลเพื่อชั่งน้ำหนักก่อนที่จะไปพักผ่อนต่อที่ห้องรับรอง ส.ส.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า จากนั้นเมื่อเวลา 11.00 น.ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่มีการลงคะแนนเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น นายสมัคร ได้เดินออกจากห้องประชุมรัฐสภา โดยตรงไปรับประทานอาหารกลางวันที่โรงอาหาร พร้อมทั้งเข้าไปทักทายกับแม่ค้าร้านข้าวแกง ที่ขายอาหารมานานนับ 10 ปี โดยนายสมัครทักทายอย่างเป็นเองและได้สอบถามสารทุกข์สุขดิบต่างๆ พร้อมทั้งระบุว่า ตนเป็นแฟนประจำ เป็นพรรคพวกกัน จากนั้นได้สั่งกะเพราหมูสับราดข้าวพร้อมไข่ต้มยางมะตูมมารับประทานภายในโรงอาหาร จากนั้นนายสมัครจึงเดินไปทักทายแม่ค้าร้านอื่นๆต่ออย่างเป็นเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การมารับประทานอาครั้งนี้ของนายสมัคร ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนที่ติดตามบันทึกภาพเป็นจำนวนมากจนทำให้นายสมัครแสดงอาการหงุดหงิดเล็กน้อยจากการที่สื่อมวลชนมุ่งดูการรับประทานอาหาร โดยนายสมัคร พูดบ่นขึ้นว่า “ตายแน่ๆ มามุงดูอย่างนี้ กินไม่ลงหรอก ตายแน่ๆ”
/0110