“สุรเกียรติ์” อ้างไม่เกี่ยวเพื่อแผ่นดินร่วม “พลังแม้ว” เผยได้รับ 4 เก้าอี้ นำไปแบ่งสรรปันส่วนกันสนุกแล้ว “สุวิทย์” สบายได้รองนายกฯ ควบพลังงาน “จิรายุ” อยากนั่ง รมช.คลัง ส่วนกลุ่ม “ตี๋สุชาติ” ผวาได้เก้าอี้น้อยรีบต่อสายตรงถึงพลังประชาชนขอโควตาเพิ่ม
วันนี้ (18 ม.ค.) แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตประธานสภานโยบายและยุทธศาสตร์พรรคเพื่อแผ่นดิน เปิดเผยกรณีที่แกนนำพรคเพื่อแผ่นดินได้ตัดสินใจเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่า การเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคเพื่อแผ่นดินครั้งนี้ นายสุรเกียรติ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดสินใจแต่อย่างใด ซึ่งจุดยืนของนายสุรเกียรติ์ก็เป็นอย่างที่ทราบกันตลอดมาเวลาอยู่แล้ว ทั้งนี้ ความเห็นส่วนตัวของนายสุรเกียรติ์นั้นไม่ว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่พรรคควรจะคำนึงถึงอุดมการณ์ และเจตนารมณ์ของพรรคที่ได้ประกาศเอาไว้ในการก่อตั้งพรรค ที่สำคัญอยากจะให้พรรคยึดมั่นในเงื่อนไข 5 ข้อที่พรรคชาติไทย และพรรคเพื่อแผ่นดินที่ได้ร่วมกันประกาศเอาไว้
ด้าน นายจิรายุ วสุรัตน์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นทราบว่าพรรคได้รนับการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการ 2 กระทรวง รัฐมนตรีช่วยว่าการ 2 กระทรวง และรองนายกฯ 1 ตำแหน่ง แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นกระทรวงใดบ้าง และใครจะอยู่ในตำแหน่งใด โดยพรรคได้มอบหมายให้ นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรค เป็นผู้ตัดสินใจและเจรจากับพรรคพลังประชาชนเพียงผู้เดียว ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องตกลงกันแล้วจึงกลับมาหารือภายในพรรค
นายจิรายุ เห็นว่า พรรคมีเหตุผลชอบธรรมที่จะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างไรก็ตาม การเข้ามาดูแลปัญหาภาคใต้อาจไม่จำเป็นต้องเข้าไปเป็นรัฐมนตรีในกระทรวงก็ได้ เพราะตำแหน่งหน้าที่อื่นก็สามารถดูแลแก้ไขปัญหาภาคใต้ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งกรรมาธิการที่ดูแลรับผิดชอบปัญหาภาคใต้ หรือแม้กระทั่งตำแหน่งผู้ช่วย รมว.มหาดไทย ก็สามารถเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหานี้ได้เหมือนกัน
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่จะได้รับตำแหน่ง รมช.คลัง นายจิรายุกล่าวปฏิเสธโดยยืนยันว่าพรรคยังไม่มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ เพราะยังไม่มีความชัดเจนว่าจะได้ดูแลกระทรวงใดบ้าง โดยจะต้องรอความแน่นอนก่อนเนื่องจากยังไม่ถึงเวลาเจรจา แต่หากเสนอตำแหน่งดังกล่าวให้ ก็มีความพร้อม เนื่องจากตนมีความรู้ความสามารถอยู่แล้ว และทำงานมาโดยตรงอย่างต่อเนื่อง ขอเวลาเพียงแค่เวลา 3 เดือนก็เชื่อมั่นว่าจะแก้ไขปัญหาได้ ทั้งนี้ ตนรู้สึกเสียดายที่พรรคได้จำนวน ส.ส.น้อยเกินไป จนไม่ได้เข้าไปดูแลกระทรวงการคลังโดยตรง
รายงานข่าวแจ้งว่า การจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีให้กับพรรคร่วมรัฐบาล โดยในส่วนของพรรคพื่อแผ่นดิน ในเบื้องต้นได้มีการหารือร่วมกันระหว่างแกนนำทั้งสองพรรคแล้ว ซึ่งได้มีการตกลงกันในกันว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ส่วนเก้าอี้รัฐมนตรีพรรคได้ยื่นข้อเสนอไปจำนวน 4 ที่นั่ง ประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรี, รมว.กระทรวงพลังงาน, รมช.กระทรวงการคลัง, รมช.กระทรวงมหาดไทย และอีกหนึ่งเก้าอี้คาดว่าน่าจะเป็น รมว.กระทรวงเกรดบี หรือช่วยว่าการกระทรวงเกรดเอ
โดยเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงพลังงาน จะมอบให้นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรครับไปดูแล เพราะจะให้ไปพลักดันนโยบายของพรรคที่ได้ประกาศในการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะกองทุนหมู่บ้าน ส่วนเก้าอี้ รมช.กระทรวงการคลังจะมอบหมายให้นายจิรายุ วสุรัตน์ รองหัวหน้พรรคเข้ามาดูแล สำหรับเก้าอี้ รมช.กระทรวงมหาดไทย อาจจะมอบหมายให้ นพ.แวมาหฮาดี แวดาโอะ ส.ส.จังหวัดนราธิวาส เพราะเป็นคนในพื้นที่ และรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้แหล่งข่าวในกลุ่มบ้านริมน้ำของนายสุชาติ ตันเจริญ และกลุ่มของว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี อดีตกรรมการสภานโยบายและยุทธ์ศาสตร์พรรคเพื่อแผ่นดิน ที่มีสัดส่วน ส.ส.มากที่สุดในพรรคถึง 10 คน ได้ยอมรับว่าได้มีการต่อสายตรงไปพรรคพลังประชาชน เพื่อเจราจาต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี โดยขอเก้าอี้ รมช.เกษตรฯ โดยได้รับการตอบตกลงมาแล้ว อย่างไรก็ตามหากการเลือกตั้งซ่อมทั้งสองกลุ่มได้รับ ส.ส.เพิ่มขึ้นอาจจะขยับเก้าอี้เป็นถึง รมว.เกษตรฯ หรืออาจจะเป็นเก้าอี้ รมว.ในกระทรวงอื่น พร้อมทั้งเก้าอี้รองประธานสภาฯ ด้วย
อย่างไรก็ดี คงต้องรอความชัดเจนหลังวันที่ 20 แต่จุดหนึ่งที่ 2 กลุ่มมีความเป็นห่วง คือ การเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 2 ที่นั่งอาจจะไม่ได้รับเลือกเข้ามา เพราะผลการเลือกตั้งในจังหวัดบุรีรัมย์ที่ออกมาแม้ว่าจะมีการเจราจาขอร้องกันระหว่างทั้งสองพรรคแล้ว แต่พรรคพลังประชาชนกลับไปเทคะแนนไปให้กับพรรคมัชฌิมาธิปไตย
นายมั่น พัธโนทัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินกลุ่ม นายวัฒนา อัศวเหม กล่าวถึงกรณีที่นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชนระบุว่าหากนายวัฒนา อัศวเหม ประธานพรรค และนายมั่นเข้ามาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล ส.ส.ทั้ง 7 คนในกลุ่มในกลุ่มตนจะทำหนังสือคัดค้านไปยังหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อแผ่นดินว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าว ตนคงไม่หนักใจ เพราะเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ทั้ง 2 พรรคเป็นผู้พูดคุยประสานกันว่าใครจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งในเวลานี้ยังไม่ทราบเลยว่าใครจะได้รับตำแหน่งใด
“ผมไม่เข้าใจว่าทำไมกลุ่มนั้นต้องกลัวกันไปก่อน ทั้งที่ตำแหน่งรัฐมนตรียังไม่ได้ข้อยุติ แต่อาจเข้าใจได้ว่าเพราะทางกลุ่มนั้น อาจเกรงว่าจะได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองท้องถิ่น โดยเฉพาะจังหวัดสมุทรปราการ ที่แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผมที่มีท่านวัฒนา และอีกกลุ่มคือกลุ่ม ส.ส.พรรคพลังประชาชน ที่อาจมีผลต่อเขา ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา และผมก็ไม่ได้หนักใจหรือวิตกอะไรเลย และเป็นสิทธิที่ทางกลุ่มนั้นจะเคลื่อนไหวได้” นายมั่น กล่าว
/0110