“ทนายแม้ว” ปัดวุ่น “เจ้านาย” ชักใยไทยคมให้กลุ่มก่อการร้ายเช่าสัญญาณ โบ้ยไอซีทีเร่งสอบอย่างตรงไปตรงมา อ้าง “หญิงอ้อ” พร้อมคุย “ป๋าเปรม” เพื่อบ้านเมืองจะได้สมานฉันท์ เผย 21 ม.ค.รู้แน่ใครนั่งประธานสภาฯ
วานนี้ (16 ม.ค.) นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้กระทรวงไอซีทีตรวจสอบกรณีที่มีการให้ดาวเทียมไทยคมกับกลุ่มก่อการร้ายเช่าเครือข่ายสัญญาณแพร่ภาพ ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด และข้อมูลในเรื่องนี้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ขายดาวเทียมไทยคมพร้อมกับหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น ให้กับกองทุนเทมาเส็ก ประเทศสิงคโปร์ ตั้งแต่ปี 2549 ดังนั้นรัฐบาลควรจะไปตรวจสอบรายละเอียดของดาวเทียมไทยคมว่ามีการเริ่มให้เช่าสัญญาณดังกล่าวเมื่อไหร่
“มั่นใจว่าบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น คงไม่ทราบว่ากลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มก่อการร้าย เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่มีการอนุมัติให้เช่าสัญญาณอย่างแน่นอน และขอตั้งข้อสังเกตว่ากระแสข่าวดังกล่าวที่ออกมาในช่วงนี้อาจเป็นการพยายามลดความน่าเชื่อถือ โดยพยายามเชื่อมโยงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะกระทรวงไอซีที ที่มีกฎหมาย และช่องทางการตรวจสอบอยู่ในมือมากมาย จึงควรเร่งตรวจสอบ ไม่ใช่มาประโคมข่าวให้ประชาชนสับสน” นายนพดล กล่าว
นายนพดลยังกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อเจรจาขอให้พรรคพลังประชาชนจัดตั้งรัฐบาลได้ว่า ขอยืนยันว่าคุณหญิงพจมานยังไม่ได้เดินทางเข้าพบ พล.อ.เปรม ตามที่เป็นข่าว แต่หลังจากนี้จะเข้าพบในเวลาใด ตนยังไม่มีข้อมูล ซึ่งขอยืนยันว่าคุณหญิงพจมานเป็นคนนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ และพร้อมที่จะเข้าไปพูดคุยหากทำให้บ้านเมืองเกิดความสมานฉันท์ แต่ไม่ได้เป็นการเข้าไปเกี้ยเซียะ หรือล้มคดี และขอยืนยันว่าจะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม
“ส่วนของการจัดตั้งรัฐบาลนั้นเป็นสิทธิอันชอบธรรมของพรรคพลังประชาชนอยู่แล้ว หากในอนาคตจะไปคุยกัน ก็คงไปคุยกันในเรื่องอื่น ขณะนี้ถือได้ว่าบรรยากาศการเมืองเป็นไปด้วยดี และจากการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.นั้นก็เห็นด้วยหากคุณหญิงพจมานจะเข้าพบ พล.อ.เปรม ตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่าเกิดบรรยากาศที่ไว้วางใจกัน ซึ่งจะเป็นรากฐานของความปรองดองต่อไป” ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุ
เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวพรรคพลังประชาชนวางตัวนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นประธานสภาฯ ว่า นายยงยุทธเป็นคนมีความรู้ มีคุณภาพ และมีความเหมาะสม ซึ่งยอมรับว่าในพรรคเริ่มมีการคุยกันอย่างไม่เป็นทางการถึงการแต่งตั้งบุคคลที่จะมาเป็นประธานสภาฯ โดยมีการพูดถึงชื่อของนายยงยุทธด้วย ส่วนคดีของนายยงยุทธนั้นก็ไม่น่าจะกระทบ เพราะยังไม่มีการตัดสิน และหลักฐานวีซีดีก็เป็นหลักฐานเท็จ เชื่อว่านายยงยุทธ จะหลุดพ้นคดีนี้อย่างแน่นอน และเชื่อว่านายยงยุทธพร้อมจะรับตำแหน่งนี้ แต่ต้องรอฟังมติของพรรคในวันที่ 20 หรือ 21 ม.ค. ซึ่งพรรคจะมีการประชุมใหญ่ขอมติพรรคแต่งตั้งประธานสภาฯ
