เด็ก “ประสงค์” ยื่นศาลฎีกาเพิกถอนผลการเลือกตั้ง พร้อมหลักฐานภาพถ่าย-ซีดี มัดการเลือกตั้งล่วงหน้าไม่ชอบด้วย กม.เปิดโอกาสให้มีการทุจริตกันอย่างสะดวก ไม่มีระบบควบคุมตรวจสอบ
วันนี้ (15 ม.ค.) นายกฤษศักดา วัฒนพงษ์ ทนายความในคณะทำงานของ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงว่า ตนได้ยื่นร้องต่อศาลฎีกาแผนกเลือกตั้ง คดีหมายเลขดำเลขที่ ลต.5/2551 ลงวันที่ 14 ม.ค.ว่า การเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 15-16 ธ.ค.เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. มาตรา 95 ขัดกับพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง และเป็นการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรมให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
นายกฤษศักดา กล่าวว่า เนื่องจากการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันดังกล่าวมีการอนุญาตไว้ล่วงหน้าการลงคะแนนเสียงและอนุญาตหลังจากลงคะแนนเสียงแล้ว โดยไม่มีการตรวจสอบหรือสอบสวนถึงความจำเป็นในการที่จะลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้า และได้มีการดำเนินการทั่วประเทศ อาทิ ในเขตเลือกตั้งที่ 6 กทม.มีการจัดเตรียมแบบฟอร์มเป็นแบบคำขอใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าของคณะกรรมการประจำที่เลือกตั้งกลาง ในเขตเลือกตั้ง และในแบบคำขอดังกล่าวได้มีประธานกรรมการประจำที่เลือกตั้งกลางลงลายมือชื่ออนุญาตให้ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ณ ที่เลือกตั้งกลางในเขตเลือกตั้งได้วางเรียงบนชั้นมีจำนวนมาก
ผู้ใช้สิทธิสามารถหยิบไปลงคะแนนได้ทันที จึงเห็นว่า การขอใช้สิทธิล่วงหน้ายังไม่มีการตรวจสอบก่อนวินิจฉัยอนุญาตแต่อย่างใด แต่ขณะที่ในเขต 7 กทม.ที่มีการนำแบบฟอร์มที่ยังไม่มีการอนุญาตจากประธานกรรมการประจำที่เลือกตั้งอนุญาตล่วงหน้า วางเรียงให้ผู้ใช้สิทธินำไปลงคะแนนเสียง โดยมีการอนุญาตในภายหลังการเลือกตั้งแล้ว ซึ่งตนที่มีหลักฐานเป็นภาพถ่ายและซีดี อย่างชัดเจน
“การดำเนินการดังกล่าวจึงเป็นการเปิดโอกาสให้มีการทุจริตกันอย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นให้สิ่งจูงใจทั้งทรัพย์สินและเงินทอง และขนคนมาลงคะแนนจากผู้ที่ได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง จึงถือได้ว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าไม่มีระบบควบคุมตรวจสอบ เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีสิทธิมาลงคะแนนได้โดยไม่จำกัดจำนวน และเป็นการเลือกตั้งล่วงหน้าทั่วประเทศทุกเขต
และยังมีการนำบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าไปนับรวมกับวันเลือกตั้งทั่วประเทศด้วย เท่ากับว่า การเลือกตั้งทั้ง 3 วันไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้น จึงขอให้เพิกถอนการเลือกตั้งล่วงหน้า และการเลือกตั้งวันที่ 23 ธ.ค.และเพิกถอนการรับรอง ส.ส.ที่ดำเนินการไปแล้วและส่วนที่ยังไม่ได้รับรองด้วย
ทั้งนี้ นายกฤษศักดา ยืนยันว่า การยื่นคำร้องของตนเป็นคนละกรณีกับที่มีการยื่นฟ้องให้เพิกถอนผลการเลือกตั้งล่วงหน้า ที่ระบุเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต) ว่า ไม่มีอำนาจในการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าได้ แต่กรณีของตนเป็นเรื่องของการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.เลือกตั้งฯ โดยศาลจะนัดฟังคำสั่งวันที่ 21 ม.ค.นี้ เวลา 10.00 น.
วันนี้ (15 ม.ค.) นายกฤษศักดา วัฒนพงษ์ ทนายความในคณะทำงานของ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงว่า ตนได้ยื่นร้องต่อศาลฎีกาแผนกเลือกตั้ง คดีหมายเลขดำเลขที่ ลต.5/2551 ลงวันที่ 14 ม.ค.ว่า การเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 15-16 ธ.ค.เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. มาตรา 95 ขัดกับพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง และเป็นการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรมให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
นายกฤษศักดา กล่าวว่า เนื่องจากการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันดังกล่าวมีการอนุญาตไว้ล่วงหน้าการลงคะแนนเสียงและอนุญาตหลังจากลงคะแนนเสียงแล้ว โดยไม่มีการตรวจสอบหรือสอบสวนถึงความจำเป็นในการที่จะลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้า และได้มีการดำเนินการทั่วประเทศ อาทิ ในเขตเลือกตั้งที่ 6 กทม.มีการจัดเตรียมแบบฟอร์มเป็นแบบคำขอใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าของคณะกรรมการประจำที่เลือกตั้งกลาง ในเขตเลือกตั้ง และในแบบคำขอดังกล่าวได้มีประธานกรรมการประจำที่เลือกตั้งกลางลงลายมือชื่ออนุญาตให้ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ณ ที่เลือกตั้งกลางในเขตเลือกตั้งได้วางเรียงบนชั้นมีจำนวนมาก
ผู้ใช้สิทธิสามารถหยิบไปลงคะแนนได้ทันที จึงเห็นว่า การขอใช้สิทธิล่วงหน้ายังไม่มีการตรวจสอบก่อนวินิจฉัยอนุญาตแต่อย่างใด แต่ขณะที่ในเขต 7 กทม.ที่มีการนำแบบฟอร์มที่ยังไม่มีการอนุญาตจากประธานกรรมการประจำที่เลือกตั้งอนุญาตล่วงหน้า วางเรียงให้ผู้ใช้สิทธินำไปลงคะแนนเสียง โดยมีการอนุญาตในภายหลังการเลือกตั้งแล้ว ซึ่งตนที่มีหลักฐานเป็นภาพถ่ายและซีดี อย่างชัดเจน
“การดำเนินการดังกล่าวจึงเป็นการเปิดโอกาสให้มีการทุจริตกันอย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นให้สิ่งจูงใจทั้งทรัพย์สินและเงินทอง และขนคนมาลงคะแนนจากผู้ที่ได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง จึงถือได้ว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าไม่มีระบบควบคุมตรวจสอบ เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีสิทธิมาลงคะแนนได้โดยไม่จำกัดจำนวน และเป็นการเลือกตั้งล่วงหน้าทั่วประเทศทุกเขต
และยังมีการนำบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าไปนับรวมกับวันเลือกตั้งทั่วประเทศด้วย เท่ากับว่า การเลือกตั้งทั้ง 3 วันไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้น จึงขอให้เพิกถอนการเลือกตั้งล่วงหน้า และการเลือกตั้งวันที่ 23 ธ.ค.และเพิกถอนการรับรอง ส.ส.ที่ดำเนินการไปแล้วและส่วนที่ยังไม่ได้รับรองด้วย
ทั้งนี้ นายกฤษศักดา ยืนยันว่า การยื่นคำร้องของตนเป็นคนละกรณีกับที่มีการยื่นฟ้องให้เพิกถอนผลการเลือกตั้งล่วงหน้า ที่ระบุเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต) ว่า ไม่มีอำนาจในการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าได้ แต่กรณีของตนเป็นเรื่องของการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.เลือกตั้งฯ โดยศาลจะนัดฟังคำสั่งวันที่ 21 ม.ค.นี้ เวลา 10.00 น.