เจ้าหน้าที่ สตง.บุกยึดทรัพย์ “ไทยรักไทย” บนที่ทำการพรรค “พลังแม้ว” ตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ เตรียมนำออกขายทอดตลาด วงเงินประเมินแค่ 1 ล้านเศษ ด้าน “อริสมันต์” โวยหลังถูกแจ้งข้อกล่าวหางาบสินบนบ้านเอื้อ อ้างการเมืองเรื่อยเปื่อย
วันนี้ (8 ม.ค.) ที่อาคารไอเอฟซีที ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ที่ทำการพรรคพลังประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งชาติ (สตง.) ประมาณ 20 คน พร้อมด้วยรถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 8 คัน ได้เดินทางมาขนย้ายทรัพย์สินของพรรคไทยรักไทย เพื่อเตรียมขายทอดตลาดในวันที่ 9 ม.ค.ภายหลังจากคณะตุลาการรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุบพรรคไทยรักไทย เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2550 ที่ผ่านมา โดยทรัพย์สินของพรรคไทยรักไทยที่เจ้าหน้าที่มายึดเพื่อขายทอดตลาดนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นครุภัณฑ์ เครื่องใช้สำนักงาน จำนวนทั้งสิ้น 790 รายการ วงเงินราคาประเมินเบื้องต้น 1.3 ล้านบาท
ด้าน นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง อดีตเลขานุการ รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาในคดีการทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร ที่มีนายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการ คตส.และประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนการทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร กล่าวถึงกรณีที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาในคดีโครงการทุจริตบ้านเอื้ออาทร ในฐานะเป็นตัวกลางเรียกรับสินบน จำนวน 7 ล้านบาท ว่า ในเรื่องดังกล่าวได้กระทำไปอย่างสุจริต และไม่ได้ทำผิดแต่อย่างใด ทั้งนี้ ไม่เข้าใจว่า คตส.เอาข้อมูลมาจากไหน ซึ่งในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเลขานุการ รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก็ทำหน้าที่เป็นเลขาของ นายประชา มาลีนนท์ ไม่ใช่ นายวัฒนา เมืองสุข อีกทั้งยังไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในวันนี้จะเปิดแถลงข่าวที่ จ.นครราชสีมา และจะเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะถูกเล่นงานทางการเมืองแบบนี้ เพราะชีวิตไม่เคยทำอะไรผิดและยุ่งเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ ซึ่งกรณีที่ คตส.ตั้งข้อกล่าวหานี้อาจเป็นไปได้ว่าในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ตนเคยไปปราศรัยที่หน้าบ้านของนายแก้วสรร ซึ่งอาจจะโกรธเคืองตนได้จึงมาเล่นงานเช่นนี้” นายอริสมันต์ กล่าว