รักษาการ ปธ.คมช.ระบุ อยากเห็นประเทศชาติกลับคืนสู่สภาวะปกติ และประชาชนมีความสุข ในปี 2551 พร้อมเรียกร้องประชาชนร่วมมือทำทุกสิ่งให้บ้านเมืองกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ขณะที่ “กกต.บุรีรัมย์-พยาน” หวั่นโดนอุ้ม ร้อง คมช.ดูแลความปลอดภัย หลังแจกใบแดงว่าที่ ส.ส.พลังแม้ว
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ และรักษาการประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์บ้านเมืองในปี 2551 ว่า อยากเห็นประเทศชาติได้กลับคืนสู่สภาพปกติ และประชาชนก็อยากจะให้มีความสุข แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และสิ่งแวดล้อมที่รุมเร้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ ส่วนเรื่องความมั่นคง คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา ซึ่งความสัมพันธ์กับต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ส่วนเรื่องการเมืองคิดว่า ถ้าไม่มีความนึกคิดที่เป็นเฉพาะของตนเอง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง พยายามนึกคิดคนทั้งประเทศ ควรทำทุกสิ่งให้ราบรื่นเข้าสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด เพราะขณะนี้ยังอึมครึมอยู่ แต่คิดว่าประเทศจะผ่านไปด้วยดี เพราะประเทศไทย และคนไทยไม่เคยอับจน มีหนทางออกทั้งสิ้น อาจจะดีน้อยหน่อย หรือดีเยี่ยม
ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากจะฝากอะไรไปถึงรัฐบาลที่จะเข้ามาบริหารประเทศบ้าง พล.อ.อ.ชลิต ตอบว่า ตนคงไม่ฝากอะไร เพราะปล่อยให้เป็นภาระของท่านที่อาสาเข้ามาทำงานให้กับพวกเรา ท่านคงทราบดีว่าควรจะต้องทำอะไร เมื่อถามว่า กรณีที่ นายสมชัย จึงประเสริฐ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เหมือนจะถอดใจที่จะกลับไปเป็นผู้พิพากษาเหมือนเดิม ตรงนี้จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของ กกต.หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่ยั่งยืน เมื่อเป็นข้าราชการก็จะต้องเกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ การอาสาเข้ามาทำงานในหน้าที่ใดๆ ก็จะมีวาระของตัวเอง 2-4 ปี ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และสิ่งแวดล้อม และความเหมาะสม เมื่อถามว่า จะให้กำลังใจ กกต.อย่างไร เพราะหลายคนก็เริ่มถอดใจภายหลังมีแรงกดดันจากพรรคเมือง พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า การทำงานใหญ่เพื่อชาติต้องเข้มแข็ง และกล้าหาญในการกระทำ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เวลาประมาณ 10.00 น.วันเดียวกันนี้ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้เดินทางเข้ากระทรวงกลาโหม เพื่อเข้าพบ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งคาดว่าอาจจะมีการหารือถึงสถานการณ์ทั่วไป ภายหลังจากที่ นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ประกาศจัดตั้งรัฐบาล 254 เสียง
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการเดินทางเข้าพบ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม และเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ของ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ และรักษาการประธาน คมช.พร้อมด้วย พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อช่วงเช้าวันที่ 2 มกราคม ที่ผ่านมา โดยแกนนำ คมช.ได้หารือถึงสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ อาทิ ความคืบหน้าการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยเฉพาะรับรองผลการเลือกตั้งที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากกำลังอยู่ในการพิจารณาใบเหลือง-ใบแดงของ กกต.ทั้งนี้ แกนนำ คมช.มีความเป็นห่วงกรณีที่มีบางพรรคการเมืองพยายามแทรกแซงการทำงานของ กกต.โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ที่ กกต.ประกาศให้ใบแดง 3 ว่าที่ ส.ส.เขตบุรีรัมย์
รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ได้ทำหนังสือร้องเรียนมาถึงประธาน คมช.เพื่อให้ช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยทั้งของ กกต.บุรีรัมย์ และผู้ที่เป็นพยานในคดีทุจริตการเลือกตั้งในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ รวมทั้งผู้ที่มีข้อมุลการทุจริตและต้องการเข้าเป็นพยาน แต่ไม่กล้าเพราะกลัวเรื่องความปลอดภัย เนื่องจาก กกต.บุรีรัมย์ พบว่า ที่ผ่านมามีการข่มขู่พยาน และมีการใช้วิธีอุ้มผู้ที่จะเป็นพยาน เพื่อข่มขู่ให้เปลี่ยนใจ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ กกต.มีข้อมูลหลักฐานการจ่ายเงินชัดเจนว่าพรรคพลังประชาชนมีการจัดม็อบมาชุมนุมที่สำนักงาน กกต.ประจำบุรีรัมย์ เพื่อข่มขู่และกดดัน กกต.ที่แจกใบแดง 3 ว่าที่ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคพลังประชาชน ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังพิจารณาข้อกฎหมายในการเอาผิดต่อพรรคพลังประชาชนได้หรือไม่
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 3 มกราคมนี้ จะมีการประชุม คมช.ที่กองบัญชาการกองทัพบก โดย พล.อ.อ.ชลิต จะนำเรื่องร้องเรียนที่มาถึงประธาน คมช.มาหารือ เพราะเห็นว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ เพื่อสนับสนุนการทำงานของ กกต.เนื่องจากขณะนี้มีหลายคดีที่ไม่คืบหน้า เพราะพยานหลายคนถูกใช้อิทธิพลข่มขู่ ดังนั้น คมช.จะเสนอเรื่องนี้ผ่านไปยัง กกต.เพื่อเสนอให้ความร่วมมือในการสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยพยานและผู้ที่จะเป็นพยานในคดีทุจริตการเลือกตั้ง รวมทั้งดูแลความปลอดภัย กกต.ในพื้นที่ที่มีอิทธิพล เพื่อให้การทำงานของ กกต.ไม่ถูกแทรกแซงจากกลุ่มอิทธิพล
