หนองแขม - ยอมต้านแรงเสียดทานไม่ไหว ในที่สุดสถานีโทรทัศน์แถวหน้าของไทยสั่งขั้นเด็ดขาดทันที ห้าม “นักเล่าข่าว” คนดัง น้อยใจกระแสสังคมจนตัดสินใจประกาศลาหน้าจอ บอก “ท้อได้” แต่ให้คิดถึงเงินมหึมาจากค่าโฆษณาที่ยังทุ่มเข้ามาไม่อั้น ยันพร้อมอุ้มสมจนกว่าจะติดคุกจริง
รายงานข่าวจากละแวกหนองแขมยืนยันว่า ล่าสุดผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่องน้อยสี มีคำสั่งอย่างเป็นทางการ ที่สำคัญคือเป็นคำสั่งขั้นเด็ดขาด ส่งไปถึงนักเล่าข่าวคนดังเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อช่วงสายของวันวานที่ผ่านมา เนื่องจากบอร์ดบริหารหารือและมีมติเอกฉันท์ชนิดเต็มล้านเปอร์เซ็นต์เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า ถึงเวลาต้องสะสางปัญหาที่กำลังถาโถมเข้าใส่นักเล่าข่าวเพื่อให้สังคมวงกว้างรับรู้ร่วมกัน
ในคำสั่งขั้นเฉียบขาดของที่ประชุมบอร์ดช่องน้อยสีช่วงตอนหนึ่งระบุว่า “นับจากนี้เป็นต้นไป ทางผู้บริหารขอยืนยันว่า ทางช่องต้องขอให้หยุดความคิดที่บอกกล่าวผ่านมาทางเลขาฯ ส่วนตัว เรื่องจะขอแสดงสปิริตด้วยการหยุดในทุกๆ รายการที่ออกอากาศจนกว่าคำพิพากษาในชั้นสุดท้ายจะตัดสินว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จึงจะกลับมาใหม่นั้น บอร์ดขอยืนยัน นั่งยัน นอนยัน อีกทั้งเขย่งยันว่าอย่าคิดน้อยเนื้อต่ำใจ จนถึงขั้นลาจอเด็ดขาด คิดอะไรก็ได้ แต่ขอให้อย่าลืมคิดเรื่องเม็ดเงินจำนวนมหึมาที่ลูกค้ารายใหญ่พร้อมจะจ่ายให้ เนื่องจากกระแสความสนใจหรือเรตติ้งกำลังพุ่งทะลุเพดาน ใครจะหาว่าหน้าด้าน ไร้จริยธรรมก็ช่างหัวเผือกปะไร ไอ้เพือกนั้นมันรวยเท่าเราซะเมื่อไร ก็แค่พวกอิจฉาตาร้อนแค่หยิบมือเดียวเท่านั้น ล่าสุดเช็กเรตติ้งทุกรายการที่คุณจัด 8 รอบซ้อน ปรากฏว่าเรตติ้งยังนำโด่งเป็นอันดับ 1 ย้ำขอสั่งห้ามไม่ให้ลาจอเด็ดขาด”
แหล่งข่าวระดับสูง เปิดเผยสำทับภายหลังว่า ช่องน้อยสีมีความรับผิดชอบต่อสังคมสูง ขณะเดียวกันก็เห็นแก่เงินสูงด้วยเช่นกัน ที่สำคัญคือเห็นแก่เงินสูงกว่าสังคมในอัตราที่มากกว่าอย่างคาดไม่ถึง เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็เกิดขึ้นทางช่องอื่น ไม่เกี่ยวกับช่องน้อยสีแม้แต่น้อย ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องแสดงความรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม หากนักเล่าข่าวประกาศต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของศีลธรรมและจรรยาบรรณ ทางผู้บริหารจะสั่งกำชับขั้นพิเศษเด็ดขาด ห้ามป่วย ห้ามตาย ห้ามลาจอ ตราบใดที่ยังไม่ติดคุกติดตะรางจริงๆ ห่วงทำไมภาพลักษณ์ ห่วงเรื่องความรวย รวย รวยดีกว่า
ล่าสุดผู้บริหารระดับสูงเรียกตัวนักเล่าข่าวเข้าไปกล่อมตัวต่อตัวเป็นที่เรียบร้อย โดยมีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการฉบับใหม่คล้ายๆ สโมสรฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจับซูเปอร์สตาร์เซ็นสัญญาใหม่ไปอีก 5 ปีนั่นเอง