ปทุมวัน - ลือหึ่ง “นาย” ปอดแหกหวั่น “ลูกน้อง” เครียดจัดแล้วเกิดสติแตก กำชับเด็ดขาด จากนี้ไปให้พกไม้ตีพริกคนละดุ้นแทนปืน เหตุช่วงเวลาที่ผ่านมามีเหตุร้ายถี่มาก อ้างต้องให้ค่ากับความปลอดภัยต่อชีวิตสูงสุด
เล่าลือกันทั้งปากต่อปาก และข้ามฟากไปยังโลกออนไลน์ ว่ามีคำสั่งอย่างเป็นทางการจาก “นาย” ผู้มีอำนาจสูงสุดของหน่วยงานสำคัญระดับชาติแห่งหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์จะเปิดเผยนามจริง นับจากนี้ไปขอให้คนที่เป็นลูกน้องทุกระดับชั้น ที่สำคัญคือลูกนอกจากหน่วยงานอื่น ที่จะเดินทางมาติดต่อราชการ หรือแวะเวียนมาจิบชา กาแฟ ห้ามพกพาอาวุธปืนมาด้วย ไม่ว่าจะในเครื่องแบบหรือนอกเครื่องแบบก็ห้ามเด็ดขาด นอกเหนือจากนั้น ยังแต่งตั้งให้มีเวรยาม รวมทั้งหน่วยรักษาความปลอดภัยเฉพาะกิจ สอดส่องดูแลเพื่อให้คำสั่งที่ว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยปลอดภัย
ส่วนสาเหตุที่ทำให้มีคำสั่งออกมา รายงานเพิ่มเติมว่าเป็นเพราะช่วงนี้มีเหตุผู้เป็นลูกน้องเกิดอาการบ้าเลือด หิ้วปืนประจำกายไปยิงใส่ผู้เป็นนายมาแล้วหลายท้องที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ร้ายแรงในองค์กรอุบัติซ้ำซาก จึงมีคำสั่งห้ามพกพาอาวุธปืนเข้ามาในเขตที่เจ้านายทำงานอยู่อย่างไม่มีข้อยกเว้น มาดแม้นว่าลูกน้องคนไหนยังเหน็บปืนตุงสะเอวหราเหมือนที่ผ่านมาอาจถูกสอบสวนในฐานะละเมิดคำสั่งนายอย่างร้ายแรง
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ความสงบเรียบร้อยเกิดกับประชาชนและสังคมโดยรวม คำสั่งดังกล่าวยังมีหมายเหตุกำกับในตอนท้าย ให้ลูกน้องทุกนายที่จะเข้ามาทำข้อราชการกับสำนักงานใหญ่ สามารถพกสากกะเบือมาได้นายละไม่เกิน 1 ดุ้น ยาวไม่ถึง 1 ฟุต น้ำหนักไม่เกินครึ่งกิโลกรัม แต่ห้ามเป็นสากกะเบือที่ใช้กับครกหิน เนื่องจากหากลูกน้องโมโห หน้ามืดตามัวขึ้นมา เกรงว่าจะใช้ทุบศีรษะเจ้านายให้เกิดอาการบาดเจ็บปางตายนั่นเอง
“ช่วงนี้เกิดคดีไม่คาดคิดบ่อยๆ นายเค้ากลัว สั่งอารักขาแข็งขัน ใครจะเข้าใครจะออกสำนักงาน ไม่ว่าจะชั้นไหนๆ ก็ต้องฝากปืนไว้กับ รปภ. ด้านหน้าทางเข้า ยังดีที่อนุญาตให้พกสากกะเบือได้ ไม่งั้นโจรผู้ร้ายเหิมเกริมแน่ ที่สำคัญคือรู้สึกเสียเกียรติที่ไม่ได้พกปืน ยังดีที่มีสากกะเบือให้อุ่นใจ” แหล่งข่าวระดับสูงกระซิบกระซาบ
เมื่อตรวจสอบข่าวข้อเท็จจริง ผู้จัดกวนยังไม่สามารถหาต้นตอคำสั่งพกสากกะเบือแทนปืน ฉะนั้น เรื่องนี้จึงไม่มีการยืนยันในความจริงใดๆ ทั้งสิ้น