ในบรรดาเหตุการณ์ซ้ำซากที่เกิดขึ้นเป็นข่าวตามสื่อทั่วไปแทบจะไม่เว้นแต่ละวันของสังคมไทย น่าจะเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ ฆาตกรรม เด็กแว้น และวัยโจ๋ออกอาละวาดปล้นร้านสะดวกซื้อ
แล้วก็ดูเหมือนว่ายิ่งตำรวจกวดขันเท่าไร เหตุการณ์เดิมๆ จากบรรทัดข้างต้นกลับยังคงอุบัติขึ้นเป็นปกติ
ตราบจนสังคมโซเชียลมีเดียรณรงค์ให้สังคมไทยงดไป “ร้านสะดวกซื้อ” เจ้าหนึ่ง สิริรวมแล้วเป็นเวลา 5 วัน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า 1 ในจำนวนคนที่ขอร่วมแรงร่วมใจรณรงค์นั้น คือแก๊งปล้นที่เรียกตัวเองว่า “แก๊งสะดวกซื้อ”
ต้องฟังปากคำของพวกเขา ทำไม 7-11 นี้ ไม่ออกไปจี้ปล้นตามปกติ
เอ (นามสมมติ) : “โหเพ่ ก็ม่างเอาเปรียบแสรดๆ ขนาดพวกผมที่ชอบตระเวนป่วนเมือง ปล้นมั่ง จี้มั่งยังมีคุณธรรม เพ่เคยได้ยินว่าผมเดินเอาคัตเตอร์ หรือลากแป๊บไปปล้นร้านโชห่วยป่ะ อ้ะถามจริง ไม่มี๊ (ลากเสียงยาว) คือคนเราอ่ะนะ มันต้องมีคุณธรรมอยู่ในตัวเองบ้าง ไม่ใช่ทำห่าอะไรก็ได้ ขอกูรวยอย่างเดียว แบบนี้เอ (ชี้อกตัวเอง) รับไม่ได้ว่ะ”
บี (นามสมมติ) : “หยุดแค่ห้าวันเพื่อแสดงให้พวกเขาละอายใจ เอะใจบ้างว่า เฮ้ย ขนาดแก๊งโจ๋ที่ออกอาละวาดเที่ยวปล้นสาขานั้น จี้สาขานี้ มันยังร่วมต่อต้านด้วย คือให้รู้กันไปเลยว่า ขนาดพวกกรูยังรังเกียจที่จะปล้นมรึง คนห่าอะไร เอารัดเอาเปรียบเค้าไปทั่ว บ่องตงเพ่ ไอ้พวกบะหมี่ แซนด์วิช เจลลี่ ขนมปังปงๆ แปงๆ อะไรในร้านมันก็ก๊อบเจ้าอื่นมาทั้งสิ้น น่าอายป่ะ”
ซี (นามสมมติ) : “ขี้อิจฉาก็ได้โล่ พอเห็นแฟรนไชส์ไหนขายดี ไปเปิดสาขาแข่งใกล้เขาเลย จริยธรรมน่ะสะกดเป็นมั้ย อีกหน่อยไม่มีใครค้าขายได้แล้ว โดนมันรวบเกลี้ยง สรุปว่าพวกผม 7-11 เนี่ย หยุดแน่นอน ถามว่าแล้วช่วยอะไรได้ไหม ช่วยไม่ได้หรอกครับ คุณมันรวยตายโหงแล้ว แต่โจ๋แบบผมแค่อยากบอกคุณว่า ไม่เข้าสักห้าวันไม่ตายห้าร๊อก”
