พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลจะเริ่มจัดระเบียบการให้โควต้าผู้ค้าสลากใหม่ในเดือนมิ.ย.นี้ หลังจากสัญญาผูกพันการให้โควต้าสลากกินแบ่งเดิมได้สิ้นสุดลง
"ครั้งนี้จะเป็นการจัดระเบียบใหม่ ทั้งราคาตั้งต้นจากกองสลาก และระบบโควต้าแก่ผู้รับไปจำหน่าย เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา พบว่าหลายกรณี ผู้ได้รับจัดสรรไป ก็ไม่ได้จำหน่ายเอง แต่ขายกลับมาให้รายใหญ่บ้าง หรือขายเป็นทอด ๆ จนราคาสลากสูงขึ้น มาก เรียกได้ว่าขาดความสุจริต เข้าทำนองปั่นราคาเกินจริง เมื่อคนรับทอดสุดท้าย มาเดินขาย หรือตั้งโต๊ะขาย ก็ต้องตั้งราคาสูง เป็นภาระแก่ผู้บริโภค ที่สำคัญทำให้เกิดเงินนอกระบบจำนวนมหาศาล ที่อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม"
รัฐบาลมีแนวนโยบายว่าการจัดสรรโควต้าใหม่ควรจะแบ่งให้แก่ผู้ค้าทั้งในกรุงเทพฯ และทุกจังหวัด ในราคาต้นทุนจากกองสลากในราคาที่ต่ำกว่าปัจจุบัน เช่น อาจจะตั้งไว้ที่ฉบับละ 70 บาท เพื่อให้มีส่วนต่างกำไรมากขึ้น นอกจากนั้น รัฐบาลยังแบ่งสัดส่วนรายได้ไว้รับซื้อสลากคืน เพื่อให้ครอบคลุมเหตุผลที่ผู้ค้าสลากมักจะอ้างว่า ประชาชนไม่นิยมซื้อบางเลข ทำให้จำหน่ายสลากไม่หมด จึงต้องขายเกินราคาเพื่อมาชดเชยสลากที่ขายไม่ออก
"เมื่อรัฐมีแนวทางแบ่งสัดส่วนกำไรให้ผู้ค้ามากขึ้นขนาดนี้ จึงไม่มีเหตุผลใดมาอ้างในการขายเกินราคา หากพบการกระทำผิดจะต้องลงโทษตามกฎหมาย และขอเตือน ผู้เกี่ยวข้องต่าง ๆ อย่าออกมาปลุกปั่นยั่วยุ ผู้ค้ารายย่อย หรือ สมาคมชมรมผู้พิการต่าง ๆ ให้ออกมาเรียกร้อง หรือกดดันรัฐบาล โดยอ้างประชาชน เพราะรัฐบาลมุ่งมั่นแก้ปัญหา เพื่อกระจายส่วนแบ่งรายได้จาก พวกที่นอนกินมาสู่ผู้ขายสลากที่เสียเหงื่อ เสียกำลัง ตั้งใจเดินขายหารายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว รวมทั้งคืนความยุติธรรมให้ผู้บริโภค จะได้ซื้อสลากในราคาหน้าสลากจริง ไม่ใช่ราคาที่สุดแท้แต่ผู้ขายจะตั้งขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนที่จะรักษาสิทธิ์ของตนไม่ให้ถูก เอารัดเอาเปรียบด้วยการไม่ซื้อสลากเกินราคา"
"ครั้งนี้จะเป็นการจัดระเบียบใหม่ ทั้งราคาตั้งต้นจากกองสลาก และระบบโควต้าแก่ผู้รับไปจำหน่าย เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา พบว่าหลายกรณี ผู้ได้รับจัดสรรไป ก็ไม่ได้จำหน่ายเอง แต่ขายกลับมาให้รายใหญ่บ้าง หรือขายเป็นทอด ๆ จนราคาสลากสูงขึ้น มาก เรียกได้ว่าขาดความสุจริต เข้าทำนองปั่นราคาเกินจริง เมื่อคนรับทอดสุดท้าย มาเดินขาย หรือตั้งโต๊ะขาย ก็ต้องตั้งราคาสูง เป็นภาระแก่ผู้บริโภค ที่สำคัญทำให้เกิดเงินนอกระบบจำนวนมหาศาล ที่อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม"
รัฐบาลมีแนวนโยบายว่าการจัดสรรโควต้าใหม่ควรจะแบ่งให้แก่ผู้ค้าทั้งในกรุงเทพฯ และทุกจังหวัด ในราคาต้นทุนจากกองสลากในราคาที่ต่ำกว่าปัจจุบัน เช่น อาจจะตั้งไว้ที่ฉบับละ 70 บาท เพื่อให้มีส่วนต่างกำไรมากขึ้น นอกจากนั้น รัฐบาลยังแบ่งสัดส่วนรายได้ไว้รับซื้อสลากคืน เพื่อให้ครอบคลุมเหตุผลที่ผู้ค้าสลากมักจะอ้างว่า ประชาชนไม่นิยมซื้อบางเลข ทำให้จำหน่ายสลากไม่หมด จึงต้องขายเกินราคาเพื่อมาชดเชยสลากที่ขายไม่ออก
"เมื่อรัฐมีแนวทางแบ่งสัดส่วนกำไรให้ผู้ค้ามากขึ้นขนาดนี้ จึงไม่มีเหตุผลใดมาอ้างในการขายเกินราคา หากพบการกระทำผิดจะต้องลงโทษตามกฎหมาย และขอเตือน ผู้เกี่ยวข้องต่าง ๆ อย่าออกมาปลุกปั่นยั่วยุ ผู้ค้ารายย่อย หรือ สมาคมชมรมผู้พิการต่าง ๆ ให้ออกมาเรียกร้อง หรือกดดันรัฐบาล โดยอ้างประชาชน เพราะรัฐบาลมุ่งมั่นแก้ปัญหา เพื่อกระจายส่วนแบ่งรายได้จาก พวกที่นอนกินมาสู่ผู้ขายสลากที่เสียเหงื่อ เสียกำลัง ตั้งใจเดินขายหารายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว รวมทั้งคืนความยุติธรรมให้ผู้บริโภค จะได้ซื้อสลากในราคาหน้าสลากจริง ไม่ใช่ราคาที่สุดแท้แต่ผู้ขายจะตั้งขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนที่จะรักษาสิทธิ์ของตนไม่ให้ถูก เอารัดเอาเปรียบด้วยการไม่ซื้อสลากเกินราคา"