แม้จะมี “ผู้หวังดีแต่ไม่ประสงค์แจ้งนาม” โยนกรณีใช้เม็ดเงิน 885 ล้านบาท ซื้อหุ้น อันอาจจะทำให้ชวดเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่ในที่สุด “เสี่ยอ๊อด” หรือ พล.ต.อ.สมยศ ก็หยิบชิ้นปลามันมาจนได้ ท่ามกลางความปลาบปลื้มใจของหลายๆ ฝ่าย เป็นอย่างยิ่ง
เนื่องด้วย “เสี่ยอ๊อด” มือปราบ “พันธมิตร” คือคนสนิทของใครต่อใครจนวุ่นวายไปหมด ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง บิ๊กทหาร ไม่เว้นกระทั่งนักธุรกิจใหญ่ ที่เจ้าตัวบอกว่า เขาเองมีพวกเยอะ เงินเฉียดๆ พันล้านที่จะซื้อหุ้น บอกแค่คำเดียวเพื่อนก็ดึงขนหน้าแข้งช่วยทันที
เบื้องแรก แหลม บางลี่ มีความกระสันจะไปสัมภาษณ์ “เสี่ยอ๊อด” ชนิดจับสะดือคุย แต่ช่วงนี้มีแขกเข้ามอบมาลัยน้ำใจเสี่ยอ๊อดจนหัวบันไดบ้านน้ำบานกระจาย จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนไปพูดคุยกับคนคุ้นเคยกับเสี่ยอ๊อดแทน
บักแหลม : “น้องเสื้อเหลืองครับ รู้จักเสี่ยอ๊อดบ้างมั้ย”
น้องผู้ชาย : “จำได้แม่นเลยเชียวแหละตำรวจรายนี้ เอ...แล้วพี่ทำไมเรียกเขาเสี่ยแทนที่จะเรียกบิ๊ก”
บักแหลม : “วงในตำรวจเค้าใช้สรรพยามนี้กับทั่นอ๊อดมานานแล้ว เอ่อ...ส่วนพี่คนนี้ละครับคิดว่าไง เสี่ยอ๊อดเหมาะสมป่ะกะตำแหน่ง ผบ.ตร.”
น้องผู้ชาย : “ก็เหมาะกับสถานการณ์สมานฉันท์แห่งชาติช่วงนี้นะ เท่าที่รู้เค้าเป็นตำรวจที่สามารถปรับตัวเองเข้าได้กับแทบทุกพรรคการเมือง เคยติดตามนายมนตรี พงษ์พานิช สนิทสนมกับเนวิน กับทักษิณก็ดีกัน รึอย่างนายพร้อมพันธ์ เลขาคุณชวน ก็ซี้ย่ำปึ้ก แถมบิ๊กๆ ทหารยังไว้วางใจ พวกนักธุรกิจใหญ่ก็เฮฮาปาร์ตี้กัน นี่แหละผลงานแท้จริงของท่านที่พาขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสำเร็จ”
บักแหลม : “แนวโน้มว่าจะปฎิรูปวงการสีกากีมีสักกี่น้ำ”
น้องผู้ชาย : “การแต่งตั้ง พล.ต.อ.สมยศ เป็น ผบ.ตร. ถือเป็นนิมิตหมายให้ชาวไทยบังเกิดความรู้สึกสุขใจอย่างท่วมท้นอีกเรื่องหนึ่ง นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงซึ่งในอดีตไม่ เคยมีการทำอย่างนี้เลย แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ชัดแจ๋วเลยว่ามะ”