เมื่อก่อน “คางคก” กิน “แมลง” เป็นอาหาร ส่วน “เหี้ย” ก็ลากไก่ชาวบ้านลงไปสวาปามในลำคลอง วันเวลาล่วงเลยมาจนถึง “ไพร่กลายพันธุ์เป็นอำมาตย์” ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า “เหี้ย” กับ “คางคก” หันมาบริโภคอาหารอย่างเดียวกัน นั่นคือ “เงิน” จริง...ไม่จริง ต้องถาม จตุพร พรหมพันธุ์ กับ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ว่าวงจรชีวิตของสัตว์สองประเภทวิวัฒนาการเยี่ยงนี้หลังวิกฤต “พ.ร.บ.เหมาเข่ง” ผ่านพ้นจริงป่ะ?
ไปขึ้นเวที “คนเสื้อแดง” ค่ำคืนก่อน “อำมาตย์เต้น” กับ “เสี่ยตู่” ยังจับคู่เข้ากันเป็นผีเน่ากับโลงผุเหมียนเดิม สำรากไม่กี่คำก็พยายามชวน “พี่น้องงงง..งง” บุกไปลุย “เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย” ตะพึดตะพือ กลุ่มผู้ชุมนุมที่มีแกนนำชวนกันทำเรื่อง “หางแดง” ว่าด้วยการ “ทุบตี-เผาเมือง” มีลิขสิทธิ์เฉพาะ “เพื่อแม้ว” เท่านั้น ที่สำคัญ “ตำรวย” ดันหูตึงกับตาบอดซะอีก ที “เสียงนดหวีด” ติดป้ายปราบด้วยแก๊สน้ำตาท่าเดียว เฮ้อ!!!
ถือเป็นนักธุรกิจรายแรกที่จะช่วยกู้ภาพลักษณ์ของ “รัฐบาลปู” ประเด็น “ของแพง” ทราบมาว่าไม่เกินต้นปีหน้า “ตัน ชาเขียวผสมน้ำตาล” จะลดราคาสินค้าของตัวเองทุกชนิดกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้เห็นใจชาวบ้านหรอก แต่ขายครึ่งราคาลูกค้ายังไม่โง่ควักเงินซื้อตะหาก ก๊าก ปากพาซวยจริงๆ “กับปิตัน” แง้!
เปลี่ยนรสชาติมากลืน “สลิ่ม” ด้วยอาการพะอืดพะอมกันแวบเดียว ตอนนี้ “สื่อหลัก” ทุกสำนักหันไปเขมือบ “แตงโม” กันถ้วนทั่วแล้ว ยังอ้าปากแลบลิ้นรอมีเพียง “เสี่ยแม้ว” คนเดียวเท่าน้าน เอ๊ะ! คนละเรื่องเดียวกันอ้ะป่าวเนี่ย 555
หลังศาลโลกพิพากษาคดีเขาพระวิหาร จนป่านนี้ “บิ๊กตู่นะจ๊ะ” ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าปลดเกษียณแล้วจะไปทำงานกับฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร หรือ ฮุนเซน เพียงแค่ประโยค “ตรงไหนที่ไทยเสียดินแดน” สนนราคาค่าตัวก็อัปพรวดพราดแล้ว เอาน่าไม่ว่าจะฝั่งทักษิณ หรือฮุนเซนมันก็เป็นฝั่งเดียวกันทั้งน้านแหละ แป่วววว์