เวียดนาม - พายุ “แกมี” เผยหมดเปลือก สาเหตุต้องแปรสภาพเป็นดีเปรสชันเนื่องจากไม่อยากเป็นเครื่องมือให้เพื่อไทยนำไปใช้ไล่บี้กทม.-สุขุมพันธุ์ ยืนยันยังฟิตเปรี๊ยะ เพียงแต่ไม่ยอมหนุนพวกขี้ฉ้อ
กลายเป็นเรื่องให้ชาวบ้านนำไปวิพากษ์วิจารณ์กันจนปากแฉะ หลังจากมีกระแสข่าวออกมาระลอกแล้วระลอกเล่าว่าปลายสัปดาห์ที่แล้วล่วงเข้าสู่สัปดาห์นี้ พายุชื่อแกมีจะไล่พัดถล่มเข้าใส่เวียดนามก่อนจะแผ่พลานุภาพมาถึงประเทศไทยจนทำให้หลายพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตกรุงเทพมหานครต้องจมบาดาลนานหลายวันติดต่อกัน ส่งผลให้ชาวบ้านตกอยู่ในอาการหวาดผวา เพราะนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญสภาพดินฟ้าอากาศต่างออกโรงมาแนะนำตักเตือนจนประชาชนกังวลใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ทว่า ล่าสุดปรากฏว่าพายุแกมีที่หลายคนครั่นคร้ามได้อ่อนกำลังลงแล้ว แม้กทม. โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะยืนยันว่าต้องเฝ้าระวังต่อไป กระนั้นก็ทำให้หลายฝ่ายใจชื้นขึ้นหลายเท่าตัว
ต่อข้อตำหนิติติงที่ชาวบ้านมุ่งเป้าไปที่นักวิชาการ กรมอุตุฯ รวมทั้งกทม. ต่อกรณีที่ทำให้เกิดความตกอกตกใจในความรุนแรงของพายุแกมีเกินกว่าเหตุนั้น ในเรื่องนี้พายุแกมีได้เปิดเผยให้ยอด ยาหยี บรรณาธิการบริหารผู้จัดกวนสุดเสน่ห์ฟังอย่างหมดเปลือก ว่า ความจริงแกมียังมีฤทธิ์เดชอย่างที่เป็นข่าว แต่เนื่องจากได้มีการตรวจสอบและล้วงลึกถึงผลพลอยได้ที่จะอุบัติตามมาหลังพัดเข้าถล่มประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ จะส่งผลให้กทม. ที่นำทีมทำงานโดยม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ถูกรัฐมนตรีและส.ส. รวมทั้งคนของเสื้อแดงไล่เบี้ยจนเสียหายในทางการเมืองจนโงศีรษะไม่ขึ้น ฉะนั้น แกมีที่ไม่ปรารถนาจะตกเป็นเครื่องมือในทางการเมืองของเพื่อแม้ว จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอ่อนกำลังลง กลายสภาพจากพายุเป็นดีเปรสชันอย่างฉับพลันกะทันหันจนแม้แต่ชาวบ้านยังออกอาการงุนงง
“อันที่จริงแกมียังมีพลังเยอะยิ่งกว่าโด๊ปไวอากร้า แต่ว่าอดทำตัวเป็นพายุที่มีจรรยาบรรณไม่ได้ เพราะหากไม่ค่อยๆ อ่อนตัวลงๆ เหมือนไม่ได้กินกล้วยน้ำว้ามาห้าปี แกมีก็ร้งแต่จะกลายเป็นม้าใช้ให้
เพื่อไทยเอาไปถล่มกทม. ให้เสียหายในทางการเมือง แกมีจึงจำเป็นต้องแปรสภาพจากพายุโหมกระหน่ำมมาเป็นแค่เม็ดฝนโปรยปรายเท่านั้น ที่มีเสียงตักเตือนให้ระวังนั้นถูกต้องแล้ว แต่แกมีไม่อยากสนับสนุนพวกขี้ฉ้อตอแหลแค่นั้นเอง คุณปลอด คุณปูเข้าใจตามนี้นะจ๊ะ”