xs
xsm
sm
md
lg

“Abraham Lincoln : Vampire Hunter” นิยายยำ ขำ แต่ไม่ไร้สาระ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไหนๆหนังเรื่อง Abraham Lincoln : Vampire Hunter ก็กำลังจะลงโรงเข้าฉายในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว ในฐานะหนังไอเดียสุดแปลกที่เอาเรื่องของคนดังมายำกับผีดูดเลือด เราเลยพามาล้วงลึกกันเสียก่อน เพราะก่อนที่จะเกิดเป็นภาพยนตร์กระแสแรง นิยายเรื่องนี้ได้วางจำหน่ายไปในเวลาไม่นานแต่ก็เตะตาบรรดาผู้สร้างหนังเข้าอย่างจัง จึงขอมานั่งจับเข่าคุยกับบรรณาธิการต้นฉบับแห่งสำนักพิมพ์ mars space วีระวัฒน์ เตชะกิจจาทร ว่าหนังสือนิยายเล่มนี้มีอะไรดีถึงได้พลิกมาเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ได้

Abraham Lincoln : Vampire Hunter หรือ คืนวันที่ข้าพเจ้าล่าแวมไพร์ : บันทึกลับเอบราฮัม ลิงคอล์น คือนิยายแปลแนวหนึ่งที่เรียกกันว่า Mash-Up หรือถ้าจะแปลไทยก็อาจแปลได้ว่า นิยายแนว ‘ยำมั่วตำซั่ว’ คือการนำเรื่องที่มีอยู่เดิม 2 เรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวกันเลย มารวมเข้าด้วยกัน ซึ่งนิยายเล่มนี้ก็เป็นการนำเอาประวัติของบุคคลจริงอย่างเอบราฮัม ลิงคอล์น มายำรวมกับเรื่องลี้ลับในเชิงนิยายอย่างแวมไพร์”

มิน่า หลายๆคนถึงได้แอบคิดสงสัยตงิดๆว่าหนังสือเล่มนี้ มันเป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยาย แต่คำเฉลยก็คือหนังสือเล่มนี้เป็นเพียงนิยายจินตนาการล้ำลึกผนวกเรื่องจริงนั่นเอง แต่แล้วทำไมถึงได้นำหนังสือแนว Mash-Up มาลองตีตลาดบ้านเรา บรรณาธิการคนเดิมก็เล่าให้ฟังว่า

“เหตุที่ สนพ.มาร์ส สเปซ ทำนิยายแนวนี้ก็เพราะอยากจะนำเสนออะไรใหม่ๆ ให้กับคอนิยายแปลในประเทศไทย ซึ่งจริงๆ แล้วในต่างประเทศก็มีนิยายแนว Mash-Up แบบนี้มานานแล้ว แต่ในไทยนั้นยังไม่มีนักเขียนประเภทนี้นัก ซึ่งรวมถึงนิยาย Mash-Up ต่างประเทศที่นำมาแปลเป็นไทยก็ยังไม่มีในตลาด

แม้ในต่างประเทศจะมีนักเขียนแนวนี้มากมาย แต่เราก็เจาะจงเลือกงานของนักเขียนดาวรุ่งพุ่งแรงอย่างเซ็ธ แกรห์ม-สมิธ เพราะแม้เรียกว่าเป็นนิยายยำมั่วก็ตาม แต่ถ้าอ่านงานแล้ว ก็จะเห็นว่าเขาไม่ได้เขียนแบบมั่วๆ ซั่วๆ เลย อย่างเรื่อง Abraham Lincoln: Vampire Hunter นั้นก็ไม่ได้สักแต่ว่าเอาเอบราฮัมมายำกับแวมไพร์ แต่แกรห์ม-สมิธกลับสื่อให้เรารู้สึกได้ว่า การค้าทาส การทำนาบนหลังคน การกดขี่ข่มเหงจากคนที่เหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็นทางตำแหน่ง ฐานะ หรือการเงิน ก็เปรียบเสมือนการสูบเลือดสูบเนื้อกันเองของคน ไม่ต่างอะไรจากที่มนุษย์ที่ด้อยกว่าเป็นเหยื่ออันโอชะของเหล่าแวมไพร์กระหายเลือดที่มีทุกอย่างเหนือกว่านั้นเอง”

ส่วนมุมองของ จีระวุฒิ เขียวมณี บรรณาธิการสำนักพิมพ์ ก็เห็นว่าไปในทิศทางเดียวกัน สำหรับหนังสือแนว Mash-Up นี้ที่แม้จะค่อนข้างแหวกตลาดก็จริง แต่ก็ทรงคุณค่าผสานความรู้ได้ไม่น้อยซึ่งหมัดเด็ดของหนังสือเล่มนี้คือการผสมผสานเรื่องจริงกับจินตนาการได้อย่างแนบเนียนนั่นเอง

“ผมคิดมาเสมอว่าอยากอ่านนิยายอมตะของบ้านเราอย่าง บ้านทรายทอง หรือประวัติศาสตร์ของบุคคลสำคัญอย่าง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในเวอร์ชั่นที่หลุดโลกออกไป มีความเป็นแฟนตาซีเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ยังคงไว้ซึ่งความเคารพในตัวผู้ประพันธ์หรือตัวบุคคล อรรถรสทางภาษายังคงสวยงาม และนำเสนอข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องไว้ได้อย่างครบครัน”

ความสนุกของนิยาย คืนวันที่ข้าพเจ้าล่าแวมไพร์: บันทึกลับเอบราฮัม ลิงคอล์น คือการได้สงสัยไปกับเรื่องราวตลอดทั้งเล่มว่าอันไหนคือเรื่องแต่ง อันไหนคือเรื่องจริง เหมือนที่คนอ่านเคยได้รับประสบการณ์นี้มาแล้วจากนิยายที่โด่งดังไปทั่วโลกของ แดน บราวน์ เรื่อง The Da Vince Code เพราะผู้เขียนสามารถเชื่อมรอยต่อระหว่างหน้าประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริงกับจินตนาการของผู้เขียนจนกลายเป็นเนื้อเดียวกันได้อย่างสมบูรณ์”

หนอนหนังสือคนไหนที่สนใจอยากอ่าน หรือใครที่กำลังรอภาพยนตร์ลงจอฉายและอยากเพิ่มอรรถรสในการรับชมภาพยนตร์ หากมีเวลาว่างลองแวะไปหาซื้อมาอ่านกันกับ Abraham Lincoln : Vampire Hunter - คืนวันที่ข้าพเจ้าล่าแวมไพร์ : บันทึกลับเอบราฮัม ลิงคอล์น รับรองว่าสนุกจนคุณวางไม่ลง


กำลังโหลดความคิดเห็น