คอลัมน์ : ถ้ำมองไทย
นายโรคจิต
ถ้ามีเวลา 10 นาที พูดถึงประเทศไทยที่คุณรัก คุณอยากพูดอะไร?
หลายคนอาจมีคำพูดถึงแผ่นดินเกิดซาบซึ้งกินใจแตกต่างกันไป แต่หากพูดถึงประเทศไทยแบบไม่ธรรมดาสองต่อสอง แบบลับสุดลับล่ะ มันจะสะเบ๊ยเฮ้ยขนาดไหน ว่ะฮ่าๆๆ
นายโรคจิตจึงนำความเร้นลับบางอย่างมากำนัลแก่ชาวคณะ เป็นอารมณ์ที่แตกต่างจากมโนสำนึกคนไทยทั่วไป... บ๊ะ! มันน่าสนใจก็ตรงนี้แหละ
ก็เมื่อคราวที่แม่นางหญิงเอ๋อขอเข้าพบผู้อาวุโส 30 นาที นับกันตั้งแต่เจอหน้าทักทายสวัสดี ไต่ถามสารทุกข์สุกดิบ กินน้ำจิบกาแฟ รวมถึงรดน้ำขอพร ทั้งหมดใช้เวลาไปเสร็จสรรพ 20 นาที แต่ทีเด็ดของงานไม่ได้อยู่ตรงน้านนน... เพราะนางไม่ใช่คู่สนทนาตัวจริง มันอยู่ตรงโทรศัพท์ที่นางยื่นให้และมีสายเรียกเข้าจากต่างแดนวิ่งเข้ามาถูกเวลาเป๊ะ...นี่คือบทสนทนา 10 นาทีที่ไม่ควรพลาดกันด้วยประการทั้งปวง แม้เป็นเพียงเสียงสนทนาจากแดนไกลฝ่ายเดียว สัญญาณบางช่วงอาจขาดหาย แต่รับรองว่าความเข้มข้นแผ่ซ่านทุกอณูแน่
“กราบสวัสดีครับท่าน ขออภัยจริงๆ ที่ไม่ได้มาด้วยตัวเอง คุยกันแบบนี้ท่านคงไม่ถือสา... ป๋าตั้งใจฟังผมให้ดีๆ รู้แล้วใช่ไหมว่า ผมจะทำอะไรก็ได้ในประเทศนี้”
“....คนไทยมันติดโรคระบาดงอมแงม ผมนี่แหละรักษาได้ โรคแพ้เงินกันทั้งนั้น มันเป็นยุคเสื่อมศักดิ์ศรีไปแล้ว ซื้อได้ทุกอย่างแม้กระทั่งลมหายใจ หลอกให้มาตายมันก็มา ในสภาก็ของผม นอกสภาก็ของผม!!”
“สื่อฯ ผมก็คุมไว้เกือบหมด ที่ว่ามีปัญญาน่ะ เห็นเงินปึกหนาเข้าก็คันมือยุบยิบ คนที่รู้ทันมีแค่หยิบมือ จะมีน้ำยามาทำอะไรผมได้”
“ประเทศนี้ผมกุมอำนาจไว้เบ็ดเสร็จทุกอย่าง แม้กระทั่ง ... (สัญญาณขาดหาย) ไอ้พลังเงียบที่ท่านว่านั่นไม่มีปัญญาหรอก พวกไทยมุง พวกอุปาทานหมู่ แค่ทำให้น้ำมันแพงวันเดียวมันก็ดิ้นกันพราดแล้ว”
“…พูดแบบนี้อยากเห็นคนไทยตายหมู่ใช่ไหม แม้แต่.... (สัญญาณขาดหาย) ถ้าจะทำขึ้นมา กูก็ไม่สน จะห่วงทำไม ไม่เห็นมีใครห่วงประเทศกันซักคนนอกจากตัวเอง เสื้อแดงน่ะหรือ เดี๋ยวมันก็เช็กบิลกันเอง ผมไม่เห็นต้องจ่ายสักแดงเดียว ขอแค่ พ.ร.บ.นิรโทษฯ ผ่าน อย่ามาขวางผม ผมเตือนไว้ตรงนี้”
“ปัญหามันก็วนมาที่ประชากรประเทศนี้มันโง่ซื่อไง รักแต่สนุกสบายส่วนตัว ไม่มีวินัย เจ็บไม่จำ ลืมง่าย ... กี่ปีกี่ชาติก็เป็นแบบนี้”
“ใครจะทำอะไรผมได้ ผมกลับแน่ ปีนี้ต้องอยู่ที่เมืองไทย...แค่นี้แหละครับ สวัสดี”