วธ.ปรับกลยุทธ์เช็กบิลร้านเกม-คาราโอเกะใหม่ หลังเจอเจ้าของร้านหัวหมอเลี่ยงกฎหมาย อ้างเด็กมาทำการบ้าน
นายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า จากการประชุมผู้บริหารระดับสูงของ วธ.เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีการสรุปปัญหาการทำงานในรอบ 1 ปีของวธ.พบปัญหาการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 โดยเฉพาะเรื่องการตรวจสถานประกอบการทั้งร้านเกม และร้านคาราโอเกะ ยังมีข้อบกพร่องในเรื่องข้อมูลอยู่ เช่น เมื่อร้านเกมนำสิ่งของที่มีแอลกอฮอล์มาจำหน่ายที่ขัดต่อระเบียบร้านเกม แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการบันทึกภาพไว้ ทำให้ผู้ประกอบการใช้เป็นข้ออ้างว่าไม่มีหลักฐานที่จะทำให้ถูกลงโทษทางกฎหมาย เป็นต้น ดังนั้น ที่ประชุมได้เห็นชอบให้มีการกำหนดรูปแบบการออกตรวจสถานประกอบการใหม่ โดยมอบหมายให้ฝ่ายนิติการของ วธ.ไปจัดทำแนววิธีการออกตรวจสถานประกอบการในรูปแบบต่างๆ แล้วจัดทำเป็นรูปแบบสื่อวิดีโอ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่ต้องออกตรวจคู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ศึกษา และปฏิบัติงานได้ตรงเป้าหมาย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ที่ออกตรวจจะต้องมีการบันทึกข้อมูลต่างๆ ใหม่ เมื่อพบเจอการกระทำความผิด ต้องมีการเก็บข้อมูลพยานรอบข้าง ภาพถ่าย คลิปวีดีโอ บุคคลอ้างอิง ที่สำคัญจะต้องมีข้อมูลที่รอบด้าน อาทิ หากเจอร้านเกมปล่อยให้เด็กเข้ามาเล่นเกินเวลาที่กำหนด และอ้างว่า เด็กเข้ามาทำรายงาน เจ้าหน้าที่ต้องสอบถามไปยังโรงเรียน หรือครูในวิชานั้นๆ ได้ด้วยว่า เด็กมาทำรายงานจริงหรือไม่ หากเจ้าหน้าที่มีข้อมูลรอบด้าน จะทำให้ผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหาข้ออ้างไม่ได้อีก นอกจากนี้ การจดทะเบียนร้านเกม หรือร้านคาราโอเกะในส่วนภูมิภาค จะต้องแจ้งรายชื่อร้าน หรือผู้ประกอบการใหม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบด้วย หากพบว่าไม่ได้มีการจดทะเบียนกับทาง วธ.หรือกระทำผิดทางกฎหมายเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการทางกฎหมายได้ทันที
“วธ.เปลี่ยนวิธีการตรวจสถานประกอบการให้รัดกุมขึ้น หากพบเจอผู้ประกอบการรายใดกระทำผิดจะได้ดำเนินการให้ทันท่วงที โดยที่ประชุมยังได้มอบหมายให้ ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ รองปลัด วธ.ไปศึกษาการปรับปรุง พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ เนื่องจากมีการใช้งานมาเป็นระยะเวลา 5 ปี ควรจะต้องดูว่ามีจุดใดที่ต้องมีการปรับปรุงบ้าง” ปลัด วธ.กล่าว
