กรุงอาบูดาบี - วิกฤตทั่วดูไบ ฝุ่นฟุ้งตลบเมืองหนักกว่าโดนพายุทะเลทรายในรอบหลายร้อยปี ชาวบ้านป่วยโรคทางเดินหายใจนับล้าน กระทรวงสาธารณสุขแห่งนครดูไบตรวจหาต้นตอ ถึงกับผงะต้นเหตุเกิดจากนักการเมืองไทยวิ่งเต้นหาท่านแม้วหวังเก้าอี้รัฐมนตรีไทย จนฝุ่นตลบทั่วเมืองดูไบ
เหตุภัยครั้งนี้ได้เริ่มขึ้นเมื่อหลังวันที่ 3 กรกฎาฯ ที่ผ่านมา ภายหลังรู้ผลการเลือกตั้งใหญ่ที่ประเทศไทย ได้เริ่มมีฝุ่นปริมาณมากฟุ้งกระจายไปทั่วเมืองดูไบจนบดบังทัศนวิสัยการมองเห็นเหลือเพียงไม่กี่ร้อยเมตร สร้างความลำบากในการเดินทางสัญจร ล่าสุดรายงานเมื่อวันที่ 11 กรกฎาฯ ที่ผ่านมา ระบุว่าวิกฤตฝุ่นครั้งนี้ได้เพิ่มขึ้นสูงสุดจนไม่เหลือทัศนวิสัยในการมองแม้เพียงระยะฝ่ามือประชิด ปริมาณฝุ่นมหาศาลที่ฟุ้งตลบทั่วเมืองดูไบครั้งนี้สามารถมองเห็นได้จากสถานีอวกาศที่อยู่ในวงโคจรนอกโลก อีกทั้งการที่ฝุ่นปริมาณมหาศาลปกคลุมเมืองดูไบได้สร้างปัญหาด้านสุขภาพให้แก่ชาวดูไบหลายล้านคนทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ จนรัฐบาลต้องแจ้งให้ชาวบ้านกักตุนสินค้าและอุปกรณ์ยังชีพ พร้อมเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านจนกว่าวิกฤตการณ์ฝุ่นปกคลุมเมืองครั้งนี้จะผ่านพ้นไป อีกทั้งการคมนาคมขนส่งทั้งหมดต้องหยุดชะงักเพราะทัศนวิสัยในการมองเห็นเป็นศูนย์ สนามบินจำต้องปิดตัวโดยปริยาย งดเที่ยวบินทุกสายการบินและงดเว้นการขับขี่ยวดยานพาหนะทุกประเภท จนสร้างความโกลาหลไปทั่วเมือง
“อีนี้น้านายจ๋า อาบังอยู่มาจนเคราหงอกย้อย เห็นพายุทะเลทรายมาก็เยอะนะนาย อีนี้ฝุ่นที่ฟุ้งๆที่นายเห็นอยู่นี่นะนาย มันยิ่งกว่าพายุทะเลทรายที่พวกไอเห็นมาในรอบหลายร้อยปีเลยนะจ๊ะนาย โอ้นาร้าย นารายณ์ นี่มันอาจถึงวันสิ้นโลกของชาวดูไบล่ะซะกระมัง นายจ๋า โอ้ ร้อยไปร้อยยี่สิบมานะจ๊ะ อีนี่ คิดราคากันเอง” ชาวดูไบนายหนึ่งแสดงความคิดเห็นกับบักแหลมนักข่าวผู้จัดกวนด้วยผ้าคลุมกายมิดชิดแต่ยังเผยดวงตาที่ทอแววหวาดวิตกขณะอยู่ท่ามกลางพายุฝุ่นครั้งมหึมานี้
ขณะที่สุลต่านแห่งเมืองดูไบได้สั่งให้หน่วยงานราชการค้นหาสาเหตุในการเกิดวิกฤตการณ์ฝุ่นตลบทั่วเมืองในครั้งนี้อย่างเร่งด่วน แต่ภายหลังรับทราบการรายงานถึงกับผงะ ว่าที่แท้ฝุ่นจำนวนมหาศาลยิ่งกว่าพายุทะเลทรายที่อุบัติขึ้นนี้มีสาเหตุเกิดจากนักการเมืองไทยตัวเป็นๆ นี่เองที่ต่างทิ้งดิ่งตัวเองจากไทยแลนด์แดนสยามมาเพื่อวิ่งเต้นขอตำแหน่งในรัฐบาลกับผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญไทยนามทักษิณ ชินวัตร
“ไม่น่าเชื่อเลยน้าบักแหลมจ๋า ไอ้ฝุ่นมโหฬารที่ไอเห็นนี่จะมีสาเหตุมาจากนักการเมืองไทยนี่เองที่ต่างคนต่างมาวิ่งมาเต้นกันที่ดูไบนี่เสียจนฝุ่นฟุ้งตลบไปทั้งเมือง ทีนี้อาบังจะทำไงล่ะนายจ๋า ทั้งสุขภาพ การท่องเที่ยว บรรลัยหมดแล้วนะนาย งานนี้ล้มละลายทั้งประเทศแน่ โฮ..โฮ” ท่านสุลต่านแห่งเมืองดูไบกล่าว “ครั้งนี้พวกไอจะไม่ทนอีกต่อไปแล้วนะนายจ๋า ต่อให้เงินมหาศาลก็คงต้องขอความเมตตาจากมิสเตอร์ทักษิณให้พากันไปจัดคณะรัฐมนตรีเมืองไทยกันที่อื่นที่ไม่ใช่ดูไบ จะไปที่ไหนก็ตามเถิด จะกัมพูชา บรูไน หรือฮ่องกงก็ตามแต่นะนายจ๋า ขอร้องละ เจอพายุทะเลทรายพัดท่วมเมืองมาเป็นร้อยๆ ปี ยังไม่หนักหนาเท่าพายุฝุ่นครั้งนี้ ประเทศอาบังนี่เจ๊งแบบไม่มีวันฟื้นแน่ ดูสิสนามบินก็ต้องปิดนะนาย เที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวต่อวันก็ต้องงด รายได้หายไปวันละหลายพันล้าน สถานที่ราชการสถานบันเทิงก็ต้องหยุดทำการหมดเพราะคนไม่ออกจากบ้านเนื่องจากมองถนนหนทางไม่เห็น และกลัวเป็นโรคทางเดินหายใจกัน อีนี่จะให้พวกไอทำอะไรกินกันล่ะนาย นี่ถ้าแกยังไม่หยุดนะไอ้พายุฝุ่นนี้คงตลบไปทั่วอ่าวอาหรับแน่” สุลต่านกล่าวต่อพร้อมซับน้ำตาที่หยดแหมะๆ ด้วยความระทมทุกข์
ล่าสุดได้มีข่าวแจ้งว่า ทางรัฐบาลแห่งสุลต่านบรูไนแจ้งหนังสือด่วนไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยยื่นเงื่อนไขว่า ถ้าหากจะอยู่ต่อก็ให้เลิกจัด ครม.ที่ดูไบโดยเด็ดขาด ไม่งั้นก็ต้องย้ายที่พำนักออกจากดูไบในทันทีหลังการเรียกร้องของชาวดูไบหลายหมื่นหลายแสนราย
