ค่ามัดจำ : พัลลภ โชว์รองเท้ากอล์ฟงามที่ทักษิณมัดจำไว้หลังเผาเมืองเผาบ้านจะจ่ายอีกข้างที่เหลือ
ผู้จัดกวนยวนบ้านคนดัง
เป็นที่พิสดารพันลึกยิ่งกว่าข่าวลือกระหึ่มเมืองเรื่อง "ต่อติดตาย"หลายเท่า จะเรื่องอะไรไหนอีกเล่าถ้าไม่ใช่เรื่องแปลกแต่จริงของอดีตนายทหาร พล.อ.พันลบ ลูกกะแป๋งเหลี่ยม
จะไม่แปลกประหลาดมหัศจรรย์ได้อย่างไร ในเมื่อก่อนหน้านี้มีสติ ยกเว้นไม่มีสตางค์ อยู่ดีๆ วันไม่ดีคืนเลวๆ พล.อ.พันลบ ไปได้รองเท้ากอล์ฟมา 1 คู่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเชื่อ เคยเป็น เคยพูด กลับตาลปัตรยิ่งกว่าหน้ามือเป็นหลังส้นตรีนชั่วไม่ถึงกะพริบตาเดียว
หากนายทหารเฒ่าคนดังกล่าวเป็นพ่อใหญ่จิ๋ว ชาวบ้านคงไม่ชักสีหน้าแปลกใจ เพราะใครต่อใครก็รู้กันทั่วว่าพ่อใหญ่จิ๋วเป็นโรคอัลไซเมอร์ลงติ่งสมอง ทำให้พูดอะไรไม่อยู่กับร่องกับรอย แถมตดกะปริดกะปรอยยิ่งกว่าฝนเดือนแปดพ่วงท้ายอีกต่างหาก
อดีตรัก : กระสอบทรายที่ติดรูปพลตรีจำลอง อดีตเพื่อนรักที่ต้องกลายเป็นฝ่ายตรงข้าม
แต่นี่กลับเป็นนายทหารเฒ่าอดีตเพื่อนรักลุงจำลอง ของพ่อแม่พี่น้องพันธมิตรฯ นามว่าพันลบ เลยทำให้หลายคนงงเป็นเป็ดเหลิมเมาไวน์ ดังนั้น สัปดาห์นี้ผู้จัดกวนแก๊งทั้งหลายจึงสมัครใจไปยวนบ้านทั่น พล.อ.พันลบ เผื่อจะรู้ว่าทำไมเวทมนต์ของรองเท้ากอล์ฟคู่เดียว จึงป่วนสมองของว่าที่แกนนำคนเสื้อเหลืองรุ่นที่ 2 ให้กลายเป็นแกลบบวกขี้เลื่อย และอุจจาระหมาปนถุงพลาสติกแค่ชั่วลัดนิ้วมือเดียวได้
ปราดแรกที่ผู้จัดกวนทีมเข้าไปภายในบ้านหลังไม่เล็กไม่ใหญ่ ก็เห็นรูปภาพหนึ่งแขวนไว้บนฝาผนังบ้าน จำได้ว่าเป็นเหตุการณ์สะเทือนใจที่กรือเซะเมื่อหลายปีก่อน
แม้กรอบของภาพดังกล่าวจะขลิบด้วยโบสีดำ ทว่าเจ้าของบ้าน คือ พล.อ.พันลบ กลับรู้สึกภาคภูมิใจในสิ่งที่ตัวเขาเองสั่งให้จัดการขั้นเด็ดขาด
"อั๊วเกลียดธรรมชาติ ชิงชังสุภาพสตรี เด็ก คนชรา และแอนตี้เสียงเพลง ไม่แฮบปี้กับสายฝนพรำ เสียงน้ำไหล ไม่เข้าวัดมาตั้งกะเด็กยันเป็นผู้ใหญ่ กระทั่งแก่จะเข้าโลง" พล.อ.พันลบ อธิบายตัวตนของตัวเขาเองให้ฟังจนผู้จัดกวนทีมตาค้าง
"และ...และ..ระ...ระ และและและแล้ว ทะท่ะทั่นท่าน...ชะชะชะชอบชอบอาไรฮับ" ยอด ยาหยี ปากสั่นกลั้นใจถาม
ภาพสุดหวง : ผลงานที่มีทั้งชีวิตประทับตรึงความทรงจำของพัลลภ ก็คือภาพนี้ที่ติดโบดำ
"ฮ่าฮ่าฮ่า ไอ้หมอนี่น้ำเสียงสำเนียงพูดเหมือนไอ้เณรคนหนึ่งของบ้านอั๊ว แม่งเวลามันพูดนะ มันจะพูดคล้ายเด็ก ไม่มีความเป็นแมน ป้ะเดี่ยพ่อด..." พล.อ.พันลบขึ้นลำปืนกลเสียงดังคร่อกฟี้ และว่า "สิ่งที่อั๊วชอบคือ เสียงศัสตราอาวุธ นิยมม้าดำ กรำศึก และหยาดเลือดของประชาชน อยากเห็นทุกแห่งทุกหนของบ้านเมืองลุกด้วยไฟสงคราม เยี่ยอ้ะอ่ะอ้า เฮ่ย ไอ้ด่าง มัวทำอะไรอยู่วะ น้องนุ่งเขามา เอาของสะสมมาโชว์หน่อยซิ"
"ได้ครับเพ่...." มีเสียงคล้ายๆ เศ(ษ)แดง ขานรับมาจากในห้อง ตามติดด้วยเสียงระเบิด M-79 บึ้ม บึ้ม บึ้ม 3 หนซ้อนๆ
"อ้าวไอ้เห้ด่าง กูสั่งแค่ให้มึงขนออกมาอวด ไม่ใช่ให้ยิงเล่น นี่มันบ้านกูนะ ไม่ใช่เวทีพันธมิตร เอ๊ะไอ้นี่ เดี๋ยวมีเหนี่ยว" พล.อ.พันลบกระโดดผลุงไปหลบอยู่ข้างหลังบักแหลมอย่างไม่เหลือฟอร์ม
"ไหนบอกว่าชอบเสียงศัสตราอาวุธไงท่าน" บักแหลมย้อน
"ชอบตอนมันไปหล่นหลังเวทีพันธมิตรว้อย ไม่ใช่ให้มาตูมๆๆ ที่บ้านตัวเอง หมอนี่พูดน่าตบปาก" พล.อ.พันลบยังไม่วายออกลูกอันธพาล
"ทั่นชอบใช้กำลังจริงๆ เลยนะครับ" บักแหลมเอ่ยอีก
ขวดน้ำลาย : บรรจุไว้เป็นโหลๆ เพื่อไว้คุยอวดนักข่าว ชาวบ้านว่ารบโน่นยิงนี่ไปเรื่อยเปื่อยทั้งที่จริงป่าวก็บ่ฮู้
"โน่น...เห็นมั้ย นั่นละกระสอบทรายที่อั๊วใช้ซ้อมมือทู้กวัน" พล.อ.พันลบพาไปดูใกล้ๆ
"ทำไมไม่ไปชกตัวจริง เอารูปหน้ามาแปะไว้อย่างนี้เจ็บมือฟรีเปล่าๆ"
"จุ๊ๆ ทำงั้นไม่ได้ ลองเค้าของจริง เล่นกะใครไม่เล่น ไปเล่นกับลอง เดี๋ยวก็เสียสุนัขตอนแก่กันพอดี" พล.อ.พันลบกระซิบเหมือนกลัวลุงจำลองจะได้ยิน
"แล้วตอนไปรับรองเท้ากอล์ฟมาจากเมืองจีนไม่เสียสุนัขเหรอฮับ"
ยอดซักยิ่งกว่าตีทัดหูทหารเฒ่า
"นั่นเค้าเรียกเสียหมา ไม่ใช่เสียสุนัข ชะอุ๊ย" พล.อ.พันลบเผลอปาก
"ทำไมมีรองเท้ากอล์ฟคู่ครึ่ง เกิดมาไม่เคยเห็น" โป้ง 8 นิ้วขมวดคิ้วสงสัย
"ไอ้ข้างเดียวที่เห็นนั่นเพิ่งได้มาจากดูไบ นายใหญ่เขาให้มาก่อน ถ้าเดือนกุมภาพันธ์ทำงานใหญ่สำเร็จจึงจะได้อีกข้าง ก็ คือ อ้า...คือครบคู่ไง แง้" พล.อ.พันลบเฉลยปริศนา
"ลือกันว่าระเบิดที่ห้องผู้บัญชาการทหารบกเป็นฝีมือของมือที่สาม"บักแหลมพูดตรง
"ที่สามที่เสริมซะที่ไหน อย่าให้นายใหญ่ได้ยินเชียวนะ โธ่ พูดพล่อยๆ แบบนี้กะเดี๋ยวไอ้ด่างก็อดแดก อุ๊บ!!!" พล.อ.พันลบทำทีสะดุ้ง