จะมีชาวเสื้อแดงประจำเดือนสักกี่คนที่ล่วงรู้ว่า ‘นายใหญ่’ ที่พวกเขาบูชาราวกับบิดาบังเกิดเกล้า มีบ้านเล็กบ้านน้อย ‘ซุก’ เหมือนหุ้น อยู่อีก 2 หลัง กระทั่ง ‘หญิงอ้อ’ อดีตภรรเมีย ก็ไม่น่าจะระแคะระคายมาก่อน
ยิ่ง ‘ป้าใหม่’ กับ ‘น้องเดีย’ ยิ่งไม่เคยแผ้วพานเข้าไปในบ้าน ‘ลับ’ 2 หลังของเสี่ยเหลี่ยม เนื่องเพราะเจ้าตัวมิเคยเอ่ยปากบอกกับใครหน้าไหนทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม ด้วยความสนิทสนมคุ้นเคย หยอกเย้ากระเซ้าถีบ ถอง ถล่ม และถลุงกันผูกชาติมาเป็นเวลาครึ่งปรภพ ทำให้เสี่ยเหลี่ยมหวนระลึกนึกถึงผู้จัดกวนทีมด้วยความสิเนหา จากนั้นจึงชักชวนเฮียคามิน, บัญชาการ์ตูน และบักแหลม ให้ไปดูบ้านทั้ง 2 หลัง ที่เขาจะพำนักพักอาศัยเป็นเรือนตายในบั้นปลายของชีวิต
เพื่อมิให้เสียมารยาท ผู้จัดกวนทีมทั้ง 3 พะหน่อจึงถ่อร่างไปทัศนาบ้าน 2 หลังสุดที่รักของทักษิณตามคำเชื้อเชิญในวันที่เขาลอบเข้าประเทศมาทางช่องทวารนพเหล่
ก่อนจะก้าวเดินลงจากบันไดเครื่องบิน ขณะทักษิณกำลังจะทรุดตัวก้มกราบแผ่นดิน ปรากฏว่ามีซ่งตีนจากผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม ชิงถีบป้าบเข้าให้ที่แก้มก้นจนทักษิณหน้าไถลไปกับพื้นแผ่นดินแม่ แค่นั้นยังไม่พอ หน้าเหลี่ยมจัดของเขายังเถลือกเข้าใส่กองขี้หมาสดๆ จนเปรอะเลอะ และส่งกลิ่นหึ่งไปทั่วบริเวณ
“โห! เล่นกับแบบนี้เลยเชียวหรือนี่ ดูสิ ถีบดีๆ แบบให้เกียรติกันก็ไม่ได้...” ทักษิณบ่น
“ที่ว่าถีบแบบไม่ให้เกียรติเนี่ย มันถีบแบบไหนหรือครับพี่” เฮียคามินอุดจมูกซัก
“ก็มันเล่นถอดรองเท้าถีบนะซี พี่ถึงโมโหนัก จะใส่รองเท้าเพื่อให้เกียรติกันหน่อยก็ไม่ได้ นอกจากไม่ใส่รองเท้า มันยังเอาตีนไปเหยียบขี้ดองเค็มก่อนยันโครมเข้าให้อีก เหม็นบรมเลย อี๋ยยย” ทักษิณเช็ดคราบขี้คนและขี้หมาป้อยๆ จากนั้นเดินหน้าเหลี่ยมละห้อยไปแนะนำบ้านหลังรองสุดท้ายที่จะอยู่ในบั้นบ้านปลายชีวิต
บ้านหลังนี้ใหญ่โตมโหระทึก ด้านหน้ามีกำแพงสูงทะมึนขนาดห้องแถวห้าชั้นบดบังสายตาผู้คน ปากประตูทางเข้าบ้านมีหลายช่องหลายชั้นกว่าบ้านปกติธรรมดาทั่วไป เข้าใจว่าน่าจะเป็นบ้านที่มีประตูแน่นหนาที่สุดของประเทศ
ปราดแรกที่ทักษิณย่องย่าง หันรีหันขวาง เก้ๆ กังๆ ด้วยความเคอะเขิน พลันมีเสียงต้อนรับกึกก้องขึ้นว่า “ท้ากกกสิน...ออกไป ท้ากสินนน ออกไป”
เล่นเอาผู้จัดกวนทีมตกใจ เอ๊ะ ทำไม เสียงคุ้นๆ (ฮา) ฝ่ายทักษิณถลันเข้าไปหลบอยู่ด้านหลังคนนำทางที่สวมชุดสีกากี ในมือถือกระบอง ป้องปากฟ้องด้วยริมฝีปากสั่นระริกเหมือนถูกเจ๊อ้อตบตอนรู้ว่าแอบไปจึ๊กกะดึ๋ยกับน้องเดีย
“นายครับ พวกนั้นเค้าบอกให้ผมออกไป งั้นผมขออนุญาตกลับดูไบตอนนี้เลยนะคร้าบ แฮ่ๆ ไหว้ละครับ นึกว่าเห็นแก่หน้าเหลี่ยมเถอะนะ ปล่อยวรนุสตัวพ่อเอาบุญ นะนายนะ จุ๊บๆ” ทักษิณทำท่าวิงวอนเจ้าหน้าที่ในชุดสีกากี
“ไปขนขี้ให้เสร็จซะก่อน นช.เหลี่ยม ประเดี๋ยวเถอะ วอนซะร้าว” เจ้าหน้าที่กระชับกระบองในมือ เล่นเอาทักษิณขมิบก้นอย่างลืมตัว
“ตะบองเค้าใช้ฟาดหัว แล้วทำไมต้องขมิบก้นครับเสี่ย” บักแหลมถามบ้าง
ทักษิณป้องปากกระซิบ “ฟาดหัวก็ดีสิ แต่นี่มันใช้ยัดก้นพี่ต่างหาก ซาดิสต์โคตรๆ อูย...” ทักษิณทำหน้าเหยเก ขณะที่เฮียคามิน บัญชาการ์ตูน และบักแหลม ส่งเสียงซี้ดดดด รับกันเป็นขบวน
จากนั้นทักษิณชวนขึ้นไปดูชั้นนอนที่แสนจะสมถะ มีหมอนไร้ปอกแต่เขลอะไปด้วยรอยน้ำลายใบหนึ่ง กับเสื่อเก่าขาดผืนขนาดนอนคู่กันสองคนกับหญิงอ้อไม่ได้ เพราะหญิงอ้อตัวใหญ่ แต่ถ้าเป็นชายจืดผู้น้องเขยละพอดีเด๊ะ (555) ปลายตีนเป็นห้องน้ำส่วนตัว เห็นมีกระโถนรั่ววางอีเหละเขละขละ กับกากมะพร้าวซึ่งผ่านการเช็ดมาแล้ว 8 น้ำ กองอยู่ห่างๆ ในท่ามกลางฝูงแมลงวันหัวเขียว “ช่างเป็นรสนิยมที่ผมว่าแปลกมากครับเสี่ย แหม ไอเดียแจ่มจริงๆ สำหรับบ้านหลังนี้ของเสี่ย” บัญชาการ์ตูนดีดนิ้วเปาะ “แถมมีลูกกรงล้อมรอบอีกต่างหาก ผมว่าถ้าจะขาด ก็น่าจะเป็นเชือกมัดเงื่อนตายผูกไว้กับขื่อด้านบนนะครับ ถ้าเพิ่มอุปกรณ์ตกแต่งตัวนี้ขึ้นมา ทอดสายตาไปทั่วแผ่นดิน ไม่มีใครกินบ้านหลังนี้ของเสี่ยได้”
“เดี๋ยวลงไปดูที่ทำงานกันดีกว่า” ทักษิณสะกิดเอวเราทั้งสามคน เดินวนแดน 1 แดน 2 และแดน 3 มาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงคลองน้ำ
“งานประจำของพี่ ลอกคลอง หากไม่ทำตรงนี้ก็ไปขนขี้ เอ้ย! ขนปุ๋ยอินทรีย์ไปรดผักสำหรับไว้กินเป็นอาหาร มาอยู่บ้านหลังนี้ก็ดีไปอย่าง ผักหญ้าไม่ต้องไปหาซื้อที่ไหน แถมข้าวก็ไม่เหมือนใคร ข้าวแดงด้วยนะ”
“อ้ะจริงดิ๊” เฮียคามินอุทาน
“จิงอ่าดี้” ทักษิณตอบ
เดินอีกครึ่งรอบ จากนั้นทักษิณบอกอยากให้ดูบ้านหลังสุดท้ายในชีวิตของเขา พวกเราจึงเดินตามต้อยๆ ระหว่างทางทักษิณแวะร้านซ่อมแมงกะไซค์
“หมอไหนๆ ไปรักษามาหมดแล้ว ไม่ยอมหาย พี่เลยตัดสินใจมารักษาต่อมลูกหมากที่นี่” ทักษิณชี้ให้ดูป้ายที่เขียนบอกไว้ว่า “รับซ่อม-ผ่าลูกหมาก” ก๊ากกก...(มุกอย่างควาย-ฮา) เดินมาได้อีกสักสิบนาที คราวนี้เรารู้สึกเงียบงันวังเวงขึ้นมาตะหงิดๆ ยิ่งใกล้บริเวณบ้านหลังสุดท้ายในชีวิตทักษิณยิ่งขนลุกสู้ เอ้ย! ซุ่ ได้ยินเสียงบรู๋วววว์ ดังไล่รับกันเป็นระยะๆ
บักแหลมขยี้ตา ไม่รู้ว่าพระแอบมาเดินนำหน้าทักษิณตอนไหน แถมในมือยังถือด้ายสายสิญจน์อีกต่างหาก
“นั่นไง บ้านของพี่ หลังนี้พี่ต้องมาอยู่ให้ได้ ออกแบบไว้สบายๆ ดูเตียงพี่สิ จ๊าบมะ ที่นงที่นอนไม่ต้อง นอนมาตั้งกะเด็กๆ เลยลองเปลี่ยนมานอนบนไม้หมอนดูมั่ง” ทักษิณยืนมองบ้านหลังสุดท้ายด้วยสายตาสลดหดหู่
“พอพี่เอนตัวลงนอน หรือถ้าจะให้ดีต้องมีคนหามเอาไปวางไว้บนที่นอนรุ่นใหม่ล่าสุดเรียบร้อยเสร็จสรรพ จากนั้นถ้าเอาน้ำมันราด แล้วจุดไฟด้วยนะ โอ้โห สมบูรณ์แบบ...” บัญชาการ์ตูนจินตนาการ
“ถ้าจะให้ดีต้องดอกไม้จันทน์โรยรอบๆ รับรองเวิร์ก” เฮียคามินเสริม
“งั้นไม่เอาน้ำมะพร้าวราดหน้าด้วยเลยเสียล่ะ...” ทักษิณสะอื้นฮักๆ
“สมพรปากไวๆ นะครับ” บักแหลมสรุป พร้อมๆ กับได้ยินเสียงเพลงแผ่ววะแว่วมาแต่ไกล
“ฮือ...ฮือ ฮื้อ...เห็น...กาน...อยู่หลัด...งือ...หลัด....”
ยิ่ง ‘ป้าใหม่’ กับ ‘น้องเดีย’ ยิ่งไม่เคยแผ้วพานเข้าไปในบ้าน ‘ลับ’ 2 หลังของเสี่ยเหลี่ยม เนื่องเพราะเจ้าตัวมิเคยเอ่ยปากบอกกับใครหน้าไหนทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม ด้วยความสนิทสนมคุ้นเคย หยอกเย้ากระเซ้าถีบ ถอง ถล่ม และถลุงกันผูกชาติมาเป็นเวลาครึ่งปรภพ ทำให้เสี่ยเหลี่ยมหวนระลึกนึกถึงผู้จัดกวนทีมด้วยความสิเนหา จากนั้นจึงชักชวนเฮียคามิน, บัญชาการ์ตูน และบักแหลม ให้ไปดูบ้านทั้ง 2 หลัง ที่เขาจะพำนักพักอาศัยเป็นเรือนตายในบั้นปลายของชีวิต
เพื่อมิให้เสียมารยาท ผู้จัดกวนทีมทั้ง 3 พะหน่อจึงถ่อร่างไปทัศนาบ้าน 2 หลังสุดที่รักของทักษิณตามคำเชื้อเชิญในวันที่เขาลอบเข้าประเทศมาทางช่องทวารนพเหล่
ก่อนจะก้าวเดินลงจากบันไดเครื่องบิน ขณะทักษิณกำลังจะทรุดตัวก้มกราบแผ่นดิน ปรากฏว่ามีซ่งตีนจากผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม ชิงถีบป้าบเข้าให้ที่แก้มก้นจนทักษิณหน้าไถลไปกับพื้นแผ่นดินแม่ แค่นั้นยังไม่พอ หน้าเหลี่ยมจัดของเขายังเถลือกเข้าใส่กองขี้หมาสดๆ จนเปรอะเลอะ และส่งกลิ่นหึ่งไปทั่วบริเวณ
“โห! เล่นกับแบบนี้เลยเชียวหรือนี่ ดูสิ ถีบดีๆ แบบให้เกียรติกันก็ไม่ได้...” ทักษิณบ่น
“ที่ว่าถีบแบบไม่ให้เกียรติเนี่ย มันถีบแบบไหนหรือครับพี่” เฮียคามินอุดจมูกซัก
“ก็มันเล่นถอดรองเท้าถีบนะซี พี่ถึงโมโหนัก จะใส่รองเท้าเพื่อให้เกียรติกันหน่อยก็ไม่ได้ นอกจากไม่ใส่รองเท้า มันยังเอาตีนไปเหยียบขี้ดองเค็มก่อนยันโครมเข้าให้อีก เหม็นบรมเลย อี๋ยยย” ทักษิณเช็ดคราบขี้คนและขี้หมาป้อยๆ จากนั้นเดินหน้าเหลี่ยมละห้อยไปแนะนำบ้านหลังรองสุดท้ายที่จะอยู่ในบั้นบ้านปลายชีวิต
บ้านหลังนี้ใหญ่โตมโหระทึก ด้านหน้ามีกำแพงสูงทะมึนขนาดห้องแถวห้าชั้นบดบังสายตาผู้คน ปากประตูทางเข้าบ้านมีหลายช่องหลายชั้นกว่าบ้านปกติธรรมดาทั่วไป เข้าใจว่าน่าจะเป็นบ้านที่มีประตูแน่นหนาที่สุดของประเทศ
ปราดแรกที่ทักษิณย่องย่าง หันรีหันขวาง เก้ๆ กังๆ ด้วยความเคอะเขิน พลันมีเสียงต้อนรับกึกก้องขึ้นว่า “ท้ากกกสิน...ออกไป ท้ากสินนน ออกไป”
เล่นเอาผู้จัดกวนทีมตกใจ เอ๊ะ ทำไม เสียงคุ้นๆ (ฮา) ฝ่ายทักษิณถลันเข้าไปหลบอยู่ด้านหลังคนนำทางที่สวมชุดสีกากี ในมือถือกระบอง ป้องปากฟ้องด้วยริมฝีปากสั่นระริกเหมือนถูกเจ๊อ้อตบตอนรู้ว่าแอบไปจึ๊กกะดึ๋ยกับน้องเดีย
“นายครับ พวกนั้นเค้าบอกให้ผมออกไป งั้นผมขออนุญาตกลับดูไบตอนนี้เลยนะคร้าบ แฮ่ๆ ไหว้ละครับ นึกว่าเห็นแก่หน้าเหลี่ยมเถอะนะ ปล่อยวรนุสตัวพ่อเอาบุญ นะนายนะ จุ๊บๆ” ทักษิณทำท่าวิงวอนเจ้าหน้าที่ในชุดสีกากี
“ไปขนขี้ให้เสร็จซะก่อน นช.เหลี่ยม ประเดี๋ยวเถอะ วอนซะร้าว” เจ้าหน้าที่กระชับกระบองในมือ เล่นเอาทักษิณขมิบก้นอย่างลืมตัว
“ตะบองเค้าใช้ฟาดหัว แล้วทำไมต้องขมิบก้นครับเสี่ย” บักแหลมถามบ้าง
ทักษิณป้องปากกระซิบ “ฟาดหัวก็ดีสิ แต่นี่มันใช้ยัดก้นพี่ต่างหาก ซาดิสต์โคตรๆ อูย...” ทักษิณทำหน้าเหยเก ขณะที่เฮียคามิน บัญชาการ์ตูน และบักแหลม ส่งเสียงซี้ดดดด รับกันเป็นขบวน
จากนั้นทักษิณชวนขึ้นไปดูชั้นนอนที่แสนจะสมถะ มีหมอนไร้ปอกแต่เขลอะไปด้วยรอยน้ำลายใบหนึ่ง กับเสื่อเก่าขาดผืนขนาดนอนคู่กันสองคนกับหญิงอ้อไม่ได้ เพราะหญิงอ้อตัวใหญ่ แต่ถ้าเป็นชายจืดผู้น้องเขยละพอดีเด๊ะ (555) ปลายตีนเป็นห้องน้ำส่วนตัว เห็นมีกระโถนรั่ววางอีเหละเขละขละ กับกากมะพร้าวซึ่งผ่านการเช็ดมาแล้ว 8 น้ำ กองอยู่ห่างๆ ในท่ามกลางฝูงแมลงวันหัวเขียว “ช่างเป็นรสนิยมที่ผมว่าแปลกมากครับเสี่ย แหม ไอเดียแจ่มจริงๆ สำหรับบ้านหลังนี้ของเสี่ย” บัญชาการ์ตูนดีดนิ้วเปาะ “แถมมีลูกกรงล้อมรอบอีกต่างหาก ผมว่าถ้าจะขาด ก็น่าจะเป็นเชือกมัดเงื่อนตายผูกไว้กับขื่อด้านบนนะครับ ถ้าเพิ่มอุปกรณ์ตกแต่งตัวนี้ขึ้นมา ทอดสายตาไปทั่วแผ่นดิน ไม่มีใครกินบ้านหลังนี้ของเสี่ยได้”
“เดี๋ยวลงไปดูที่ทำงานกันดีกว่า” ทักษิณสะกิดเอวเราทั้งสามคน เดินวนแดน 1 แดน 2 และแดน 3 มาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงคลองน้ำ
“งานประจำของพี่ ลอกคลอง หากไม่ทำตรงนี้ก็ไปขนขี้ เอ้ย! ขนปุ๋ยอินทรีย์ไปรดผักสำหรับไว้กินเป็นอาหาร มาอยู่บ้านหลังนี้ก็ดีไปอย่าง ผักหญ้าไม่ต้องไปหาซื้อที่ไหน แถมข้าวก็ไม่เหมือนใคร ข้าวแดงด้วยนะ”
“อ้ะจริงดิ๊” เฮียคามินอุทาน
“จิงอ่าดี้” ทักษิณตอบ
เดินอีกครึ่งรอบ จากนั้นทักษิณบอกอยากให้ดูบ้านหลังสุดท้ายในชีวิตของเขา พวกเราจึงเดินตามต้อยๆ ระหว่างทางทักษิณแวะร้านซ่อมแมงกะไซค์
“หมอไหนๆ ไปรักษามาหมดแล้ว ไม่ยอมหาย พี่เลยตัดสินใจมารักษาต่อมลูกหมากที่นี่” ทักษิณชี้ให้ดูป้ายที่เขียนบอกไว้ว่า “รับซ่อม-ผ่าลูกหมาก” ก๊ากกก...(มุกอย่างควาย-ฮา) เดินมาได้อีกสักสิบนาที คราวนี้เรารู้สึกเงียบงันวังเวงขึ้นมาตะหงิดๆ ยิ่งใกล้บริเวณบ้านหลังสุดท้ายในชีวิตทักษิณยิ่งขนลุกสู้ เอ้ย! ซุ่ ได้ยินเสียงบรู๋วววว์ ดังไล่รับกันเป็นระยะๆ
บักแหลมขยี้ตา ไม่รู้ว่าพระแอบมาเดินนำหน้าทักษิณตอนไหน แถมในมือยังถือด้ายสายสิญจน์อีกต่างหาก
“นั่นไง บ้านของพี่ หลังนี้พี่ต้องมาอยู่ให้ได้ ออกแบบไว้สบายๆ ดูเตียงพี่สิ จ๊าบมะ ที่นงที่นอนไม่ต้อง นอนมาตั้งกะเด็กๆ เลยลองเปลี่ยนมานอนบนไม้หมอนดูมั่ง” ทักษิณยืนมองบ้านหลังสุดท้ายด้วยสายตาสลดหดหู่
“พอพี่เอนตัวลงนอน หรือถ้าจะให้ดีต้องมีคนหามเอาไปวางไว้บนที่นอนรุ่นใหม่ล่าสุดเรียบร้อยเสร็จสรรพ จากนั้นถ้าเอาน้ำมันราด แล้วจุดไฟด้วยนะ โอ้โห สมบูรณ์แบบ...” บัญชาการ์ตูนจินตนาการ
“ถ้าจะให้ดีต้องดอกไม้จันทน์โรยรอบๆ รับรองเวิร์ก” เฮียคามินเสริม
“งั้นไม่เอาน้ำมะพร้าวราดหน้าด้วยเลยเสียล่ะ...” ทักษิณสะอื้นฮักๆ
“สมพรปากไวๆ นะครับ” บักแหลมสรุป พร้อมๆ กับได้ยินเสียงเพลงแผ่ววะแว่วมาแต่ไกล
“ฮือ...ฮือ ฮื้อ...เห็น...กาน...อยู่หลัด...งือ...หลัด....”