กรุงเทพมหานคร - เหยื่อแก๊งปาหินรายวันยังไม่หมดเคราะห์กรรมง่ายๆ เผยผู้โชคร้ายล่าสุดไม่ใช่ใครที่ไหน แต่กลับเป็น "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" นั่นเอง เดชะบุญที่ตำรวจได้ภาพสเกตช์ของขาโจ๋จอมซ่า ประกาศล่าเพื่อจับยัดซังเตยกชุด
นายบักแหลม บรรณาธิการบริหารผู้จัดกวน รายงานด่วนจากสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม เข้ามายังโต๊ะข่าวเมื่อช่วงเช้าของวานนี้ว่า เหตุการณ์คนร้ายลอบขว้างก้อนหินใส่ประชาชนผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่แต่เคราะห์หามยามร้ายยังไม่จางหายไปจากสังคมไทย เพราะล่าสุดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาขณะที่สองแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชชนเพื่อประชาธิปไตย กำลังเดินทางไปสมทบกับแกนนำคนอื่นๆ เพื่อปรึกษาหารือถึงแนวทางที่จะช่วยกันพิทักษ์รักษาความยุติธรรมให้สถิตอยู่คู่กับสังคม และไม่ยินยอมให้อำนาจใดๆ เข้ามาหาผลประโยชน์โภชผลจากบ้านเมืองได้นั้น ปรากฏว่าระหว่างที่สองแกนนำคนสำคัญกำลังสนทนาด้วยความราบเรียบอยู่นั้น ฉับพลันทันใดก็ได้มีก้อนหินขนาดมหึมาปลิวหวือออกมาจากข้างทาง เดชะบุญที่หินก้อนดังกล่าวปลิวไปกระทบกับกระจังรถก่อนที่จะกระเด็นเข้าปะทะกับกระจกด้านหน้า จึงทำให้ความรุนแรงของก้อนหินไม่เป็นไปตามแผนการที่แก๊งกวนเมืองจงใจอยากจะให้เป็น
นายบักแหลมเล่าต่อไปอีกว่า พอแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ หายจากอาการตกตะลึงพรึงเพริด ได้ก้าวลงมาเพื่อสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยสภาพร่างกายของบุคคลทั้งสองเพียงแค่มีรอยถลอกเล็กน้อย ในขณะที่กระจกรถถูกแรงปะทะของก้อนหินขนาดมหึมาจนเกิดเป็นรอยยุบใหญ่เกือบเท่าปากรัฐมนตรีมักหวีผมเรียบแปล้ แต่ในใจลึกๆ กลับรู้สึกว่าตัวเองจริตป่วนปรวนแปรอยู่เนืองๆ
"แกนนำพันธมิตรฯ ทั้งสองท่านเล่าให้ฟังว่า ขณะที่กำลังหารือกันอยู่นั้น ทันใดได้ยินเสียงโครมใหญ่ดังขึ้น พอระงับสติได้ยังได้ยินเสียงตะโกนออกมาจากมุมมืดข้างทาง กล่าวหาว่าแกนนำทั้งสองแตกคอกัน ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงทั้งสองท่านยังสนิทสนมกลมเกลียวกันเหมือนเดิม ดังนั้น สาเหตุที่ถูกลอบปาหินเข้าใส่ไม่น่าจะเกิดจากอะไร นอกเสียจากแก๊งป่วนเมืองที่ลอบปาหินมีความประสงค์อยากให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยล่มสลาย จะได้ไม่เป็นที่ขวางหูขวางตา และยิ่งถ้ากลุ่มพันธมิตรฯ สลายตัวเร็วเท่าใดผลดีก็จะตกอยู่กับแก๊งรุมทึ้งประเทศไทยเพราะไม่มีใครกล้ามาขวางลำ"
ล่าสุด นายบักแหลมรายงานเพิ่มเติมเข้ามาว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ภาพสเกตช์แก๊งปาหินใส่แกนนำพันธมิตรฯ เรียบร้อยแล้ว โดยหัวโจกของแก๊งดังกล่าวเป็นบุคคลที่มักอ้างตัวว่าเป็นขาใหญ่อยู่ในพื้นที่บางบอน ส่วนลูกแก๊งประกอบไปด้วยกะเทยเทียม เจ้าของฉายาแรดไร้นอ ส่วนอีกสองคนเป็นอดีตแกนนำม็อบที่ขึ้นชื่อถ่อยเถื่อนที่สุดในโลก ระหว่างนี้เจ้าหน้าที่สายสืบกำลังตามประกบทุกคนในแก๊งอย่างไม่กะพริบตา เชื่อว่าจะจับได้ในเร็วๆ นี้ และมีโทษขั้นสูงสุด คือ ดีดไข่ 100 ที เขกกะโหลก 200 ครั้ง ปรับ 1 สลึง (แก๊งนี้มีค่าเท่านี้จริงๆ) หรือทั้งจำทั้งปรับ ยกเว้นกะเทยเจ้าของฉายาแรดไร้นอ กระทาชายนายบักแหลมขอตำรวจในทางลับว่านอกจากจะลงโทษทั้งจำและปรับแล้ว เขาอยากจะขอตัวไปอบรมแบบเข้มและข้นสัก 1 คืน โอเค๊...เย่
