เขมรเคลื่อนย้ายรถถัง T-55 เข้ามาในพื้นที่กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย รวมทั้งอพยพประชาชนกัมพูชาออกจากแนวชายแดน รวมถึงสร้างที่กำบังเพิ่มเติม ลำเลียงกับระเบิดเก็บในที่กำบัง รอผู้บังคับบัญชาที่จะเข้ามาบัญชาการรบ สั่งทหารที่เดินทางออกนอกที่ตั้งกลับฐาน แย้มหากฝ่ายกัมพูชามีการใช้ BM-21 จะใช้บริเวณพื้นที่ อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร ก่อน
วันนี้ (7 ธ.ค. 68) เวลา 23.00 น. ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทหารกัมพูชามีการเตรียมความพร้อมสู้รบขั้นสูงสุด จากกรณีปะทะที่พลาญหินแปดก้อน และยังเตรียมความพร้อมรบตลอดแนวชายแดน มีการสร้างที่กำบังเพิ่มเติม, เสริมความแข็งแรงที่มั่น, ค้นหาวัตถุระเบิดในพื้นที่รับผิดชอบ, ลำเลียงกับระเบิดเก็บในที่กำบัง, ปิดโทรศัพท์มือถือ และเตรียมการต้อนรับผู้บังคับบัญชาที่จะเข้ามาบัญชาการรบ รวมทั้งยังเฝ้าตรวจการปฏิบัติของฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการใช้รถถัง, Drone และการทำถนนบริเวณหน้าแนว
ความเคลื่อนไหวที่สำคัญ
- พื้นที่ตรงข้ามช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ : ทหารกัมพูชาประจำพื้นที่ บ.จุ๊บโกกีคางเกิด ได้รับคำสั่งให้ลำเลียงกับระเบิดไปเก็บในที่กำบัง
- พื้นที่ตรงข้าม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ : ทหารกัมพูชาที่ประจำการพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม อ้างว่าได้ทำการยิงทำลาย Drone ของฝ่ายไทยได้ 1 ลำ
- พื้นที่ตรงข้าม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ : ทหารกัมพูชามีการสั่งการให้กำลังพลประจำแนวทุกนายห้ามเปิดใช้อินเทอร์เน็ตเด็ดขาด และห้ามถ่ายรูประหว่างปฏิบัติภารกิจลงสื่อทุกช่องทาง นอกจากนั้นยังสั่งการหน่วยขึ้นตรง ตั้งแต่วันนี้ให้กำลังพลพื้นที่หน้าแนวทำความสะอาดอาวุธ, ที่กำบัง และฐานที่ตั้งให้เรียบร้อย เนื่องจากในช่วงนี้หน่วยเหนือจะเริ่มทำการตรวจความพร้อมรบของกำลังพล
- พื้นที่ตรงข้ามช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี : ผู้บังคับบัญชาฝ่ายกัมพูชาสั่งการทหารกัมพูชาที่เดินทางออกนอกที่ตั้งให้กลับมาภายในวันที่ 9-10 ธ.ค. 68 หากฝ่ายกัมพูชามีการใช้ BM-21 จะใช้บริเวณพื้นที่ อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร ก่อน
นอกจากนี้เพจเฟซบุ๊ก "กองทัพภาคที่2" ยังระบุว่า ในพื้นที่ช่องคะนา และช่องระยี ตรวจพบการเคลื่อนย้าย ถ. T-55 ของฝ่ายกัมพูชาเคลื่อนย้ายเข้ามาในพื้นที่กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย รวมทั้งมีการอพยพ ประชาชนกัมพูชาออกจากแนวชายแดน
ส่วนในพื้นที่ช่องบก และช่องอานม้า ตรวจพบการเคลื่อนย้าย จลก. RM-70 ของฝ่ายกัมพูชาเข้ามาในพื้นที่ อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร รวมทั้งมีการอพยพประชาชนกัมพูชาออกจากแนวชายแดน


