มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) โดย รองศาสตราจารย์ ดร.วลัยพร รัตนเศรษฐ คณบดีคณะรัฐประศาสนศาสตร์ ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัย “สืบสาน รักษา ต่อยอด ราชประศาสนศาสตร์” ได้รับรางวัลผลงานวิจัยและนวัตกรรมตอบโจทย์ประเทศ NRCT AWARD 2568 ของสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ในวาระครบรอบ 66 ปี เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 ณ ห้องประชุมจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อาคาร วช.1 โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นผู้มอบรางวัล
งานวิจัยชุดดังกล่าวได้รับทุนสนับสนุนจาก วช. และถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ดำเนินการศึกษาครอบคลุมพื้นที่ 76 จังหวัด จาก 77 สถาบันการศึกษา ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการตอกย้ำศักยภาพระดับชาติของ DPU ในการสร้างองค์ความรู้ที่ส่งผลกระทบสูงต่อการแก้ไขปัญหาสาธารณะและการพัฒนาประเทศ โดยในพิธีมอบรางวัล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ลีลา เตี้ยงสูงเนิน ผู้อำนวยการศูนย์วิจัย พัฒนาและนวัตกรรม และ อาจารย์สุนีย์ ลีลาพรพินิจ ได้ร่วมเป็นตัวแทนรองอธิการบดีสายงานวิชาการและสายงานวิจัย เพื่อร่วมแสดงความยินดีในความสำเร็จนี้
โดยงานวิจัยชุดนี้ประกอบด้วยโครงการวิจัยชุดราชประศาสนศาสตร์ ทั้ง 3 โครงการวิจัยต่อเนื่อง ซึ่งได้รับการจัดแสดงในรูปแบบนิทรรศการ ณ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ระหว่างวันที่ 21 - 24 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา กระทั่งปัจจุบัน เพื่อแสดงผลงานและถอดบทเรียนจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมาสร้างเป็นต้นแบบการพัฒนาศักยภาพเยาวชนที่เน้นผลลัพธ์เป็นผลงานของเยาวชนที่มีสารัตถะของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อสืบสาน รักษา ต่อยอดและสร้างความยั่งยืน ซึ่งได้รับความสนใจและการนำไปขยายผลจากผู้เข้าชมที่หลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงจนถึงนักเรียนนักศึกษา
รองศาสตราจารย์ ดร.วลัยพร รัตนเศรษฐ หัวหน้าโครงการวิจัย ได้กล่าวถึงผลลัพธ์เชิงบวกจากการจัดแสดงนิทรรศการครั้งนั้นว่า "งานในครั้งนี้ได้ผลตอบรับจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี ทั้งผู้บริหารจากวช. นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนผู้เข้าร่วมงาน ที่ได้รับรู้ เข้าใจ เข้าถึงศาสตร์แห่งพระมหากษัตริย์ และสามารถต่อยอดแนวทางของพระองค์จากการเข้าร่วมชมนิทรรศการ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าองค์ความรู้ชุดนี้มีความสำคัญและสามารถสร้างแรงบันดาลใจในการนำรูปแบบของการจัดกิจกรรมในการพัฒนาศักยภาพเยาวชน และยังสามารถนำหลักการทรงงานไปประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการภาครัฐและเอกชนได้อย่างกว้างขวาง"
การสร้าง ‘องค์ความรู้’ ราชประศาสนศาสตร์ — แก่นหลักและรากฐานเชิงนโยบาย
หัวใจสำคัญของงานวิจัยที่ได้รับรางวัลนี้คือการสร้าง นวัตกรรมรูปแบบการสร้างการเข้าถึงความรู้ทางราชประศาสนศาสตร์ของเยาวชนผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่เป็นการสร้างความมั่นคงในการสืบสานมรดกทางวัฒนธรรม สถาบันหลักของชาติ ภายใต้ชื่อ “ราชประศาสนศาสตร์” โดยรวบรวมประเด็นหลักในการค้นหารูปแบบและผลงานของเยาวชนทั่วประเทศ ซึ่งปรากฏผลงานของเยาวชนบางส่วนในหนังสือ “ในหลวงของเยาวชน” ซึ่งทางคณะรัฐประศาสนศาสตร์ DPU ได้นำผลงานมาต่อยอดขยายผลในทุกจังหวัดของประเทศ เป็นงานวิจัยที่มีการบูรณาการความร่วมมือในลักษณะ Collaborative Governance
หนังสือดังกล่าวจัดทำขึ้นจากการบูรณาการงานวิจัย 3 โครงการวิจัย ได้แก่ โครงการวิจัยราชประศาสนศาสตร์สองสมัย โครงการวิจัยราชประศาสนศาสตร์สองสมัย (องก์สอง) โครงการสืบสาน รักษา ต่อยอด ราชประศาสนศาสตร์ (องก์สาม) และผลงานในโครงการที่ 3 ซึ่งเป็นการต่อยอดจากสองโครงการแรก นำมาซึ่งผลงานวิจัยที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ โดยมีหลักคิดสำคัญที่ถูกนำมาใช้ในการออกแบบกิจกรรมและงานวิจัยคือ พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขมหาชนชาวสยาม” และพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่ว่า “เราจะสืบสาน รักษา ต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์แห่งอาณาราษฎรตลอดไป” เป็นหัวใจสำคัญที่กำหนดสารัตถะในการออกแบบงานวิจัยทั้ง 3 โครงการวิจัย นอกจากนี้สถาบันการศึกษาที่เข้าร่วมยังได้นำหลักคิดและรูปแบบของงานวิจัยนี้ไปต่อยอดต่อในพื้นที่จังหวัดต่อไป
การสร้างผู้นำ — 4 โมเดลพัฒนาศักยภาพเยาวชน
ความสำเร็จของโครงการนี้ได้ต่อยอดจากเชิงทฤษฎีสู่การปฏิบัติจริง โดยพัฒนาเป็น 4 โมเดลหลักเพื่อสร้างพื้นที่และกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับเยาวชนทั่วประเทศ ได้แก่ Storytelling หรือการเล่าเรื่องเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ, Conceptual Model หรือการพัฒนากรอบความคิด, Public Communication หรือการสื่อสารสาธารณะ และ Project Innovation หรือการต่อยอดด้วยนวัตกรรมข้อเสนอใหม่ โดยครอบคลุมการดำเนินงานใน 76 จังหวัดทั่วประเทศอย่างเป็นรูปธรรม โดยเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมในรูปแบบทั้งสี่โมเดลนี้ยังได้รับการคัดเลือกเข้าสู่กิจกรรมระดับเข้มข้นในลำดับถัดไป เช่น “ผู้นำเพื่อผู้นำ” และ “ผู้นำต่อยอด” เพื่อเสริมสร้างศักยภาพเยาวชนอย่างต่อเนื่อง
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติที่ปรากฏในหนังสือยังพบว่า เยาวชนมีการรับรู้ต่อพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 อยู่ในระดับมาก และมีการรับรู้ต่อการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 อยู่ในระดับมากเช่นกัน ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการประเมินตนเอง (Self-Assessment) ต่อการรับรู้ ความรู้สึก ความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของเยาวชนที่ชัดเจนและต่อเนื่อง
ผลการวิจัยยังสะท้อนถึงแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต โดยข้อเสนอของเยาวชนที่ถูกรวบรวมไว้ครอบคลุมหลายด้าน ทั้งการแพทย์และพยาบาล การพัฒนาแหล่งน้ำ สิ่งแวดล้อม การศึกษาและเทคโนโลยี รวมถึงการพัฒนาตนเอง อีกทั้งยังมีตัวอย่างคำกล่าวจากเยาวชนที่แสดงถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่น เช่น “แผนรับใช้ในหลวงที่ผมคิดไว้ตั้งแต่สมัยเรียนคือการวิจัยและพัฒนาเพื่อประโยชน์แก่แผ่นดินของเรา ผมจะเป็นนักวิจัยของประเทศครับ” และ “ผมขอทำโครงงานเรื่องการทำไร่ของชาวเขา เพื่อศึกษาข้อมูล และการสร้างอาชีพและรายได้ครับ” ซึ่งข้อเสนอเหล่านี้ถูกรวบรวมและนำไปบูรณาการกับโครงการพระราชดำริในระดับจังหวัดและพื้นที่ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของเยาวชนและหน่วยงานระดับพื้นที่ต่อไป
การร่วมประชุมแลกเปลี่ยนกับผู้บริหารจังหวัด เพื่อการออกแบบขยายผลโครงการ ‘องก์ 4’ ต่อเนื่องและพื้นที่เชิงลึก
ความสำเร็จของโครงการดำเนินการขยายผลเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการวิจัย “เยาวชนสืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ (องก์ 4)” คณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เดินทางไปประชุมหารือแลกเปลี่ยนกับผู้บริหารจังหวัด คือผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หน่วยงานและสถาบันทางการศึกษา จำนวน 8 จังหวัด อาทิเช่น จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดยโสธร จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดเลย และยังออกแบบจัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพเยาวชนขยายผลใน 10 จังหวัดๆละ 4 สถาบันการศึกษาที่เป็นเครือข่ายทางการศึกษา รวมอีก 44 สถาบันการศึกษา โดยได้ลงพื้นที่จัดกิจกรรมในหลายจังหวัด
ได้แก่ จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดชลบุรี จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดอ่างทอง จังหวัดนนทบุรี จังหวัดนครปฐม จังหวัดอุทัยธานี จังหวัดพะเยา จัดกิจกรรม “ผู้นำเพื่อการสืบสาน” โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.วลัยพร รัตนเศรษฐ เป็นผู้นำการอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อส่งเสริมศักยภาพความเป็นผู้นำของเยาวชน ผ่านการเรียนรู้แนวทางการสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มุ่งพัฒนาศักยภาพเยาวชนในการเข้าถึงโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่เป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ที่มีต่อการพัฒนาประเทศอย่างลึกซึ้งและยาวนาน
การได้รับรางวัล NRCT AWARD 2568 ของ DPU ในครั้งนี้ ตอกย้ำถึงคุณค่าเชิงวิชาการและความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการสร้างงานวิจัยคุณภาพที่ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศอย่างเป็นรูปธรรมตามนโยบายของ ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดี ซึ่งโดยในโอกาสนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.วลัยพร รัตนเศรษฐ หัวหน้าโครงการวิจัย ได้กล่าวแสดงความขอบคุณต่อผู้บริหารและนโยบายการวิจัยของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ที่ให้การสนับสนุนแก่บุคลากรมาโดยตลอด พร้อมทั้งขอบคุณสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ที่เปิดโอกาสและให้การสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้คณบดีคณะรัฐประศาสนศาสตร์ยังได้กล่าวขอบคุณไปยังทุกสถาบันการศึกษา นิสิตนักศึกษา ครู บุคลากร และผู้บริหารจาก 76 จังหวัด ที่เข้าร่วมและมีส่วนร่วมในงานวิจัยด้วยความตั้งใจ ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความร่วมมือและพลังของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนงานวิจัยเพื่อประเทศชาติ


