xs
xsm
sm
md
lg

ชายแดนเดือด! โฆษก ทบ.แฉยับ กัมพูชาป่วน ลอบวางทุ่นระเบิด 17 ลูก-ละเมิดข้อตกลงและอนุสัญญาออตตาวา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยกัมพูชามีท่าทีเป็นปรปักษ์ต่อเนื่อง หลังลงนาม Joint Declaration ไม่ถึงเดือน ซึ่งมีการลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 ในเขตไทย 17 ลูก เข้าข่ายละเมิดข้อตกลงและอนุสัญญาออตตาวา

วันนี้ (13 พ.ย.) เพจ "กองทัพบก Royal Thai Army" โพสต์รายงานว่า ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้กล่าวถึงประเด็นสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่ปัจจุบันได้กลับเข้าสู่ความตึงเครียดอีกครั้งว่า
แม้ว่ารัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้ร่วมลงนามในปฏิญญาร่วมไทย-กัมพูชา (Joint Declaration) เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และความมั่นคงตามแนวชายแดน ครอบคลุม 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ การถอนอาวุธหนัก การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การปราบปรามขบวนการอาชญากรรมไซเบอร์สแกม และการบริหารจัดการพื้นที่หมู่บ้านชายแดนจังหวัดสระแก้ว ตามที่ทุกท่านได้ทราบดีแล้วนั้น

แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาฝ่ายกัมพูชายังคงมีท่าทีเป็นปรปักษ์ต่อฝ่ายไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของการลักลอบวางทุ่นระเบิด โดยในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ได้เกิดเหตุการณ์ และตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 หลายครั้ง เหตุการณ์ทั้งหมดมีลักษณะต่อเนื่องและเข้าข่ายเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศอย่างชัดเจน รวมทั้งหมด จำนวน 17 ทุ่น ดังนี้

ในพื้นที่ห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
- เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ตรวจพบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ที่มีลักษณะการวางใหม่จำนวน 7 ลูก
- เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 ตรวจพบแนวลวดหนามถูกตัดหลายจุด
- วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ทหารเหยียบกับระเบิดภายในแนวลวดหนามของฝ่ายไทยในระยะลึกเข้ามาประมาณ 7 เมตร ส่งผลให้ทหารไทยบาดเจ็บ 4 นาย และได้ตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 3 ลูกในบริเวณใกล้เคียง
สำหรับเหตุการณ์พื้นที่อื่นๆ
- พื้นที่ปราสาทโดนตวล อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 10-11 พฤศจิกายน 2568 ตรวจพบทุ่นระเบิดจำนวน 5 ลูก
- พื้นที่ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ตรวจพบ PMN-2 จำนวน 1 ลูก
การกระทำดังกล่าว นอกจากจะเป็นการขัดขวางกระบวนการสันติภาพในพื้นที่ชายแดนที่กำลังเดินหน้าไปด้วยดีแล้ว ยังเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างกันและอนุสัญญาออตตาวา

นอกจากนี้ กัมพูชาได้มีการเผยแพร่ข่าวปลอม บิดเบือนข้อมูลในหลายประเด็นโดยไม่อยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงแต่อย่างใด เช่น การเสียชีวิตของเชลยศึก การกล่าวหาว่าทหารไทยเปิดฉากยิงใส่ประชาชนกัมพูชาก่อน การใส่ร้ายว่าไทยเป็นผู้วางทุ่นระเบิดเอง เป็นต้น ซึ่งความเป็นจริงคือฝ่ายกัมพูชาสร้างหลักฐานและคำกล่าวอ้างอันเป็นเท็จใส่ร้ายฝ่ายไทยโดยไม่มีมูลความจริงทุกประการ

ต่อกรณีนี้จะเห็นได้ว่าฝ่ายกัมพูชามีเจตนาที่จะไม่ปฏิบัติตามปฏิญญาร่วมไทย-กัมพูชา (Joint Declaration) และกระทำการที่แสดงออกถึงความเป็นปรปักษ์ต่อไทยอย่างชัดเจน จนนำไปสู่รัฐบาลไทยมีมติให้ระงับการดำเนินการตามข้อตกลง โดยกองทัพบกได้ระงับการถอนอาวุธหนัก รวมถึงการส่งกลับเชลยศึกในทุกกรณี แต่ฝ่ายไทยยังคงเดินหน้าเก็บกู้ทุ่นระเบิดในเขตอธิปไตยไทยต่อไป เพื่อให้พื้นที่มีความปลอดภัยและพร้อมสำหรับการปฏิบัติการทุกด้านที่อาจจะเกิดขึ้น

ทั้งนี้ กองทัพบกมีความพร้อมในการปกป้องอธิปไตยของชาติ ในกรอบการปฏิบัติของศูนย์บัญชาการทางทหาร และกระทรวงกลาโหม สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันภัยคุกคามที่จะส่งผลกระทบต่ออธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน รวมถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและความปลอดภัยของประชาชนไทยในทุกพื้นที่




กำลังโหลดความคิดเห็น