โรงพยาบาลปลายพระยาออกแถลงการณ์ชี้แจงเหตุการณ์สะเทือนใจ "กระบะขวางรถฉุกเฉิน" รับผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและหายใจล้มเหลวเพื่อส่งตัวไปรักษาต่อ เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 16 ต.ค. เจ้าของรถกระบะจอดปิดท้ายทางเข้าออกรถพยาบาล ขณะพาแม่ที่มีอาการเวียนศีรษะมาโรงพยาบาล เมื่อเจ้าหน้าที่และญาติผู้ป่วยวิกฤตร้องขอให้เลื่อนรถ กลับเอะอะโวยวายด้วยความไม่พอใจที่ไม่มีใครมาบริการแม่ตน จนกระทั่งผู้ป่วยวิกฤตรายดังกล่าวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากกรณีเกิดเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจ เมื่อรถกระบะคันหนึ่งปิดท้ายรถฉุกเฉินที่กำลังเตรียมนำผู้ป่วยวิกฤตขึ้นรถเพื่อส่งตัวไปรักษาต่อ ทำให้เกิดความล่าช้าในการเคลื่อนย้าย
รายงานระบุว่า ขณะที่ทีมแพทย์และพยาบาลกำลังจะนำผู้ป่วยวิกฤตขึ้นรถฉุกเฉิน หนุ่มคนขับรถกระบะได้จอดปิดทาง ทำให้ญาติผู้ป่วยถึงกับเข่าทรุดและยกมือไหว้ร้องขอให้ช่วยขยับรถออก แต่ต้องใช้เวลาในการเจรจากว่ารถกระบะจะยอมเคลื่อนย้าย
ด้านหนุ่มคนขับรถกระบะให้เหตุผลว่ารีบพาแม่มารักษาเนื่องจากมีอาการเวียนศีรษะและตาลาย แม้ว่าแม่ของเขายังสามารถถามตอบรู้เรื่องก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้ป่วยวิกฤตรายนี้ได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา
ล่าสุดวันนี้ (18 ต.ค.) โรงพยาบาลปลายพระยาออกแถลงการณ์ต่อเหตุการณ์สะเทือนใจดังกล่าวว่า
โรงพยาบาลปลายพระยา และบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน และมีภาวะการหายใจล้มเหลว เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลปลายพระยาเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 โรงพยาบาลปลายพระยาขอชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาผู้ป่วยดังกล่าว ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
วันที่ 16 ตุลาคม 2568 เวลา 23.10 น. ภายในห้องฉุกเฉิน โซนผู้ป่วยวิกฤต เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ พนักงานเปล และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กำลังให้การช่วยเหลือ และช่วยชีวิตผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน และมีภาวะการหายใจล้มเหลว ซึ่งต้องมีการใส่ท่อช่วยหายใจ หลังจากนั้นย้ายผู้ป่วยเพื่อส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลกระบี่ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายที่มีศักยภาพการรักษาที่สูงกว่า
เวลา 23.15 น. รถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำตาล คันที่จอดปิดท้ายรถพยาบาล นำส่งผู้ป่วยหญิงวัย 69 ปี รู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง มีอาการเวียนศีรษะ ตาลาย ญาติเข็นผู้ป่วยหญิงรายนั้นเข้าห้องฉุกเฉินเอง และได้พบกับพยาบาลหัวหน้าเวรห้องฉุกเฉิน ซึ่งกำลังจัดเตรียมเอกสาร และประสานการส่งต่อผู้ป่วยวิกฤตไปโรงพยาบาลกระบี่อยู่ และพยาบาลหัวหน้าเวรได้อธิบายให้ญาติผู้ป่วยทราบว่าขณะนี้คนไข้อาการหนัก กำลังเตรียมส่งไปโรงพยาบาลกระบี่ ให้รอสักครู่ และให้ญาติเข็นผู้ป่วยไปนอนบนเตียง จากนั้นพยาบาลหัวหน้าเวรก็ได้เข้าไปซักประวัติ และประเมินอาการผู้ป่วยที่เตียง แต่ญาติก็ยังโวยวายเรื่องที่ไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแลแม่ของตน
เวลา 23.16 น. ขณะเคลื่อนผู้ป่วยฉุกเฉิน ออกจากห้องฉุกเฉินเพื่อขึ้นรถพยาบาล พบว่ามีรถกระบะ 4 ประตูยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำตาล จอดกีดขวางปิดท้ายรถพยาบาล ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยขึ้นรถพยาบาลได้ หลังจากนั้นพยาบาลได้แจ้งให้เจ้าของรถกระบะคันดังกล่าวมาเลื่อนรถออก แต่ไม่ได้รับความร่วมมือโดยทันที เจ้าของรถกระบะคันดังกล่าวได้กล่าวเอะอะโวยวายเสียงดังด้วยท่าทีโมโหเรื่องที่ไม่มีเจ้าหน้าที่มาบริการแม่ของตนเอง ขณะเดียวกันญาติของผู้ป่วยวิกฤตที่กำลังจะส่งต่อได้ร้องไห้พร้อมนั่งทรุดลงกับพื้น และยกมือไหว้ร้องขอให้เจ้าของรถกระบะช่วยเลื่อนรถออก แต่ยังคงมีปากเสียงเอะอะโวยวายกับเจ้าหน้าที่ และญาติผู้ป่วยบริเวณท้ายรถนำส่งผู้ป่วยตอบเป็นระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นถึงจะเดินไปเลื่อนรถกระบะของตนออก เจ้าหน้าที่จึงได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยขึ้นรถพยาบาลเพื่อส่งต่อผู้ป่วยไปโรงพยาบาลกระบี่ได้
การกระทำของเจ้าของรถกระบะเป็นการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งต้องรีบเคลื่อนย้ายผู้ป่วยวิกฤตโดยด่วน ซึ่งสุดท้ายผู้ป่วยรายดังกล่าวได้เสียชีวิต ส่วนผู้ป่วยที่เป็นญาติของเจ้าของรถกระบะคันดังกล่าวแพทย์ได้ทำการตรวจรักษาในห้องฉุกเฉินจนอาการทุเลา และให้ยากลับไปรับประทานที่บ้าน โรงพยาบาลปลายพระยาขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวต่อการจากไปของผู้ป่วย และขอยืนยันว่าได้ให้การดูแลรักษาอย่างเต็มความสามารถตามมาตรฐานวิชาชีพตลอดระยะเวลาการดูแลผู้ป่วย