แถลงการณ์โรงพยาบาลปลายพระยา
ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีญาติผู้ป่วยนำรถจอดกีดขวางรถพยาบาลจนไม่สามารถนำผู้ป่วยขึ้นรถได้
โรงพยาบาลปลายพระยาและบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อ ครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน และมีภาวะการหายใจล้มเหลว เข้ารับการ รักษาพยาบาลโรงพยาบาลปลายพระยา เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 โรงพยาบาลปลายพระยา ขอชี้แจง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาผู้ป่วยดังกล่าว ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
วันที่ 16 ตุลาคม 2568
เวลา 23.10 น. ภายในห้องฉุกเฉินโซนผู้ป่วยวิกฤต เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ พนักงานเปล และ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กำลังให้การช่วยเหลือและช่วยชีวิตผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน และมีภาวะการหายใจล้มเหลว ซึ่งต้องมีการใส่ท่อช่วยหายใจ หลังจากนั้นย้ายผู้ป่วย เพื่อส่งตัวไปรักษาต่อที่ โรงพยาบาลกระบี่ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายที่มีศักยภาพการรักษาที่สูงกว่า
เวลา 23.15 น. รถกระบะ4ประตู ยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำตาล คันที่จอดปิดท้ายรถพยาบาล นำส่งผู้ป่วย หญิงวัย 69 ปี รู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง มีอาการเวียนศีรษะตาลาย ญาติเข็นผู้ป่วยหญิงรายนั้นเข้าห้องฉุกเฉินเอง และได้พบกับพยาบาลหัวหน้าเวรห้องฉุกเฉินซึ่งกำลังจัดเตรียมเอกสารและประสานการส่งต่อผู้ป่วยไป โรงพยาบาลกระบี่อยู่ และพยาบาลหัวหน้าเวรได้อธิบายให้ญาติผู้ป่วยทราบว่าขณะนี้มีคนไข้อาการหนักกำลัง เตรียมส่งต่อไปโรงพยาบาลกระบี่ ให้รอสักครู่ และให้ญาติเข็นผู้ป่วยไปนอนบนเตียง จากนั้นพยาบาลหัวหน้า เวรก็ได้เข้าไปซักประวัติและประเมินอาการผู้ป่วยที่เตียง แต่ญาติก็ยังโวยวายเรื่องที่ไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแลมารดาของตน
เวลา 23.16 น.ขณะเคลื่อนผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตออกจากห้องฉุกเฉินเพื่อขึ้นรถพยาบาล พบว่า มีรถ กระบะ4ประตู ยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำตาล จอดกีดขวาง ปิดท้ายรถพยาบาล ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยขึ้น รถพยาบาลได้ หลังจากนั้นพยาบาลได้แจ้งให้เจ้าของรถกระบะคันดังกล่าวมาเลื่อนรถออก แต่ไม่ได้รับความ ร่วมมือโดนทันที เจ้าของรถกระบะคันดังกล่าวได้กล่าวเอะอะโวยวายเสียงดัง ด้วยท่าทีที่โมโห เรื่องที่ไม่มี เจ้าหน้าที่มาบริการมารดาตนเอง ขณะเดียวกันญาติของผู้ป่วยวิกฤตที่กำลังจะส่งต่อ ได้ร้องไห้พร้อมนั่งทรุดลงกับพื้นและยกมือไหว้ ร้องขอให้เจ้าของรถกระบะช่วยเลื่อนรถออก แต่ยังคงมีปากเสียง เอะอะโวยวายกับ เจ้าหน้าที่และญาติผู้ป่วยบริเวณท้ายรถนำส่งผู้ป่วยต่อเป็นระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นถึงจะเดินไปเลื่อนรถกระบะของตนออก เจ้าหน้าที่จึงได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยขึ้นรถพยาบาลเพื่อส่งต่อผู้ป่วยไปโรงพยาบาลกระบี่ได้