กองทัพบกจัดพิธีจารึกนามวีรชนทหารกล้าบนกำแพงอนุสรณ์กองทัพบก พร้อมจัดพิธีสดุดีกำลังพล ผู้สละชีพเพื่อชาติ จากกรณีพิพาทชายแดนไทย – กัมพูชา ผบ.ทบ.ย้ำความเสียสละของ 16 ทหารกล้าจะไม่มีวันเสียเปล่า ถือเป็นเกียรติภูมิที่สถิตย์อยู่คู่แผ่นดินไทย พร้อมดูแลสิทธิ -ครอบครัวอย่างดี ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุมีกำลังพลเสียชีวิตเพิ่ม 1 นาย จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดเกิดจากหัวใจล้มเหลว
วันนี้ (26 กันยายน 2568) กองทัพบกจัดพิธีสดุดีกำลังพลที่เสียชีวิตจากสถานการณ์กรณีพิพาทชายแดนไทย – กัมพูชา เพื่อรำลึกและยกย่องวีรกรรมอันกล้าหาญของทหารผู้เสียสละ ณ กองบัญชาการกองทัพบก โดยมี พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธาน พร้อมด้วย พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1, พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2, พลโท ไพบูลย์ พุ่มพิเชฏฐ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก, พลโท ณรงฤทธิ์ คำภีระ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ, ผู้บังคับบัญชาชั้นสูงกองทัพบก, ผู้บังคับบัญชาและทายาทของผู้เสียชีวิต, ผู้แทนองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก, ทหารผ่านศึก และกำลังพลกองทัพบกเข้าร่วมพิธี
พิธีฯ จัดขึ้น ณ บริเวณหน้ากำแพงอนุสรณ์กองทัพบก ซึ่งเป็นสถานที่สถิตนามวีรชนกองทัพบกที่สละชีพเพื่อชาติปกป้องแผ่นดินไทยในสมรภูมิสู้รบต่าง ๆ เริ่มต้นด้วยพิธีทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้แด่ทหารผู้ล่วงลับ จากนั้นมีการจัดกองทหารเกียรติยศแสดงความเคารพ ก่อนที่ผู้เข้าร่วมพิธีจะกล่าวคำสดุดีฯ และผู้บัญชาการทหารบกประดับแผ่นป้ายจารึกรายนามทหารกล้าที่สละชีพเพื่อชาติจากสมรภูมิชายแดนไทย – กัมพูชา ลงบนแท่นประทับ โดยมีพลแตรเดี่ยวเป่าเพลงเคารพพร้อมกับการยิงสลุตเพื่อเป็นเกียรติแก่กำลังพลที่เสียชีวิตฯ และการวางพวงมาลาเพื่อแสดงความอาลัยแด่ดวงวิญญาณบรรพบุรุษนักรบไทย
สำหรับรายนามวีรชนทหารกล้าหาญจากสมรภูมิรบชายแดนไทย – กัมพูชา ที่ถูกจารึกไว้ ณ กำแพงอนุสรณ์กองทัพบกในวันนี้ มีทั้งสิ้น 16 นาย ดังนี้
1. จ่าสิบเอก ธวัชชัย บุสภา สังกัด กองพันปืนใหญ่ที่ 106 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 6
2. จ่าสิบเอก ธีระยุทธ สีจุ้ยจ้าย สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 13
3. จ่าสิบเอก อโณทัย ป้องแก้ว สังกัด กองพันปฏิบัติการพิเศษ
4. จ่าสิบเอก อภิรมย์ ทรงพุฒิ สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 8
5. สิบเอก กฤษฎา น้อยโครต สังกัด กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6
6. สิบเอก จิรายุ สิงห์อ้น สังกัด กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6
7. สิบเอก จิรายุส อินทุมาน สังกัด กองพันจู่โจม
8. สิบเอก นพพล บุญเลิศ สังกัด กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6
9. สิบเอก อัมรินทร์ ผาสุข สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23
10. สิบโท ต่อพงษ์ พันดวง สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 16
11. สิบโท ศราวุฒิ นามสวัสดิ์ สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 8
12. สิบตรี วรัญชิต ยวงสุวรรณ สังกัด กรมทหารราบที่ 13
13. พลทหาร ญาณพัฒน์ โครตสาขา สังกัด กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 3
14. พลทหาร ธีรยุทธ กระจ่างทอง สังกัด กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2
15. พลทหาร พิทยุตม์ โสดา สังกัด กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 23
16. พลทหาร สิรวิชญ์ ภิญโญสุข สังกัด กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 8
นอกจากนี้ ยังมีการจัดพิธีสงฆ์อุทิศส่วนกุศลแด่กำลังพลที่เสียชีวิตฯ ณ หอประชุมกิตติขจร โดยมี พระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท หรือ หลวงปู่ศิลา) วัดพระธาตุหมื่นหิน จังหวัดกาฬสินธุ์ และคณะ ประกอบพิธีสงฆ์ ได้แก่ การสวดพระพุทธมนต์ การถวายภัตตาหารและเครื่องไทยธรรม พร้อมทั้งทอดผ้าบังสุกุล จากนั้นเป็นพิธีมอบเงินช่วยเหลือแก่ทายาทของกำลังพลที่เสียชีวิตฯ โดยผู้เข้าร่วมพิธีได้รับชมวีดิทัศน์สดุดีกำลังพลที่เสียชีวิตฯ ก่อนที่ผู้บัญชาการทหารบกจะมอบเงินช่วยเหลือและของที่ระลึกให้แก่ทายาทของกำลังพลที่เสียชีวิตฯ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ครอบครัวทหารกล้าผู้เสียสละ รวมถึงมีการบรรยายพิเศษโดย พลเอก บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อให้ข้อคิดและสร้างแรงบันดาลใจแก่กำลังพลกองทัพบก
ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวสดุดีและเชิดชูเกียรติกำลังพลที่เสียชีวิตฯ ความว่า “เหล่าทหารหาญได้อุทิศกำลังกาย กำลังใจ ยืนหยัดต่อสู้ และยอมสละชีพ เพื่อปกป้องเอกราช อธิปไตยของชาติ ด้วยความองอาจ สมเกียรติและศักดิ์ศรีของการเป็นชายชาติทหาร แม้ในสมรภูมิจะเต็มไปด้วยอันตรายและสถานการณ์ความตึงเครียดที่ไม่อาจประเมินได้ แต่ทหารกล้าทั้งหลาย มิได้ย่อท้อต่อภารกิจ พร้อมเป็นแนวหน้าปฏิบัติหน้าที่ต่อต้านผู้รุกราน เพื่อรักษาไว้ซึ่งบูรณภาพแห่งดินแดนให้ชนในชาติได้มีแผ่นดินอยู่อาศัยด้วยความสงบสุขร่มเย็น ในนามของกองทัพบก ขอสดุดี และเชิดชูวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของเหล่าวีรชนทหารกล้าที่ได้ทำหน้าที่ทหารของชาติอย่างสมบูรณ์ โดยกองทัพบกจะดูแลครอบครัวของเหล่าทหารกล้าให้ดีที่สุดเพื่อเชิดชูเกียรติและตอบแทนความเสียสละของท่านเหล่านี้ คุณงามความดี และความกล้าหาญเสียสละของทุกท่านจะไม่มีวันสูญเปล่า และจะเป็นเกียรติภูมิที่สถิตอยู่คู่แผ่นดินไทยตลอดไป”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากมีการทำพิธีสดุดีและจารึกชื่อ 16 ทหารที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไทยกัมพูชาแล้วกองทัพบก ยังมีการจัดพิธีสงฆ์อุทิศหอประชุมกิตติขจร โดยมี พระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท หรือ หลวงปู่ศิลา) วัดพระธาตุหมื่นหิน จังหวัดกาฬสินธุ์ และคณะ ประกอบพิธีสงฆ์ ได้แก่ การสวดพระพุทธมนต์ การถวายภัตตาหารและเครื่องไทยธรรม พร้อมทั้งทอดผ้าบังสุกุล
จากนั้นเป็นพิธีมอบเงินช่วยเหลือแก่ทายาทของกำลังพลที่เสียชีวิตฯ โดยผู้เข้าร่วมพิธีได้รับชมวีดิทัศน์สดุดีกำลังพลที่เสียชีวิตฯ ก่อนที่ผู้บัญชาการทหารบกจะมอบเงินช่วยเหลือและของที่ระลึกให้แก่ทายาทของกำลังพลที่เสียชีวิตฯ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ครอบครัวทหารกล้าผู้เสียสละ รวมถึงมีการบรรยายพิเศษโดย พลเอก บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อให้ข้อคิดและสร้างแรงบันดาลใจแก่กำลังพลกองทัพบก
ในโอกาสนี้ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวสดุดีและเชิดชูเกียรติกำลังพลที่เสียชีวิตฯ ว่า สถานการณ์กรณีพิพาทบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นเหตุการณ์สำคัญที่จารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของชาติ ที่เหล่าทหารหาญ ได้อุทิศกำลังกาย กำลังใจ ยืนหยัดต่อสู้และยอมสละชีพเพื่อปกป้องเอกราชอธิปไตยของชาติด้วยความองอาจ กล้าหาญ เสียสละ สมเกียรติและศักดิ์ศรีของการเป็นชายชาติทหาร แม้ในสมรภูมิจะเต็มไปด้วยอันตรายและสถานการณ์ความตึงเครียดที่ไม่อาจประเมินได้ แต่ทหารกล้าทั้งหลายไม่ได้ย่อท้อต่อภารกิจ และพร้อมเป็นแนวหน้าปฏิบัติหน้าที่ต่อผู้รุกรานโดยไม่ยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว เพื่อรักษาไว้ซึ่งบูรณภาพแห่งดินแดนให้คนในชาติได้มีแผ่นดินอยู่อาศัย เพื่อความสงบสุขร่มเย็น
ทั้งนี้ ในนามของกองทัพบก พวกเราขอสดุดีและเชิดชูวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของเหล่าวีรชนทหารกล้าที่ได้ทำหน้าที่ทหารของชาติอย่างสมบูรณ์ ซึ่งคุณงามความดีที่ได้ประกอบไว้แก่แผ่นดินในครั้งนี้ เป็นเกียรติยศที่จะถูกจารึกไว้เป็นอนุสรณ์อยู่ในความทรงจำของเหล่าทหารและประชาชนชาวไทยอีกทั้งเป็นเครื่องย้ำและได้ตระหนักถึงการทำหน้าที่ทหารของชาติและพลเมืองที่ดี จึงขอให้พวกเราเหล่าทหารและประชาชนชาวไทยได้ภาคภูมิใจก็เป็นชาติ ร่วมมือ ร่วมใจ รักษาผลประโยชน์และเกียรติภูมิของชาติไทย ดัง วีรบุรุษหาญกล้าที่อุทิศเลือดเนื้อ และชีวิต เพื่อรักษาไว้
ในโอกาสนี้ พวกเราขอขอบคุณครอบครัวทหารกล้าเป็นอย่างยิ่งที่เป็นกำลังใจสำคัญ ให้เพื่อนทหารกล้าของกองทัพบก ได้ทำหน้าที่อันเป็นเกียรติสูงสุดในการปกป้องพื้นแผ่นดินอันเป็นมาตุภูมิซึ่งเป็นความภาคภูมิใจที่ฝังแน่นในจิตใจของคนไทยทุกคน โดยกองทัพบกจะดูแลครอบครัวของทหารกล้าให้ดีที่สุดเพื่อเชิดชูเกียรติและตอบแทนความเสียสละของท่านเหล่านี้ แล้วขอให้ดวงวิญญาณของวีรบุรุษทหารกล้าจงรับรู้ว่าความดีงาม ความดี และความกล้าหาญเสียสละของทุกท่านจะไม่มีวันเสียเปล่าและจะป็นเกียรติภูมิที่สถิตอยู่คู่แผ่นดินไทยตลอดไป พลเอก พนา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าว
ทางด้านพลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค2 กล่าวระหว่างบรรยายพิเศษให้กำลังพลของกองทัพบกในช่วงหนึ่งว่า ล่าสุดมีกำลังพลจึงเป็นทหารปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่รักษาอธิปไตยเสียชีวิต1นาย ในเบื้องต้นทราบว่าน่าจะมีภาวะหัวใจล้มเหลว ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงต่อไป