xs
xsm
sm
md
lg

"IA ต้องเป็นคู่คิดผู้บริหาร" CIBA-DPU สร้างนักตรวจสอบภายในรุ่นใหม่ พร้อมทักษะดิจิทัลควบคู่ ตอบรับโลกดิจิทัล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ร่วมกับชมรมผู้ให้บริการงานตรวจสอบภายใน จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ “Internal Audit Outsource” ภายใต้โครงการ CIBA IA Junior Camp ระหว่างวันที่ 30–31 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา เพื่อยกระดับทักษะด้านการตรวจสอบภายใน (Internal Audit: IA) ให้แก่นักศึกษาหลักสูตรการบัญชีและสาขาที่เกี่ยวข้อง ตอบโจทย์ตลาดแรงงานยุคดิจิทัลที่ต้องการบุคลากรเชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมทำงานได้จริงตั้งแต่วันแรก

อาจารย์ ดร.ณัฐพัชร์ นวลมณีฐิติ รองคณบดีวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA-DPU) เปิดเผยว่า กิจกรรมนี้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของวิทยาลัยฯ ที่มุ่งพัฒนาบัณฑิตให้มีความพร้อมทั้งความรู้เชิงวิชาการและทักษะการทำงานจริง โดยเฉพาะในสายงานตรวจสอบภายในซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับองค์กรในยุคดิจิทัล

"ในยุคดิจิทัล บทบาทของผู้ตรวจสอบภายในไม่ใช่เพียงการตรวจสอบเอกสารหรือการปฏิบัติตามระเบียบเท่านั้น แต่ต้องสามารถเป็นที่ปรึกษาให้ผู้บริหาร ช่วยประเมินความเสี่ยงและเสนอแนะแนวทางปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใสในองค์กร" ดร.ณัฐพัชร์ กล่าว

การจัดกิจกรรมยังเน้นการฝึกปฏิบัติแบบลงมือทำ ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านงานตรวจสอบภายใน (IA) จากภาคอุตสาหกรรมซึ่งช่วยให้นักศึกษามี "ความรู้จริง ทักษะจริง และประสบการณ์จริง" ก่อนจบการศึกษา ซึ่งงานตรวจสอบภายในเป็นหนึ่งในสายอาชีพที่เป็นที่ต้องการขององค์กรอย่างต่อเนื่องในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้ที่มีทักษะในสายงานนี้จึงมีโอกาสทางอาชีพที่กว้างไกลในอนาคต


โดยกิจกรรมอบรมตลอด 2 วัน ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “พื้นฐาน–ลงมือ–สะท้อนผล” โดยวันที่ 30 กรกฎาคม เป็นการปูพื้นฐานความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทของ Internal Audit และความแตกต่างจาก External Audit ก่อนลงลึกในขั้นตอนสำคัญ เช่น การวางแผนตรวจสอบ การกำหนดขอบเขตงาน และเทคนิคการเก็บพยานหลักฐาน ผ่านกรณีศึกษาและสถานการณ์จำลอง โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่าน ได้แก่ ดร.ธนสาร วาสันธิ์, คุณบุญณี กุศลโสภิต, คุณสุรพล ถวัลยวิชชจิต, คุณธนัท เกิดเจริญ และคุณชวัลพัชร หอมหวานทิพย์ ร่วมกันถ่ายทอดความรู้จากประสบการณ์ตรงในองค์กรขนาดใหญ่

และสำหรับ วันที่ 31 กรกฎาคม เป็นการฝึกปฏิบัติแบบเข้มข้น โดยนักศึกษาได้เรียนรู้ผ่านการจำลองสถานการณ์การสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลภายในองค์กร ฝึกการวิเคราะห์ความเสี่ยง และการเขียนรายงานตรวจสอบให้สอดคล้องกับมาตรฐานวิชาชีพ และฝึกทักษะการทำงานเป็นทีม พร้อมรับคำแนะนำแบบใกล้ชิด จากวิทยากร ได้แก่ คุณสุรพล ถวัลยวิชชจิต, คุณธนัท เกิดเจริญ และคุณวัฒนา จันทร์นาคิน เพื่อพัฒนาทักษะให้แม่นยำตรงจุด

นอกจากการเรียนรู้ตามตำราแล้ว วิทยากรได้ยกตัวอย่างสถานการณ์จริงที่อยู่นอกเหนือจากห้องเรียน เช่น การฮั้วกันระหว่างแผนกต่างๆ ในโรงงานผลิต เพื่อปกปิดการทุจริต หรือการตรวจสอบงานประมูลที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต เพื่อให้นักศึกษามองเห็นช่องโหว่และจุดอ่อนในระบบควบคุมภายใน และสอดแทรกเรื่อง จริยธรรม ในการปฏิบัติงานของผู้ตรวจสอบภายใน เช่น ความซื่อสัตย์และการรักษาความลับของลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการทำงานสายนี้

ดร.ณัฐพัชร์ อธิบายต่อว่า การอบรมรูปแบบนี้ทำให้นักศึกษาได้ “ทักษะคู่” ทั้ง Hard Skills อาทิ เทคนิค IA กระบวนการตรวจสอบ มาตรฐานและจริยธรรมวิชาชีพ การเขียนรายงานอย่างมีโครงสร้าง ควบคู่กับ Soft Skills ทั้งการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งเป็นทักษะที่องค์กรต้องการในยุคดิจิทัลที่การดำเนินธุรกิจมีกระบวนการที่ซับซ้อนมากขึ้น และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้การได้เรียนกับผู้เชี่ยวชาญจากภาคธุรกิจจริงยังช่วยขยายเครือข่ายวิชาชีพให้แก่นักศึกษาสาขาบัญชีดิจิทัล ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อโอกาสในการฝึกปฏิบัติงานสหกิจศึกษาและการจ้างงานในอนาคต

จุดเด่นสำคัญที่ทำให้นักศึกษาสาขาบัญชีดิจิทัล CIBA-DPU ได้เปรียบคือการ “มองงานตรวจสอบแบบที่ปรึกษา” ไม่ยึดติดกับเช็กลิสต์ แต่เข้าใจความเสี่ยง ภาพรวมกระบวนการ และผลกระทบทางธุรกิจ สามารถเสนอแนวทางปรับปรุงที่นำไปใช้ได้จริง พร้อมประยุกต์เครื่องมือดิจิทัลในงานตรวจสอบ เช่น การใช้ Data Analytics ประเมินความผิดปกติ การอ่านร่องรอยระบบ ERP/CRM การพิจารณาความเสี่ยงด้านความปลอดภัยข้อมูล และการทำงานร่วมกันบนระบบ Cloud System เพื่อรวบรวมหลักฐานและติดตามประเด็นแบบเรียลไทม์

ประโยชน์ที่ผู้เรียนได้รับสะท้อนชัดจากผลลัพธ์ของการอบรมครั้งนี้ คือ นักศึกษาได้มองเห็นวงจรงาน IA ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เข้าใจมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชีพ ฝึกตั้งสมมติฐานความเสี่ยง ตรวจสอบหลักฐานเชิงระบบ สังเคราะห์ข้อค้นพบ และสื่อสารข้อเสนอแนะที่สร้างคุณค่าให้องค์กรสามารถนำผลงานจากการฝึกอบรมใส่ในแฟ้มผลงานเพื่อใช้ประกอบการสมัครสหกิจศึกษาปฏิบัติงานหรือสมัครงานได้ทันที และยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนใช้ความรู้ที่ได้รับจากโครงการอบรมฯนำไปใช้เพื่อรับงาน part-time หรือฟรีแลนซ์ได้ในขณะที่กำลังศึกษา เป็นการสร้างรายได้ควบคู่กับการเก็บประสบการณ์จริง


โครงการ IA Junior Camp นี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของชุดโครงการ "Pre-CWIE" หลักสูตรบัญชีดิจิทัล CIBA-DPU จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้นักศึกษาได้ค้นหาตัวเองและเตรียมพร้อมก่อนไปฝึกงานจริง เช่นเดียวกับโครงการ Cloud Accounting และ RD Go Campus ซึ่งการอบรมเหล่านี้ยังเปิดโอกาสให้สถานประกอบการเข้ามาคัดเลือกนักศึกษาที่มีทักษะโดดเด่นเพื่อดึงตัวไปฝึกงานหรือทำงานจริงได้ในทันที

ในด้านมิติตลาดแรงงาน ดร.ณัฐพัชร์ ชี้ให้เห็นว่า งาน IA เป็นหนึ่งในสายอาชีพที่มีความต้องการสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งในภาคเอกชน หน่วยงานรัฐ และองค์การระหว่างประเทศ โดยเฉพาะผู้ที่ “เข้าใจทั้งธุรกิจและเทคโนโลยี” เพราะการตรวจสอบยุคใหม่ไม่ได้หยุดอยู่ที่เอกสาร แต่ขยายไปสู่ระบบดิจิทัลและความเสี่ยงด้าน Cybersecurity ทำให้ผู้ที่มีพื้นฐานบัญชีควบคู่ไปกับทักษะดิจิทัลและการสื่อสารกับผู้บริหาร จะมี “มูลค่าเพิ่ม” ในตลาดงานทันที

เพื่อเร่งเครื่องทางการศึกษาและสร้างข้อได้เปรียบให้แก่ผู้เรียน หลักสูตรบัญชีดิจิทัล CIBA-DPU ยังเสนอ “เส้นทางเรียนจบไว (Fast Track)” สำหรับผู้ที่มีความพร้อม ให้สำเร็จการศึกษาได้เร็วกว่าปกติ โดยไม่ลดทอนคุณภาพและทักษะทางวิชาชีพ เพราะตลอดเส้นทางการเรียนรู้ของหลักสูตรผู้เรียนจะถูกเติมเต็มด้วยเวิร์กชอปภาคปฏิบัติและการทำโปรเจกต์จริง การจบเร็วหมายถึงการเข้าสู่ตลาดงานก่อน มีเวลาเก็บชั่วโมงบินนานกว่า และสร้างผลตอบแทนชีวิต-การงานได้เร็วขึ้น

สำหรับทิศทางต่อไป หลักสูตรบัญชีดิจิทัล CIBA-DPU เตรียมต่อยอด โครงการ IA Junior Camp สู่ “IA Advanced Program” ซึ่งจะครอบคลุมประเด็นที่ลึกและเฉพาะทางขึ้น เช่น IT Audit, การตรวจสอบด้าน ESG/ความยั่งยืน, การบริหารความเสี่ยงขั้นสูง และ การใช้เครื่องมือ Data Analytics/AI ในกระบวนการตรวจสอบ ควบคู่ไปกับการออกแบบ “Internship in Internal Audit” ร่วมกับองค์กรพันธมิตร เพื่อให้นักศึกษาได้ลงพื้นที่ทำปฏิบัติงานผ่านโครงการตรวจสอบจริง และมีโอกาสได้รับการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง

หลักสูตรบัญชีดิจิทัล ยังคงเดินหน้าปรับปรุงรายวิชาให้ทันสมัยอยู่เสมอ โดยเพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับการอ่านข้อมูลจากระบบ ERP, เทคนิคการประเมินความเสี่ยงด้าน Cybersecurity และการเขียนรายงานตรวจสอบเชิงกลยุทธ์ที่เน้น “ข้อเสนอแนะที่นำไปใช้ได้จริง” โดยสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรได้ที่ https://www.dpu.ac.th/th/course/profile/profile-master-of-accountancy-program-in-accountancy

อาจารย์ ดร.ณัฐพัชร์ นวลมณีฐิติ รองคณบดีวิทยาลัย CIBA-DPU กล่าวทิ้งท้ายว่า "ความคาดหวังของสถานประกอบการ คือ ต้องการนักศึกษาสหกิจศึกษาและบัณฑิตจบใหม่ของหลักสูตรบัญชีดิจิทัลที่มีพร้อมทั้งทฤษฎีและเทคโนโลยี ไม่ใช่เพียงบุคลากรที่ไปนั่งทำงานบนกระดาษ แต่ต้องการทรัพยากรบุคคลที่มีทักษะด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี จากผลการดำเนินงานของโครงการต่างๆ ภายใต้หลักสูตรบัญชีดิจิทัล พบว่านักศึกษาและบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาของหลักสูตรมีความรู้และทักษะดิจิทัลเพิ่มขึ้นทุกปี และมีทัศนคติการทำงานในสายวิชาชีพบัญชีอย่างมืออาชีพ"












กำลังโหลดความคิดเห็น