“มาลี” เล่นใหญ่ อ้างไทยใช้ “คลัสเตอร์บอมบ์” ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ เรียกร้องนานาชาติประณาม จี้ไทยถอนกำลังทันที

โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงข่าว อ้างวันนี้กองทัพไทยโจมตีแล้ว 7 แห่ง โดยบางแห่งใช้ระเบิดคลัสเตอร์บอมบ์ที่เป็นอาวุธต้องห้าม โวยแหลกไทยไม่มีมนุษยธรรม เรียกร้องนานาชาติประณาม และให้ไทยถอนกำลังออกไปทันที

วันนี้ (25 ก.ค.) พลโท มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงข่าวสถานการณ์สู้รบระหว่างไทยกับกัมพูชาว่า ในวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 กองทัพไทยได้โจมตีสถานที่ 7 แห่งโดยใช้อาวุธหนักและระเบิดคลัสเตอร์บอมบ์ ซึ่งเป็นอาวุธต้องห้ามตามกฎหมายระหว่างประเทศ

โฆษกกระทรวงกลาโหมถือว่าการกระทำนี้เป็นอาชญากรรมสงคราม ภัยคุกคามระยะยาวต่อพลเรือน สิ่งแวดล้อม อาชญากรรมสงครามภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ และภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค

พลโท มาลีกล่าวว่า นับตั้งแต่เวลา 08.46 น.ของวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ฝ่ายไทยได้เริ่มโจมตีกองกำลังกัมพูชา โดยฝ่ายไทยได้ใช้อาวุธหนักและเครื่องบินรบเอฟ-16 ทิ้งระเบิดลงบนดินแดนกัมพูชา โดยกองทัพไทยได้เปิดฉากโจมตีดินแดนกัมพูชาใน 7 พื้นที่ ดังนี้
- เวลา 03.20 น. กองทัพไทยได้เปิดฉากโจมตีโคลช ตะถาว และพื้นที่เนิน 333
- เวลา 05.25 น. กองทัพไทยได้ใช้ระเบิดคลัสเตอร์บอมบ์โจมตีพื้นที่โคลช ตะถาว
- เวลา 05.30 น. กองทัพไทยได้เริ่มโจมตีปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย
- เวลา 05.40 น. กองทัพไทยเริ่มโจมตีพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต
- เวลา 06.50 น. กองทัพไทยยิงระเบิดลูกที่สองเข้าใส่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหาร
- เวลา 07.03 น. กองทัพไทยยิงเข้าใส่เป้าหมายในพื้นที่จอมเต
- เวลา 08.00 น. กองทัพไทยพยายามยึดคืนพื้นที่ปราสาทตาควาย แต่กองทัพกัมพูชาต่อสู้อย่างหนักและมุ่งมั่นที่จะป้องกันไม่ให้ฝ่ายไทยรุกรานละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา

พลโท มาลีกล่าวว่า “ในเรื่องนี้เป็นที่ทราบกันว่ากองทัพไทยได้ใช้ระเบิดคลัสเตอร์บอมบ์โจมตี และโจมตีดินแดนกัมพูชาอย่างผิดกฎหมาย การรุกรานครั้งนี้ทั้งโหดร้ายและไร้มนุษยธรรม ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงอนุสัญญาว่าด้วยระเบิดคลัสเตอร์บอมบ์ การใช้อาวุธดังกล่าวไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายและไร้มนุษยธรรมของการรุกรานของไทยเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยไม่เคารพกฎหมายและหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ”

พลโท มาลีอ้างอีกว่า กองทัพไทยได้ใช้เครื่องบินขับไล่ F-16 โจมตีบนปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นมรดกโลก ได้สร้างความเสียหายให้กับบางส่วนของปราสาทพระวิหาร นอกจากนี้ยังได้รุกราน ได้ทิ้งระเบิดและใช้อาวุธหนักในดินแดนกัมพูชา ทำให้ระเบิดตกใส่ชาวกัมพูชาผู้บริสุทธิ์ที่กำลังอพยพและสร้างความเสียหายแก่ปราสาทพระวิหาร ฯลฯ

“กัมพูชาขอเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศประณามไทยอย่างเด็ดขาดและเด็ดขาดต่อการกระทำที่ผิดกฎหมายของไทย และให้ฝ่ายไทยต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการละเมิดอย่างร้ายแรง” พลโท มาลีกล่าว

ขณะเดียวกัน ได้ย้ำว่ากัมพูชาขอเรียกร้องให้ไทยยุติการรุกรานดินแดนกัมพูชาโดยทันที ยุติการกระทำอันชั่วร้าย และถอนกำลังทหารออกจากดินแดนกัมพูชา ซึ่งทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น

พลโท มาลียืนยันว่ากัมพูชายังคงนโยบายป้องกันตนเองโดยมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายทางทหาร และไม่มุ่งเป้าไปที่สถานที่พลเรือนใดๆ

อย่างไรก็ตาม พลโท มาลียังไม่ได้กล่าวถึงกรณีที่ทหารกัมพูชาใช้จรวด BM-21 ยิงใส่โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน บ้านเรือนประชาชน และศูนย์พัฒนาชายแดนในประเทศไทย จนเป็นเหตุให้พลเรือนไทยเสียชีวิตแล้ว 12 รายแต่อย่างใด นอกจากกล่าวเพียงสั้นๆ ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (24 ก.ค.) ว่าข่าวของสื่อไทยมีความรวดเร็วก็จริงแต่ไม่น่าเชื่อถือ