IPU ประจำชาติไทย ประณามกัมพูชาใช้ความรุนแรงชายแดน ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรม ย้ำ ไทยไม่ยั่วยุ-ขอสงวนสิทธิป้องกันตน วอนประชาคมโลกจับตาอย่างใกล้ชิด
เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 25 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายนพดล อินนา สมาชิกวุฒิสภา และรองประธานคณะทำงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสหภาพรัฐสภา (IPU) แถลงในนามหน่วยประจำชาติไทยในสหภาพรัฐสภา ถึงกรณีความรุนแรงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า หน่วยประจำชาติไทยขอแสดงความกังวลอย่างยิ่ง และขอประณามการใช้ความรุนแรงของรัฐบาลกัมพูชาที่ส่งผลต่อชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยระบุว่า ประเทศไทยยึดมั่นในพันธกรณีระหว่างประเทศ ทั้งอนุสัญญาออตตาวา อนุสัญญาเจนีวา และกฎหมายมนุษยธรรมสากล ที่ห้ามการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลและการโจมตีเป้าหมายพลเรือนหรือโรงพยาบาลโดยเด็ดขาด พร้อมยืนยันว่า ไทยไม่ได้เริ่มใช้กำลังหรือกระทำการยั่วยุก่อน แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำจากกัมพูชาที่ใช้อาวุธหนักและกับระเบิดโจมตีพลเรือนไทยโดยไม่เลือก
“ไทยกระทำการเพื่อป้องกันตนเองและคุ้มครองประชาชน ซึ่งเป็นสิทธิชอบธรรมภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ” นายนพดลกล่าว พร้อมทั้งเรียกร้องให้กัมพูชายุติการกระทำที่เป็นปรปักษ์ทันที และให้ประชาคมระหว่างประเทศโดยเฉพาะ IPU เฝ้าระวังสถานการณ์และแสดงความวิตกอย่างจริงจัง
นายนพดล ยังกล่าวอีกว่า ประเทศไทยขอสงวนสิทธิในการดำเนินมาตรการที่จำเป็นและได้สัดส่วน เพื่อปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนตามกฎบัตรสหประชาชาติ และยังคงยึดมั่นในแนวทางสันติวิธี เปิดกว้างต่อการเจรจาในช่องทางทวิภาคี โดยความปลอดภัยของพลเมืองและโครงสร้างพื้นฐานต้องได้รับการคุ้มครอง
นายนพดล ยังเรียกร้องให้สหประชาชาติ อาเซียน และภาคีอนุสัญญาออตตาวา ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเร่งดำเนินมาตรการต่อผู้ละเมิดกฎหมายสากลให้รับผิดชอบ
“ประเทศไทยยืนยันเจตจำนงอันมั่นคงในการธำรงสันติภาพในภูมิภาค และเคารพหลักนิติธรรมตามกรอบของสหประชาชาติและอาเซียน รวมถึงความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ” นายนพดล กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ไทยเตรียมมาตรการยกระดับหรือไม่ เขาระบุว่า การแถลงนี้ถือเป็นหนึ่งในกลไกที่รัฐสภาจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ โดยอาศัยเวทีระหว่างประเทศเพิ่มความเข้าใจ และหากมีแนวโน้มต้องใช้มาตรการรุนแรงกว่านี้ เช่น การคว่ำบาตร ก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหารจะเป็นผู้ตัดสินใจต่อไป