xs
xsm
sm
md
lg

ลูก “ฮุนเซน” ปั่นเอง อ้างทหารไทยตั้งพระพุทธรูปช่องอานม้ามีเจตนายั่วยุ ปลุกคนกัมพูชาร่วมต่อสู้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ฮุนมานี” โพสต์เฟซบุ๊กอ้างทหารไทยชุดดำนำพระพุทธรูป 2 องค์ไปประดิษฐานไว้ที่บริเวณช่องอานม้า พื้นที่ขัดแย้ง มีเจตนายั่วยุ รุกรานอธิปไตยต่อเนื่อง เรียกร้องให้ชาวกัมพูชาทุกคนสามัคคีกันปกป้องเกียรติและบูรณภาพของดินแดน

จากกรณีที่วานนี้ (9 ก.ค.) สื่อกัมพูชาได้เผยแพร่วิดีโอคลิปการโต้เถียงกันระหว่างทหารกัมพูชากับทหารพรานของไทย บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี และพยายามชี้นำว่าทหารไทยเป็นฝ่ายรุกล้ำเขตแดนกัมพูชา ต่อมาปรากฏว่าในช่วงเย็นวันเดียวกัน เวลา 17.59. น. นายฮุนมานี รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงบริการสาธารณะ และประธานสหภาพสหพันธ์เยาวชนกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Many กล่าวหาทหารไทยได้ยั่วยุเพื่อก่อเหตุขัดแย้งกับกัมพูชา พร้อมเรียกร้องให้ชาวกัมพูชาทุกคนสามัคคีกันเพื่อปกป้องเกียรติและบูรณภาพของดินแดน

ข้อความในเฟซบุ๊กของนายฮุนมานีระบุว่า “ประชาชนชาวกัมพูชาได้เห็นพฤติกรรมและการกระทำต่างๆ ที่ทหารชุดดำของไทยพยายามยั่วยุ โดยการนำพระพุทธรูปไปตั้งในบริเวณแนวชายแดนที่กำลังมีข้อพิพาท การกระทำดังกล่าวและพฤติกรรมอุกอาจอื่นๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ยิ่งตอกย้ำให้ประชาชนชาวกัมพูชาทุกคนตระหนักว่า ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังปกป้องชาติ ประชาชนจะต้องเข้าใจว่าความเสี่ยงนั้นมีอยู่ตลอดเวลา ประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้มักแสดงออกว่าตนมีเหตุผลอันชอบธรรม แต่การกระทำที่แท้จริงกลับสวนทางกับคำกล่าวอ้างของพวกเขาโดยสิ้นเชิง พฤติกรรมเช่นนี้ไม่ได้แสดงถึงความตั้งใจในการผ่อนคลายสถานการณ์ กลับกัน กลับเป็นการยั่วยุและสร้างความตึงเครียด เพื่อหวังได้ประโยชน์

การกระทำและท่าทีของพวกเขาเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนถึงจุดยืนของกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาทุกอย่างด้วยสันติวิธี ตามที่สมเด็จเตโชฮุนเซน และสมเด็จบวรธิบดีฮุนมาเนตได้กล่าวย้ำมาโดยตลอด และในประเด็นเรื่องการปักปันเขตแดนกับฝ่ายไทย จำเป็นต้องใช้ทุกวิธีการที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของบันทึกข้อตกลงปี ค.ศ. 2000 ยกเว้นเฉพาะพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และบริเวณสามเหลี่ยมมรกต ซึ่งจำเป็นต้องใช้วิธีการสันติผ่านบุคคลที่สาม ได้แก่ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศที่กรุงเฮก (ICJ)

ด้วยเหตุนี้ ในฐานะประชาชนชาวกัมพูชาทุกคน และในฐานะกองกำลังปกป้องชาติ ประชาชนจะต้องตระหนักว่า ภัยคุกคาม การดูหมิ่น การยั่วยุ การรุกรานอธิปไตยของกัมพูชาโดยประเทศเพื่อนบ้านยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสถานการณ์ล่าสุดในช่วงเช้าของวันที่ 9 กรกฎาคม 2025 ได้ตอกย้ำอีกครั้งว่าเราจะต้องรวมพลังกันอย่างเป็นหนึ่งเดียว เพื่อปกป้องเกียรติภูมิของชาติ ปกป้องประเทศ และปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของเรา พร้อมทั้งสนับสนุนท่าทีของรัฐบาลในการแสวงหาทางออกโดยสันติ และผ่านศาลยุติธรรมระหว่างประเทศที่กรุงเฮก เพื่อให้ได้มาซึ่งการแก้ไขปัญหาเรื่องเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชาอย่างยั่งยืนถาวรต่อไป” นายฮุนมานีระบุ


อย่างไรก็ตาม เมื่อวานที่ผ่านมา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกได้ชี้แจงเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 09.00 น. โดยสื่อของฝ่ายกัมพูชาได้นำเสนอคลิปวิดีโอการโต้เถียงระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารไทยกับทหารกัมพูชา

จากการตรวจสอบของหน่วยที่เกี่ยวข้อง พบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณช่องอานม้า ตำบลโซง อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองร้อยทหารพราน 2310 ขณะกำลังพลประมาณ 7 นายกำลังจัดเตรียมสถานที่เพื่อรองรับกิจกรรมภายในของหน่วย และกิจกรรมการตรวจเยี่ยมของผู้บังคับบัญชา คาดว่าฝ่ายกัมพูชาเห็นว่าฝ่ายทหารไทยมีการปฏิบัติต่างไปจากวันปกติจึงอยากเข้ามาสังเกตการณ์ใกล้ๆ แต่เมื่อเข้าใกล้พื้นที่มากกว่าขอบเขตที่กำหนด ทหารไทยจึงแสดงตนเข้าชี้แจง และขอให้อยู่ในระยะที่เหมาะสม ทำให้เกิดการโต้เถียงกันด้วยวาจาตามที่ปรากฏ​ในคลิป แต่ทั้งสองฝ่ายได้มีการอธิบายทำความเข้าใจกันจนเป็นที่เข้าใจกันทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ บริเวณที่ฝ่ายไทยจัดกิจกรรมมิได้เป็นการรุกล้ำเข้าไปในเขตกัมพูชา ตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเช้าวันนี้ (10 ก.ค.) นายฮุนมาเนตได้อัดคลิปเสียงพูดปลุกระดมคนกัมพูชาเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว นำมาแชร์ในเฟซบุ๊ก Hun Many อีกครั้ง






กำลังโหลดความคิดเห็น