ไทย-กัมพูชาเดือด! ปม "ปราสาทตาเมือนธม" กองทัพกัมพูชาโวยทหารไทยนำ 150 นักปั่นบุกรุก ด้านกองทัพบกไทยโต้ ยันพื้นที่อธิปไตยไทย แจ้งแล้วล่วงหน้า ชี้ข้อตกลงเวลาเข้าชมใช้กับชาวกัมพูชาเท่านั้น พร้อมป้องอธิปไตยและยึดหลักสันติวิธี
จากกรณี ขแมร์ไทมส์รายงานสถานการณ์บริเวณปราสาทตาเมือนธม หนึ่งในพื้นที่พิพาทระหว่างไทย-กัมพูชาว่า กองทัพกัมพูชาโพสต์ผ่านบัญชีเฟซบุ๊กแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 07.30 น.ของวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน กรณีที่มีทหารไทย 3 นายได้นำนักปั่นจักรยานชาวไทยจำนวน 150 คน เข้าไปยังบริเวณปราสาทตาเมือนธมโดยไม่ได้แจ้งทางฝ่ายกัมพูชาล่วงหน้า
กองทัพกัมพูชาระบุว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างสองฝ่ายอย่างชัดเจน ซึ่งได้กำหนดเวลาเปิด-ปิดของบริเวณปราสาทไว้อย่างชัดเจน คือเปิดเวลา 09.00 น. และปิดเวลา 15.00 น. ข้อตกลงดังกล่าวยังระบุด้วยว่าในกรณีที่มีการร้องขอเลื่อนเวลาหรือมีการจัดกิจกรรมพิเศษใดๆ ทั้งสองฝ่ายจะต้องแจ้งให้ทราบและตกลงร่วมกันล่วงหน้า เพื่อให้เกิดการประสานงานกันอย่างราบรื่นและป้องกันความเข้าใจผิดใดๆ ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น
ต่อมามีรายงานว่าโฆษกกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาได้ออกมาพูดถึงกรณีดังกล่าว ว่ากัมพูชายืนยันว่าการกระทำดังกล่าวของนักปั่นจักรยาน 150 คนเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างทั้งสองฝ่ายอย่างชัดเจน พร้อมกับเน้นย้ำว่าปราสาทตาเมือนธมอยู่ในดินแดนของกัมพูชาและกองทัพกัมพูชามีการตอบสนองที่เหมาะสม เป็นมืออาชีพ และมีความรับผิดชอบสูง
ล่าสุดวันนี้ (23 มิ.ย.) เพจ "1กองทัพบก Royal Thai Army" ออกแถลงการณ์ ชี้แจงเพิ่มเติมต่อกรณีเหตุการณ์นักปั่นจักรยานเยือนปราสาทตาเมือนธม โดยได้ระบุข้อความว่า
"วันนี้ (23 มิถุนายน 2568) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงเพิ่มเติมกรณีที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชากล่าวถึงเหตุการณ์ที่คณะนักปั่นจักรยานชาวไทยเข้าเยี่ยมชมบริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. ประเด็นเรื่องอธิปไตยในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม
ฝ่ายไทยขอยืนยันอย่างชัดเจนว่าฝ่ายไทยใช้อำนาจอธิปไตยเหนือพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมมาโดยตลอด ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ยึดโยงกับหลักฐานภูมิศาสตร์และการบริหารพื้นที่โดยหน่วยงานราชการไทยอย่างต่อเนื่อง
2. ประเด็นข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดข้อตกลงและการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ
ตามที่ฝ่ายกัมพูชาเรียกร้องให้ฝ่ายไทยเคารพข้อตกลงที่มีอยู่ และกล่าวหาว่าฝ่ายไทยเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน กองทัพบกขอยืนยันว่าฝ่ายไทยเคารพต่อข้อตกลงและแนวทางความร่วมมือที่มีมาโดยต่อเนื่องเสมอมา ซึ่งที่ผ่านมากรณีที่มีข้อขัดแย้งในระดับพื้นที่ มักได้รับการแก้ไขผ่านกลไกหารือร่วมกันในพื้นที่อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งส่งผลให้หลายปัญหาคลี่คลายด้วยดี อย่างไรก็ดี ในช่วงต้นปีที่ผ่านมากลับพบว่าฝ่ายกัมพูชามีท่าทีลดความร่วมมือในการใช้กลไกความร่วมมือในลักษณะเดิมลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่อย่างไรก็ตามฝ่ายไทยยังคงมุ่งมั่นที่จะใช้แนวทางที่สร้างสรรค์ดังกล่าวอย่างเสมอมา
3. ประเด็นเรื่องการแจ้งล่วงหน้าแก่ฝ่ายกัมพูชา
โดยฝ่ายกัมพูชาปฏิเสธว่าไม่ได้รับการแจ้งใดๆ จากฝ่ายไทยก่อนนำคณะนักปั่นเข้าพื้นที่ ทั้งในช่องทางวาจาหรือทางราชการ ในเรื่องนี้ กองทัพบกขอยืนยันว่าฝ่ายไทยได้มีการแจ้งข้อมูลต่อชุดประสานงานของฝ่ายกัมพูชาที่ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันในพื้นที่แล้วล่วงหน้า
ทั้งนี้ การเข้าเยี่ยมชมของประชาชนไทยในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม สามารถเข้าเที่ยวชมโดยเสรีโดยไม่กำหนดเวลา สำหรับข้อตกลงเรื่องเวลาและเงื่อนไขในการเข้าเยี่ยมชมปราสาทนั้น ได้มีการตกลงกันไว้เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาเท่านั้น ซึ่งฝ่ายไทยได้อนุโลมให้ขึ้นมาท่องเที่ยวได้ในช่วงเวลา 09.0-15.00 น. พร้อมกันนั้น ทั้งสองฝ่ายยังตกลงร่วมกันให้จัดเจ้าหน้าที่มาอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวฝ่ายละไม่เกิน 5 คน
4. ประเด็นที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวหาว่าโฆษกกองทัพบกไทยให้ข้อมูลที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะการกล่าวถึงปัญหาบางส่วนอาจมีต้นตอมาจากความสัมพันธ์ภายในของกองทัพกัมพูชาเอง กองทัพบกขอยืนยันว่าการสื่อสารเพื่อให้สังคมได้รับทราบต่อกรณีเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นไปตามข้อมูลข้อเท็จจริงและหลักฐานที่มีที่ปรากฏ และไม่ได้มีการปกปิด หรือหาเหตุที่จะใช้เพื่อเบี่ยงเบนความผิดพลาดในเรื่องมีการละเมิดข้อตกลงระหว่างกัน อย่างที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด
นอกจากนี้โฆษกกองทัพบกยังได้กล่าวว่า กองทัพบกจะปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างดีที่สุด ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และตามกลไกของรัฐบาล พร้อมทั้งยึดหลักการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี ใช้กลไกความร่วมมือ และเคารพกติกาสากลอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาเสถียรภาพและสันติภาพตามแนวชายแดนร่วมกันอย่างยั่งยืน"