เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 ผศ. ดร.ทัณฑกานต์ ดวงรัตน์ รองอธิการบดีสายงานกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เปิดงานปฐมนิเทศ นักศึกษาทุน “ครอบครัวหัวกะทิ” ประจำปีการศึกษา 2568 ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น พร้อมปลุกพลังนักศึกษาใหม่กว่า 100 คนให้พร้อมเดินหน้าอย่างเต็มศักยภาพ โดยชี้ให้เห็นภาพแห่งความสำเร็จของรุ่นพี่ที่ใช้โอกาสจากทุนการศึกษาเป็นบันไดสู่ความภาคภูมิใจในชีวิต โดยมีคณาจารย์จากสายงานกิจการนักศึกษา และฝ่ายแนะแนวการศึกษา ตลอดจนรุ่นพี่ครอบครัวหัวกะทิ ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุม 6-1 ตึกอธิการบดี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
รองอธิการบดีสายงานกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) กล่าวต้อนรับนักศึกษาใหม่พร้อมทั้งได้ยกตัวอย่างของนักศึกษาทุนในรุ่นก่อนหน้า ที่ได้กลายเป็นผู้นำกิจกรรมหลักของมหาวิทยาลัย อาทิ ประธานนักศึกษา ผู้ดำเนินรายการระดับมหาวิทยาลัย และผู้ได้รับรางวัลระดับประเทศ โดยบางคนได้รับโอกาสฝึกงานกับบริษัทมหาชนพร้อมเงินเดือนตลอดหนึ่งปี ซึ่งเป็นผลจากความตั้งใจและการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ นักศึกษาทุนยังมีบทบาทสำคัญในกิจกรรมต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย เช่น พิธีกรหลักของงานสำคัญ การได้รับเลือกเป็นดาวมหาวิทยาลัย หรือการเข้าร่วมประกวดในเวทีภายนอก
“ในทุกปี นักศึกษาทุนของเรามีสัดส่วนได้รับรางวัลระดับประเทศมากกว่า 95% และยังมีอัตราการได้งานทำหลังสำเร็จการศึกษาสูงถึงเกือบ 100% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของมหาวิทยาลัยทั่วประเทศและแม้แต่มหาวิทยาลัยของรัฐ” ผศ. ดร.ทัณฑกานต์ กล่าว
พร้อมกันนี้ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเป็นนักศึกษาทุนที่ต้องไม่เพียงเรียนดี แต่ต้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์กรและสังคม ผ่านการทำกิจกรรม การสะสมชั่วโมงจิตอาสา และการบ่มเพาะทักษะจากประสบการณ์จริง โดยปีนี้ มหาวิทยาลัยกำหนดให้ทุกคนต้องทำงานอย่างน้อย 60 ชั่วโมงต่อปี โดยสามารถนับชั่วโมงจากกิจกรรมของคณะหรือมหาวิทยาลัย และจากสองหน่วยงานหลัก ได้แก่ ศูนย์แอดมิชชั่น (Admissions Center) และทีมแนะแนวการศึกษา ซึ่งนักศึกษาจะได้ฝึกฝนทักษะด้านการสื่อสาร การนำเสนอ และการทำงานร่วมกับผู้อื่น
“ประสบการณ์ที่คุณจะได้รับในรั้วมหาวิทยาลัยนี้ ไม่ใช่แค่คะแนนเกรด แต่คือทักษะชีวิต ความเป็นผู้นำ และเครือข่ายที่คุณจะใช้ได้ไปตลอดชีวิต” รองอธิการบดีสายงานกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ย้ำ
ทั้งนี้ ผศ. ดร.ทัณฑกานต์ ยังแนะนำบุคลากรสำคัญที่จะทำงานร่วมกับนักศึกษาทุนอย่างใกล้ชิด และอาจารย์ผู้บริหารในสายงานกิจกรรม พร้อมทั้งย้ำว่าทุกคนคือส่วนหนึ่งของครอบครัวหัวกะทิที่พร้อมผลักดันให้ไปถึงความสำเร็จอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตามรองอธิการบดีสายงานกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ยังได้เชิญชวนให้นักศึกษาทุกคนรักษาเอกลักษณ์ของความเป็น “ครอบครัวหัวกะทิ” ด้วยวัฒนธรรมที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง คือ “การไหว้ทักทาย” ซึ่งสะท้อนถึงความเคารพ ความเป็นพี่เป็นน้อง และความผูกพันของคนในครอบครัวทุน DPU พร้อมฝากกำลังใจและความเชื่อมั่นว่า “เมื่อถึงวันที่พวกคุณจบการศึกษา คุณจะภูมิใจในตัวเอง และรู้ว่าคุณไม่ได้แค่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แต่คุณเป็นหนึ่งในคนที่สร้างชื่อให้กับสถาบันแห่งนี้
ด้านนางสาวมีนา ไกรศาสตร์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขานิเทศศาสตร์ ในฐานะประธานนักศึกษาทุน “ครอบครัวหัวกะทิ” ประจำปีการศึกษา 2568 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ได้กล่าวเปิดใจอย่างอบอุ่นในงานปฐมนิเทศนักศึกษาทุนประจำปี โดยระบุว่า งานนี้ไม่เพียงเป็นกิจกรรมแนะนำตัวธรรมดา แต่คือพิธีต้อนรับน้องใหม่เข้าสู่ครอบครัวแห่งโอกาส ครอบครัวแห่งแรงบันดาลใจ และเครือข่ายคุณภาพอันเข้มแข็งของผู้รับทุนหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทุน “ครอบครัวหัวกะทิ” ทุน “ฮีโร่” ทุน “มหาวิทยาลัยพี่โรงเรียนน้อง” รวมถึงทุนด้านศิลปวัฒนธรรม ดนตรี และกีฬา
“ปีนี้มีนักศึกษาทุนกว่า 120 คนจากทั่วประเทศเข้าร่วมปฐมนิเทศ ซึ่งถือเป็นจำนวนที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากจุดเริ่มต้นหลักสิบในปีแรก สู่หลักร้อยในปีล่าสุด แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการมอบโอกาสและค้นหาเพชรเม็ดงามจากทุกภูมิภาค” นางสาวมีนา กล่าว
สำหรับแนวทางการคัดเลือกนักศึกษาทุน ประธานนักศึกษาทุน “ครอบครัวหัวกะทิ” ประจำปีการศึกษา 2568 ชี้ว่า มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญทั้งผลการเรียน ความสามารถด้านกิจกรรม ทัศนคติ และศักยภาพในการเติบโตเป็นบุคลากรคุณภาพในอนาคต “เราไม่ได้มองแค่เด็กที่เรียนเก่ง แต่เรามองหาเด็กที่มีใจ มีฝัน และพร้อมพัฒนา บางคนอาจไม่มีทุนทรัพย์ แต่มีคุณค่าเกินตัว และเราต้องการเปิดโอกาสให้พวกเขาได้เติบโต”
หนึ่งในเอกลักษณ์ของ “ครอบครัวหัวกะทิ” คือการดูแลแบบพี่ดูแลน้อง การส่งต่อแรงบันดาลใจ และการร่วมสร้างคอนเน็กชันระหว่างรุ่นสู่รุ่น ซึ่งไม่เพียงสร้างมิตรภาพในรั้วมหาวิทยาลัย แต่ยังเป็นต้นทุนทางสังคมที่ติดตัวไปตลอดชีวิต
“ทุนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของค่าเล่าเรียนฟรี แต่คือการได้อยู่ในเครือข่ายที่มีพลัง ได้พัฒนาทักษะ ได้เรียนรู้จากรุ่นพี่ และที่สำคัญคือได้เติบโตแบบมีคนคอยประคอง ทั้งอาจารย์และเพื่อนพี่น้องในครอบครัวหัวกะทิ” ประธานนักศึกษาทุน “ครอบครัวหัวกะทิ” ประจำปีการศึกษา 2568 กล่าว
เมื่อถูกถามถึงความคาดหวังต่อน้องทุนรุ่นใหม่ นางสาวมีนา เน้นว่า มหาวิทยาลัยไม่ได้บังคับให้นักศึกษาทุนต้องตอบแทนด้วยการทำงานให้หลังเรียนจบ แต่สิ่งที่น่าประทับใจคือ หลายคนเลือกกลับมาช่วยเหลืองานมหาวิทยาลัยอย่างสมัครใจ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นพิธีกร รับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง หรือแบ่งปันประสบการณ์ให้รุ่นน้องโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน อย่างพี่ ๆ รุ่นก่อน เช่น แดนนี่ นักแสดงช่อง 3 หรืออินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังที่เคยรับทุน ก็ล้วนเติบโตในสายอาชีพของตนอย่างงดงาม เริ่มต้นจากศูนย์เหมือนพวกเราทุกคน และวันนี้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับรุ่นถัดไป
อย่างไรก็ตามนางสาวมีนา ได้ฝากข้อคิดถึงน้องทุนรุ่นใหม่ว่า ช่วงเวลาระหว่างเรียนคือช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดในชีวิต อยากให้ใช้เวลาให้คุ้มค่า ทั้งในการเรียนและทำกิจกรรม พัฒนาตัวเองให้มากที่สุด เพราะเมื่อก้าวออกไปทำงานแล้ว เราจะไม่มีโอกาสแบบนี้อีก การได้คอนเน็กชัน ความสัมพันธ์ และประสบการณ์ในรั้วมหาวิทยาลัยคือสมบัติที่ไม่มีใครพรากไปได้
ขณะที่นางสาวปฐมากรณ์ กุลภา หรือ “น้องเรียม” นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนราชวินิตมัธยม กรุงเทพมหานคร เปิดเผยด้วยรอยยิ้มว่า เธอได้รับทุนการศึกษาจากโครงการ “พี่โรงเรียนน้อง” ของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ซึ่งมอบทุนให้กับนักเรียนเพียงหนึ่งคนต่อโรงเรียน โดยผ่านการคัดเลือกจากเกณฑ์ที่เข้มข้น ทั้งผลการเรียน (เกรดเฉลี่ย 3.27) พอร์ตโฟลิโอ และการสัมภาษณ์
น้องเรียมตัดสินใจเลือกศึกษาต่อใน วิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ (College of Integrative Medicine and Wellness – CIMw) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เพราะมีความสนใจในเรื่องสุขภาพและความงามเป็นพิเศษ โดยเธอวางแผนจะต่อยอดองค์ความรู้ไปสู่การสร้างแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเองในอนาคต และเตรียมเริ่มต้นจากการฝึกงานกับบริษัทด้านความงามเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากที่สุด
“หนูอยากทำแบรนด์เครื่องสำอางที่ตอบโจทย์วัยรุ่นยุคใหม่ เช่น ลิปสติกหรือเมคอัพที่มีฟังก์ชันใหม่ ๆ ค่ะ อยากเริ่มจากการฝึกงานในบริษัทก่อน เพื่อเรียนรู้ให้มากที่สุด แล้วค่อยต่อยอดเป็นแบรนด์ของตัวเองในอนาคต” น้องเรียม กล่าว
สำหรับแรงบันดาลใจในการเลือกเรียนที่ DPU เกิดจากการเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนวในโรงเรียน ซึ่งมีตัวแทนจากมหาวิทยาลัยมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับคณะ หลักสูตร และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทำให้สนใจและศึกษาเพิ่มเติมด้วยตนเอง จนตัดสินใจเลือก DPU เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางอนาคต
“ครอบครัวดีใจมากที่รู้ว่าหนูได้รับทุนการศึกษา ก็อยากใช้โอกาสนี้ให้คุ้มค่าที่สุดค่ะ ตั้งใจว่าจะเรียนให้ดีที่สุดตลอด 4 ปี และร่วมกิจกรรมของมหาวิทยาลัยเต็มที่ เพื่อพัฒนาตัวเองทั้งด้านวิชาการและประสบการณ์ชีวิตค่ะ ต้องขอขอบคุณโครงการดีๆ จากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ที่มีโครงการดีๆ แบบนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องทุกปี ทำให้ตัวหนูและเพื่อนๆ อีกหลายคนได้มีโอกาสดีๆ แบบนี้ ” น้องเรียม กล่าวทิ้งท้าย