คณะนิเทศศาสตร์ DPU ต้อนรับ "จูดี้" อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง แชร์ประสบการณ์สร้างคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์ให้ไวรัส พร้อมแนะแนวทางพัฒนาทักษะเตรียมตัวเข้าสู่โลกคอนเทนต์ครีเอเตอร์ สร้างแรงบันดาลใจให้นักศึกษา
หลักสูตรการสร้างสรรค์ดิจิทัลคอนเทนต์และสื่อ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ได้จัดกิจกรรมพิเศษต้อนรับวิทยากรรับเชิญ คุณจูดี้ เดี่ยว จารุกิตติ์ อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังแห่งเมืองไทย ในฐานะเพื่อนชาวไทยของคัลแลน-พี่จองและน้องแดน มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ที่น่าสนใจในหัวข้อ “จากตัวตนสู่ผลงานสร้างคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์ให้ไวรัส” เพื่อเพิ่มพูนทักษะความรู้ให้แก่นักศึกษาและสร้างแรงบันดาลใจในการเตรียมพร้อมก้าวเข้าสู่โลกแห่งการทำงานด้วยความมั่นใจและมีศักยภาพ โดยมี ผศ.ศิวนารถ หงษ์ประยูร คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ อาจารย์ สิญาทิพย์ เพี้ยนภักตร์ รองคณบดีคณะนิเทศศาสตร์ ตลอดจนคณาจารย์และนักศึกษาร่วมต้อนรับอย่างอบอุ่น ณ ห้องประชุมสนมสุทธิพิทักษ์อนุสรณ์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
ผศ.ศิวนารถ หงษ์ประยูร คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ เปิดเผยว่า กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนในวิชา DI320 การผลิตและหลังการผลิตดิจิทัลคอนเทนต์ 1 ซึ่งมุ่งเน้นให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงของผู้เชี่ยวชาญในสายงานดิจิทัลคอนเทนต์ พร้อมทั้งสอดคล้องกับแผนการเปิดตัว หลักสูตรใหม่ด้านอินฟลูเอนเซอร์ ที่คณะกำลังพัฒนาขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงงานยุคใหม่
กิจกรรมนี้ยังถือเป็นส่วนหนึ่งของ กลยุทธ์ Personalization Activity ที่คณะนิเทศศาสตร์มุ่งมั่นพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความสนใจเฉพาะตัวของนักศึกษา โดยออกแบบกิจกรรมที่ช่วยให้นักศึกษาได้ค้นพบศักยภาพในตัวเองและเพิ่มพูนทักษะที่จำเป็นสำหรับสายงานคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเตรียมตัวสู่ความสำเร็จในอนาคต และทำให้นักศึกษาสามารถสร้างรายได้จากคอนเทนต์ตั้งแต่ปี 1 ตามกลยุทธ์ของคณะ
“หัวใจสำคัญของกิจกรรมนี้คือการช่วยให้นักศึกษาได้เห็นถึงความสำคัญของการดึงตัวตนและศักยภาพเฉพาะตัวออกมาใช้ในการสร้างคอนเทนต์ นอกจากนี้ยังช่วยจุดประกายให้นักศึกษามองเห็นโอกาสในการพัฒนาตัวเองและสร้างความสำเร็จในสายงานที่ตนใฝ่ฝัน ตั้งแต่ระหว่างการเรียนในมหาวิทยาลัย” คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ กล่าว
ด้านคุณจูดี้ เดี่ยว จารุกิตติ์ กล่าวถึงการร่วมกิจกรรมครั้งนี้ว่า ตนมีความสุขที่ได้มาเป็นวิทยากร ได้กลับมาทำอะไรใหม่ๆ มาเติมไฟและมาเติมความฝันให้กับตัวเอง เพราะตนมีความฝันที่อยากเป็นดารานักแสดงและพิธีกร จึงได้ฝึกฝนและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ขยันเสพข่าวและอัพเดทเทรนด์โลก เปิดติ๊กต็อกเพื่อให้คนมาสนใจ จนได้มาถึงจุดนี้ เมื่อเป็นคนมีชื่อเสียงแล้วมีความสุขมาก ตนก็ไม่ได้ยึดติดกับชื่อเสียงหรือความร่ำรวย ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเครื่องประดับและแบรนด์เนม ไม่ออกรถแต่จะนั่งมอเตอร์ไซค์และรถไฟฟ้า เมื่อเวลาโพสต์ในสื่อหลักก็ไม่โชว์ในสิ่งที่มี เพราะสิ่งเหล่านี้เทียบไม่ได้กับสิ่งที่รอมาตลอด 24 ปี คือ “ชื่อเสียง”
คุณจูดี้ ได้ให้มุมมองถึงการทำคอนเทนต์ว่า ไม่ใช่แค่การผลิตคลิปหรือโพสต์ตามกรอบที่วางไว้ แต่เป็นการใช้ชีวิตจริงและใส่ความสนุกสนานในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่คนดูสามารถสัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติและความจริงใจ โดยไม่ต้องมีสคริปต์หรือการเตรียมตัวล่วงหน้ามาก่อน หนึ่งในคลิปที่ทำให้ได้รับความนิยมคือ "หักอ้อย" ซึ่งกลายเป็นไวรัล และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มีคนติดตามมากขึ้น
“ความพิเศษของการทำคอนเทนต์คือการถ่ายทำแบบสด ๆ ไม่ได้วางแผนว่าจะทำอะไรไว้ล่วงหน้า ทุกอย่างเกิดขึ้นจากสถานการณ์จริง เช่น ล่าสุดไปดูลิเกที่ จ.นครสวรรค์ ต้องถ่ายทำจริงตลอดทั้งวัน 12 ชั่วโมง ไม่มีการคาดเดาว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง ทั้งที่พัก ร้านอาหาร ซึ่งทุกอย่างเกิดขึ้นจากการค้นหาหน้างาน จึงเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความสดใหม่และความเป็นธรรมชาติ” อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังแห่งเมืองไทย กล่าว
ทั้งนี้การสร้างคอนเทนต์ที่ดีในมุมมองของคุณจูดี้ คือการทำในสิ่งที่ตนเองรักและมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว การทำอาหาร หรือการสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจให้กับผู้ชม โดยไม่จำเป็นต้องมุ่งหวังผลตอบแทนจากการขายสินค้าหรือโปรโมตสินค้า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการใส่ใจในรายละเอียดและการครีเอทคอนเทนต์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ดูเป็นธรรมชาติ และสนุกสนาน ทำให้ผู้ชมสามารถเข้าถึงและติดตามได้อย่างยาวนาน
ในช่วงท้ายของการบรรยาย คุณจูดี้ ได้ฝากข้อคิดสำคัญให้น้องๆ นักศึกษาว่า ควรใช้เวลาในรั้วมหาวิทยาลัยให้เกิดประโยชน์สูงสุด พัฒนาตนเองว่าอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมตัวสู่ความสำเร็จในอาชีพ พร้อมทั้งแนะนำให้นักศึกษายึดคุณสมบัติ 2 เรื่อง คือ ความอดทนและความตั้งใจ เพราะความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน ทุกสิ่งล้วนต้องการเวลา ความพยายาม
นอกจากนี้ยังแนะนำนักศึกษาให้นำความรู้และประสบการณ์จากมหาวิทยาลัยไปต่อยอดในชีวิตการทำงาน เพราะการทำงานในองค์กรจริงต้องมีความรับผิดชอบและต้องปรับตัวสูง จึงควรใช้เวลาที่มีอยู่ในมหาวิทยาลัยเพื่อพัฒนาทักษะที่จำเป็นทั้งในด้านวิชาการและการทำงานเป็นทีม โดยย้ำว่า "สิ่งที่ได้ลงทุนในวันนี้ จะส่งผลลัพธ์ที่คุ้มค่าในอนาคต" พร้อมทั้งให้กำลังใจให้นักศึกษาให้มุ่งมั่นและอดทนจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายของตัวเอง ความพยายามในวันนี้จะนำไปสู่ความสำเร็จในอนาคตอย่างแน่นอน
