xs
xsm
sm
md
lg

ทัพนักกีฬา DPU มุ่งหน้าสู่ "ธรรมศาสตร์เกมส์ 2025" ปักหมุดรอบ 4 ทีมสุดท้าย พร้อมลุ้นคว้าชัยเหรียญทองในกีฬาที่มุ่งเน้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลังจากฝึกซ้อมอย่างหนักมาหลายเดือน ทัพนักกีฬาจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) กว่า 60 ชีวิต พร้อมท้าชิงชัยในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 50 "ธรรมศาสตร์เกมส์ 2025" ซึ่งจัดขึ้น ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระหว่างวันที่ 9-18 มกราคม 2568 โดยนักกีฬาทุกคนเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและ พร้อมจะใช้ทักษะที่ฝึกฝนมา และ โดยเฉพาะในกีฬา วอลเลย์บอลหญิง บาสเกตบอลชาย และคอร์ฟบอล ที่ DPU ได้ทั้งโค้ชและนักกีฬาฝีมือดีจากลีกอาชีพและทีมชาติมาร่วมเสริมทัพ

ภายใต้การสนับสนุนอย่างเต็มที่จากมหาวิทยาลัยที่พร้อมผลักดันทุกขีดจำกัด และด้วยแนวคิดที่มุ่งมั่นจะสร้างนักกีฬาให้เป็นเลิศทั้งในสังเวียนและในห้องเรียน ทัพนักกีฬา DPU พร้อมที่จะระเบิดพลังตั้งเป้าหมาย “ทะยานสู่รอบ 4 ทีมสุดท้าย” และ “คว้าชัยชนะ 3 เหรียญทอง” แสดงศักยภาพของนักกีฬามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ในการแข่งขันระดับประเทศ


DPU United รวมใจก้าวไป...ด้วยกัน

บรรยากาศก่อนออกศึกเต็มไปด้วยความคึกคัก โดยในช่วงเช้าของวันที่ 7 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ทัพนักกีฬามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้รวมตัวกันโดยทาง ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ได้พูดคุย ให้กำลังใจ เติมขวัญและกำลังใจ พร้อมทั้งถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน โดยร่วมกันแสดงสัญลักษณ์แห่งความมุ่งมั่นด้วยการชูสองนิ้วเป็นสัญลักษณ์ Victory

ดร.ดาริกา ได้กล่าวชื่นชมและแสดงความยินดีกับนักกีฬาที่ได้รับเลือกเป็นตัวแทนมหาวิทยาลัย และเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่น ความมีวินัย และความเสียสละของทุกคน นอกจากนี้ ดร.ดาริกา ยังกล่าวว่า การแข่งขันครั้งนี้ไม่เพียงเป็นเวทีแสดงความสามารถด้านกีฬา แต่ยังเป็นโอกาสในการสร้างชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัย สร้างมิตรภาพและความสามัคคีกับนักกีฬาจากสถาบันอื่นๆ และพร้อมกันนั้นยังได้อวยพรให้นักกีฬาให้ลงสนามด้วยความมั่นใจ รักษาจิตวิญญาณของนักกีฬา และยึดมั่นในน้ำใจนักกีฬา ซึ่งไม่ว่าผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร อาจารย์และมหาวิทยาลัยภูมิใจในตัวทุกคนเสมอ

“ขอให้ทุกคนโชว์สกิลที่ฝึกซ้อมมาอย่างเต็มที่ สร้างมิตรภาพ คว้าโอกาสใหม่ๆ เปิดประสบการณ์แลกเปลี่ยนฝีมือกับเพื่อนๆ ต่างมหาวิทยาลัย และลงสนามด้วยความมั่นใจ มีน้ำใจนักกีฬา สำคัญที่สุดผลเป็นอย่างไร DPU ภูมิใจเสมอ”

นอกจากนี้ทัพนักกีฬายังได้เสริมพลังใจก่อนเดินทาง โดยได้ร่วมกันได้ขอกำลังใจจาก อนุสาวรีย์ ดร.ไสว สุทธิพิทักษ์ และ อ.สนั่น เกตุทัต รวมถึงสักการะ องค์พระสิทธิธาดา เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของทัพนักกีฬามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ที่ทำเป็นประจำทุกปี


“4 ทีมสุดท้าย” เป้าหมายดวลฝีมือ

สำหรับเป้าหมายและการเตรียมความพร้อมชิงชัย ผศ. ดร.วันวร จะนู ผู้เชี่ยวชาญพิเศษอาวุโสGeneral Support & Services มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) และอาจารย์ที่ปรึกษาทัพนักกีฬา เปิดเผยว่า การแข่งครั้งนี้มหาวิทยาลัยส่งทัพนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 8 ประเภทกีฬา ประกอบด้วย วอลเลย์บอลทีมหญิง บาสเกตบอลทีมหญิงและชาย คอร์ฟบอล เทควันโด ยูยิตสู คาราเต้ และดาบไทย ทุกคนตั้งใจซ้อมอย่างหนักเพื่อทำผลงานให้ดีที่สุด โดยแม้เราจะตั้งเป้าหมายหลักทะลุรอบ 4 ทีมสุดท้าย แต่เราก็จะพยายามอย่างเต็มที่ในทุกนัดการแข่งขันเพื่อคว้าเหรียญรางวัลทองกลับมาให้มหาวิทยาลัย โดยเฉพาะในกีฬาที่เราให้ความสำคัญอย่าง อาทิ กีฬาวอลเลย์บอลหญิง บาสเกตบอลชาย และคอร์ฟบอล

“ปรัชญาการทำทีมของเราแตกต่างจากที่อื่น ในส่วนของกีฬาเพื่อความเป็นเลิศส่วนแรกนั้น ทีมที่จัดส่งจึงไม่ได้เยอะ แต่ว่าเป็นทีมคุณภาพทั้งหมด โดยเราได้ตรวจสอบและคัดเลือกนักกีฬาที่มีฝีมือในระดับที่สามารถแข่งขัน และมีโอกาสได้รับเหรียญรางวัล”

ผศ. ดร.วันวร บอกอีกว่า นักกีฬาส่วนใหญ่ของมหาวิทยาลัยยังเป็นนักกีฬาระดับสโมสรที่มีประสบการณ์การแข่งขันตลอดทั้งปี ซึ่งได้รับการฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น ทั้งจากสโมสรและมหาวิทยาลัย นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังมีความร่วมมือกับสโมสรกีฬาต่างๆ มากว่า 20 ปี ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อนักกีฬาอย่างมาก เช่น ทีมวอลเลย์บอลหญิงร่วมมือกับสโมสรทีมนครนนท์ และทีมบาสเกตบอลร่วมมือกับสโมสรไฮเทค โดยโค้ชจากสโมสรเหล่านี้จะมาช่วยเป็นโค้ชติวแบบเข้มข้นและเสริมเทคนิคให้กับนักกีฬาในการสู้ศึกดังกล่าว

“เราเป็นพันธมิตรกัน และผมก็เป็นทั้งโค้ชของ DPU และสโมสรนครนนท์ เพื่อนที่เป็นโค้ชเขาก็ตามกันมาช่วย” โค้ชสุบรรณ ผัวะทอง หัวหน้าผู้ฝึกสอนซึ่งเป็นอดีตโค้ชทีมชาติและโค้ชทีมนครนนท์ กล่าวแซมยิ้มพร้อมเล่าต่อว่า ทีมวอลเลย์บอลหญิงมีความพร้อม 80% แม้จะมีอุปสรรคในการรวมทีมช่วงสั้นๆ เพราะนักกีฬาต้องไปแข่งในลีกอาชีพ แต่ด้วยความที่ส่วนใหญ่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่ระดับมัธยม ทำให้การปรับตัวไม่ยากนัก

อีกทั้งปัจจุบันทีมยังได้รับการเสริมทัพด้วยผู้เล่นจากทีมชาติชุดใหญ่ที่เพิ่งกลับจากประเทศเวียดนาม มาช่วยเพิ่มศักยภาพของทีมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทำให้เป้าหมายในการพิชิตชัยเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายและชิงชนะเลิศนั้นก็ไม่ได้ไกลเกินเอื้อม

“พูดง่ายๆ ครั้งนี้เรามีปืนใหญ่ คอยตบทำแต้ม” น้องกีกี้ หรือ นางสาวเกวลิน เชื้อเมืองพาน นักศึกษาชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี หลักสูตรโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน มือเซตประจำหัวเสาที่พาทีมเอาชนะคู่แข่งเบอร์ต้นในรายการอุดมศึกษาเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กล่าวสมทบถึงศักยภาพทีมที่พร้อมทำผลงานได้ดีขึ้นกว่าเดิม


อย่างไรก็ตามนอกจากทีมวอลเลย์บอลหญิงแล้ว มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ยังมีทีมคอร์ฟบอลชายและบาสเกตบอลที่น่าจับตามอง โดยนายพงศ์ภรณ์ เรือนก้อน หรือ น้องบาส ตัวแทนนักกีฬาที่ลงแข่งในทั้ง 2 ประเภท บอกว่าทีมตั้งเป้าหมายที่จะคว้าเหรียญทองในการแข่งขันครั้งนี้เช่นกัน โดยคอร์ฟบอลหลังจากที่พลาดท่าแพ้ให้กับ มศว. ไปเพียงแต้มเดียวเมื่อปีที่แล้ว ทีมได้มุ่งเน้นการฝึกซ้อมเรื่องกติกาและความแม่นยำในการเล่น ส่วนบาสเกตบอลเองก็ได้เสริมเติมในเรื่องเทคนิคของการทำแต้มเป็นหลัก

ขณะที่กีฬาประเภทเดี่ยว น้องโอ๊ค หรือ นางสาวอัยลดา วิภาสรัตนากร นักกีฬาเทควันโดหญิงเดี่ยว รุ่น 46 กิโลกรัม เจ้าของเหรียญทองจากปีที่แล้วก็ได้เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้อีกครั้ง โดยมีเป้าหมายที่จะครองแชมป์สมัยที่ 2 โดยน้องโอ๊คได้เตรียมตัวและฝึกซ้อมอย่างหนักตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา และรู้สึกกดดันเนื่องจากต้องการรักษาแชมป์ให้ได้

“การแข่งขันปีนี้ค่อนข้างกดดัน เพราะการที่เราเคยได้เหรียญทองมาแล้ว และต้องการอยากครองแชมป์เป็นอะไรที่ต้องตั้งใจมาก ปีนี้จึงได้ฝึกซ้อมค่อนข้างหนัก และพยายามเรียนรู้เทคนิควิธีการเอาชนะคู่แข่ง วันนี้ก็รู้สึกดีใจที่ได้รับกำลังใจจากท่านอธิการบดี และได้เป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยในการลงแข่งขัน ในการสร้างชื่อเสียงให้มหาวิทยาลัย” น้องโอ๊ค กล่าว


กีฬาเพื่อพัฒนา “ไม่ยึดติดชัยชนะ”

“ไม่ว่าจะเหรียญทองหรือการเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย แต่สุดท้ายเราก็ไม่ยึดติด สิ่งที่เรามุ่งเน้นคือการพัฒนานักกีฬาให้ก้าวข้ามขีดจำกัด และเล่นกีฬาได้อย่างมั่นใจ” โค้ชสน หรือ อาจารย์สนธยา แช่ม ผู้ชำนาญการด้านกีฬาและผู้ดูแลภาพรวมของนักกีฬา มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ระบุ เป้าหมายสำคัญของมหาวิทยาลัยอีกหนึ่งอย่าง ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่การส่งนักกีฬาไปแข่งขัน แต่กำลังสร้างอนาคตให้นักกีฬาควบคู่ไปกับการสร้างชื่อเสียงให้แก่มหาวิทยาลัย โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาพร้อมกับการศึกษา เพื่อให้พวกเขาสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จได้ทั้งในและนอกสนามแข่งขัน

“เพราะวิธีคิด ความรู้ และทัศนคติที่ดี จะเป็นสิ่งที่ติดตัวนักกีฬาไปตลอดชีวิตโดยไม่ต้องพึ่งพาการวางแผนจากโค้ชตลอดเวลา นอกจากนี้ยังเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้นักกีฬาสามารถก้าวหน้าในชีวิตได้ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรก็ตาม”

โดยจากตัวอย่างที่ผ่านมา นักกีฬาของมหาวิทยาลัยสามารถสร้างความสำเร็จได้ทั้งในและนอกสนาม เช่น นักบาสเกตบอลที่ผันตัวไปเป็นนายแบบ นักวอลเลย์บอลที่ไปทำงานในองค์กรชั้นนำ หรือ ได้ใช้ความรู้ความสามารถด้านกีฬาไปจัดการแข่งขันและสอนกีฬา เรายังมีนักศึกษากีฬาที่จบด้านนิเทศศาสตร์ แล้วไปเป็นผู้สื่อข่าวกีฬา ซึ่งเป็นสายงานด้าน Sport Entertainment หรืออุตสาหกรรมกีฬาและความบันเทิงที่กำลังเติบโตยิ่งขึ้นในปัจจุบัน

ผศ.ดร.วันวร ผู้เชี่ยวชาญพิเศษอาวุโสของ DPU ยังได้กล่าวสรุปพร้อมย้ำว่า มหาวิทยาลัยให้การสนับสนุนนักกีฬาอย่างเต็มที่ ทั้งด้านการฝึกซ้อม งบประมาณ และสวัสดิการ อีกทั้งยังสนับสนุนให้นักกีฬาเชื่อมโยงความรู้ที่ได้จากการเรียนกับทักษะทางกีฬา เพื่อให้สามารถนำไปใช้ในการทำงานได้จริง นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังสร้างความร่วมมือกับสโมสรกีฬาต่างๆ เพื่อให้นักกีฬามีประสบการณ์การแข่งขันในระดับมืออาชีพ พร้อมกับได้รับเงินเดือนในระหว่างที่ศึกษา ทั้งนี้ด้วยปรัชญาในการสนับสนุนกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ โดยไม่มุ่งเน้นเพียงแค่ชัยชนะ แต่ให้ความสำคัญกับการนำทักษะทางกีฬาไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพในอนาคต

โดยเฉพาะทักษะการทำงานเป็นทีม ผศ. ดร.วันวร เน้นว่า เป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยส่งเสริมตาม DNA ขององค์กร ต้องการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการพัฒนาของนักกีฬา โดยให้ความสำคัญกับการมีวินัย ความรับผิดชอบ และการมีทัศนคติที่ดี เพื่อสร้างทัพนักกีฬาที่มีคุณภาพและเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป

“การแข่งขันในครั้งนี้ถ้าเราสามารถทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ จะเป็นเหมือนบทพิสูจน์ให้คนได้เห็นว่า ‘กีฬากับความรู้ วิชาการ’ สามารถไปด้วยกันควบคู่กัน และสร้างความเป็นเลิศได้อย่างลงตัว”






กำลังโหลดความคิดเห็น