คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จัดการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ "Cover Dance เต้นล่าฝัน สนั่นมอ Season 2" เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงความสามารถด้านการเต้น และเป็นพื้นที่ที่สร้างแรงบันดาลใจ และพัฒนาทักษะต่างๆ อาทิ การสร้างเครือข่าย ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในโลกปัจจุบัน โดยมีนักเรียนมัธยมปลายจากทั่วประเทศและนักศึกษามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เข้าร่วมประชันความสามารถกันอย่างคับคั่ง ณ ห้องประชุมปรีดี พนมยงค์ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา
สำหรับรูปแบบการแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นมัธยมศึกษา และ รุ่นนักศึกษา DPU โดยมีกติกาที่กำหนดให้ทีมจากรุ่นมัธยมต้องมีสมาชิกที่เป็นนักเรียนมัธยมอย่างน้อย 70% และทีมจากรุ่นนักศึกษาจะต้องมีสมาชิกจากคณะนิเทศศาสตร์อย่างน้อย 1 คน นอกจากนี้ยังไม่จำกัดแนวเพลงในการแข่งขัน โดยผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัลจำนวน 10,000 บาท พร้อมทุนการศึกษาสำหรับผู้ชนะเลิศในรุ่นมัธยม 50% ตลอดหลักสูตร จากคณะนิเทศศาสตร์ รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
ผศ. ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู รองอธิการบดี สายงานวิชาการ ประธานในพิธีกล่าวเปิดงานว่า การเต้น Cover Dance มีประโยชน์มากกว่าที่หลายคนคิด เพราะนอกจากจะช่วยฝึกฝนทักษะการเต้นแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ การทำงานเป็นทีม และยังสามารถต่อยอดไปสู่อาชีพได้ในอนาคต
ผศ.ศิวนารถ หงษ์ประยูร คณบดี คณะนิเทศศาสตร์ กล่าวเสริมว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา ได้แสดงความสามารถ และยังเป็นการส่งเสริมให้ทุกคนได้พัฒนาตนเองในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านการสร้างสรรค์คอนเทนต์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในยุคปัจจุบันและเป็นอาชีพที่ต้องการของตลาด
อาจารย์สิญาทิพย์ เพี้ยนภักตร์ รองคณบดี คณะนิเทศศาสตร์ และผู้ดูแลโครงการ เปิดเผยความสำเร็จว่า กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เปิดพื้นที่ให้เด็กได้แสดงความสามารถ แต่ยังเปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้และพัฒนาตนเอง โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเล่าเรื่องผ่านการเต้น การสื่อสาร และความคิดสร้างสรรค์ คณะนิเทศศาสตร์ยังมุ่งเน้นให้ผู้เข้าแข่งขันได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะผ่านกิจกรรม Workshop ที่จัดขึ้น โดยเชิญโค้ชและนักออกแบบท่าเต้นอันดับต้นๆ ของเมืองไทยมาเป็นวิทยากร อาทิ พี่คิม นักเต้น ออกแบบท่าเต้นและ Choreographer ชื่อดังในระดับประเทศ พี่แชมป์ ผู้บริหาร DP Dance Studio และแชมป์โลกเวทีเกาหลีใต้ และพี่วุฒิโตะ ผู้กำกับโชว์มือหนึ่ง ตัวแทนไทยแชมป์ AGC World Championship 2023 เพื่อดึงศักยภาพของผู้เข้าแข่งขัน รวมถึงสร้างเครือข่ายและแรงบันดาลใจให้นักเรียนและนักศึกษา ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเอง
อาจารย์สิญาทิพย์ ยังกล่าวอีกว่า การแข่งขันครั้งนี้เป็นเวทีแรกสำหรับเด็กหลายๆ คนที่ไม่เคยมีโอกาสได้ประกวดมาก่อน โดยโจทย์การแข่งขันในปีนี้คือ "คริสต์มาส" ทำให้น้องๆ ได้เรียนรู้การออกแบบท่าเต้น การพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ โดยใช้การเล่าเรื่องผ่านการสื่อสารด้วยการเต้น ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่สามารถสื่อสารผ่านร่างกาย สายตา และการเคลื่อนไหว ทำให้ผู้ชมเข้าใจสิ่งที่ต้องการสื่อ
“นอกจากนี้คณะนิเทศฯ ยังมี Dance Club ที่เป็นศูนย์รวมของนักศึกษาที่รักการเต้น ซึ่งทางมหาวิทยาลัยสนับสนุนและส่งเสริมให้เด็กๆ ได้มีโอกาสในการหารายได้จากการเต้นระหว่างเรียน และต่อยอดสู่อาชีพ เช่น นักออกแบบท่าเต้น ผู้กำกับโชว์ ซึ่งเป็นการเพิ่มพูนทักษะที่หลากหลาย โดยการดึงองค์กรภายนอกมาจ้างนักศึกษา ไปแสดงในงานต่างๆ และรายได้ทั้งหมดมอบให้นักศึกษา ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่า นักศึกษา DPU เราสามารถสร้างรายได้จากสิ่งที่ตนเองรักได้จริง อีกทั้งยังช่วยสร้างความมั่นใจ ความภาคภูมิใจในความสามารถของตนเอง และยังเป็นการสร้างเครือข่ายระหว่างนักศึกษาและผู้ที่อยู่ในวงการเต้นด้วยกัน”
นายชัชวรินทร์ พูลสวัสดิ์ Content Team Leader และ นายอรรถผล ผดุ้งกุล Content Team Coach ของคณะนิเทศศาสตร์ ระบุว่า ปัจจุบันมีนักศึกษาใน Dance Club ได้รับงานแสดงทั้งในและนอกมหาวิทยาลัยเป็นจำนวนมาก โดยในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา ได้รับงานแสดงถึง 10-20 งาน ทำให้นักศึกษาได้มีทั้งโอกาสพัฒนาตนเองและสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง
“งานวันนี้ยังช่วยสร้างโอกาสและพัฒนาทักษะให้กับนักศึกษาอีกด้วย โดยมีโมเดลลิ่งจากองค์กรระดับมืออาชีพเข้ามาดูความสามารถของเด็ก และยังมีกรรมการที่เคยเป็นนักเต้น Cover Dance มาก่อน ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆ เห็นว่าการเต้นสามารถสร้างรายได้และอาชีพได้”
ทั้งคู่ยังบอกอีกว่า คณะนิเทศศาสตร์มุ่งหวังให้นักศึกษาเป็น Content Creator ที่สามารถสร้างรายได้จากการสร้างสรรค์คอนเทนต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคลิปวิดีโอหรือการแสดง การเต้นจึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่นักศึกษาสามารถนำไปต่อยอดและสร้างรายได้ได้
นอกจากการแข่งขันแล้ว ทางคณะนิเทศศาสตร์ยังได้จัดกิจกรรม Workshop ให้กับโรงเรียนต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะการเต้นของนักเรียน สอดรับกับการผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางคอนเสิร์ตและการแสดง โดย ณ ตอนนี้ มีโรงเรียนหลายแห่งให้ความสนใจและติดต่อเข้ามาเพื่อขอให้ทางคณะเข้าไปจัดกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีว่ากิจกรรมนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และเป็นการยืนยันว่ามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์เป็นมหาวิทยาลัยแห่งการสร้างโอกาสที่แท้จริง
อาจารย์สิญาทิพย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า "เราภูมิใจที่ได้เห็นความพยายามและความตั้งใจของน้องๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรม เราสัญญาว่าจะขยายและไปให้ครบทุกโรงเรียนที่ติดต่อเพิ่มเข้ามา เราเชื่อว่าเวทีนี้เป็นเวทีแห่งโอกาสที่ทำให้น้องๆ ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง และค้นพบเส้นทางที่ชัดเจนขึ้น"