มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จัดงาน DPU Experience Day ภายใต้แนวคิด “เปิดประสบการณ์ตรง ให้ลงมือทำจริง” เพื่อให้นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายได้สัมผัสประสบการณ์เรียนจริง ลงมือทำจริง ในห้องเรียนจริง กับหลักสูตรที่หลากหลาย พร้อมไขทุกข้อสงสัยกับรุ่นพี่และอาจารย์ผู้สอน ก่อนตัดสินใจเลือกคณะศึกษาต่อ โดยกิจกรรมนี้ได้รับการตอบรับที่ดีและมีนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา
โดยกิจกรรมหลักสำคัญของงาน DPU Experience Day ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ได้แก่ กิจกรรมเปิดคลาสเรียนจริงและลงมือทำ Workshop แบบเต็มวัน ซึ่งจัดขึ้นใน 12 วิทยาลัยและคณะ เพื่อให้น้องๆ นักเรียนได้สัมผัสประสบการณ์เรียนรู้ในหลักสูตรที่สนใจแบบลงลึก โดยน้องๆ จะได้เรียนในห้องเรียนจริง ใช้อุปกรณ์จริง และฝึกปฏิบัติกับอาจารย์ผู้สอนในหลักสูตรจริง เพื่อพัฒนาศักยภาพและทักษะเฉพาะของหลักสูตรนั้นๆ พร้อมรับเกียรติบัตรและผลงานที่ทำเองกลับบ้าน นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ได้พูดคุยกับอาจารย์ประจำหลักสูตร เพื่อไขข้อข้องใจ และเคลียร์ทุกคำถามเกี่ยวกับหลักสูตรที่อยากเรียนก่อนตัดสินใจเรียนต่อ
อีกกิจกรรมคือ “DPU Bond” กิจกรรมสันทนาการเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียน รุ่นพี่ และอาจารย์ โดยน้องๆ นักเรียนจะได้ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของการเป็นเด็กมหาวิทยาลัย ที่ไม่ใช่แค่เรื่องการเรียน พร้อมกันนั้น น้องๆ ยังได้ร่วมเล่นเกมสันทนาการต่างๆ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวได้รับการตอบรับอย่างดี และสามารถสร้างความประทับใจเหมือนน้องๆ ได้เป็นนักศึกษา Freshy ปี 1 จริง
สำหรับบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างสนุกสนานตั้งแต่ช่วงเช้า น้องๆ นักเรียนที่เข้าร่วมงานต่างได้รับของที่ระลึกหลังจากลงทะเบียน และได้มีโอกาสเยี่ยมชมสำรวจมุมต่างๆ ของมหาวิทยาลัยในระหว่างที่เดินทางไปยังคณะและสาขาที่ชื่นชอบ โดยมีรุ่นพี่ในแต่ละคณะและวิทยาลัยดูแลอย่างใกล้ชิด ช่วยให้น้องๆ ได้เห็นภาพการเรียนในระดับอุดมศึกษาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น จนบางคนถึงขั้นสมัครเรียนในทันที นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสำหรับผู้ปกครองที่มารอรับนักเรียน โดยจัดขึ้นที่ห้องสมุดชั้น 1 ประกอบด้วยการให้คำปรึกษาและแนะนำหลักสูตร รวมถึงกิจกรรม Workshop เช่น นวดแผนไทย ทำยาดม และตกแต่งสวนดอกไม้
นายเจตนา ดีพิจารณ์ ผู้ปกครองที่เข้าร่วมงาน กล่าวว่า กิจกรรม DPU Experience Day เป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะช่วยให้บุตรหลานได้ทดลองเรียนรู้และตัดสินใจเลือกคณะได้ง่ายขึ้น โดยส่วนตัวไม่เคยเห็นกิจกรรมแบบนี้มาก่อน และรู้สึกประทับใจมาก เพราะนอกจากช่วยให้บุตรหลานค้นพบตัวเอง กิจกรรมนี้ยังเป็นเสมือนเข็มทิศที่ช่วยนำทางให้บุตรหลาน และช่วยในการเตรียมความพร้อมสำหรับการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา
"โลกหมุนเร็วมากจนบางครั้งเราก็ตามไม่ทัน การมีกิจกรรมแบบนี้ถือว่าเป็นเข็มทิศที่ช่วยให้ทั้งเด็กๆ และผู้ปกครองอย่างเราเข้าใจโลกการเรียนรู้ในยุคปัจจุบันได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ลูกบอกชอบวาดรูปอนิเมะ อยากเรียนต่อในสายดิจิทัลอาร์ต เราก็ไม่รู้เพราะสมัยเรียนไม่มี กิจกรรมนี้จึงเป็นโอกาสดีที่ลูกจะได้ลองทำจริง และค้นหาตัวเอง พร้อมๆ กับดูว่าทางนี้ใช่ทางสำหรับเขาหรือไม่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการทำ Portfolio ในแฟ้มผลงานเพื่อสมัครเรียนต่อในอนาคต เพราะหากลูกยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเรียนอะไร ก็จะเตรียมตัวและวางแผนล่วงหน้าได้ยาก”
นายเจตนายังเสริมอีกว่า การที่ตัวเองเป็นศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ยิ่งทำให้มั่นใจและเชื่อมั่นว่ากิจกรรมนี้จะเป็นประโยชน์ต่อลูกๆ หลานๆ อย่างแน่นอน
ด้าน น้องน้ำเพชร “นางสาวณัฐวิภา สาแก้ว” และ น้องพิ้งพลอย “นางสาวณัฐนิชา สาแก้ว” นักเรียนที่ตัดสินใจสมัครเป็นนักศึกษาเฟรชชี่คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ หลังจากเข้าร่วมกิจกรรมกล่าวว่า เดิมทีเริ่มมีคณะในใจที่อยากเรียนแล้ว แต่ทั้งคู่กังวลว่าจะเรียนยากเกินไปและไม่แน่ใจว่าจะตรงกับความชอบหรือไม่ จนกระทั่งได้ฟังคำอธิบายของอาจารย์จากคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรมซึ่งมาแนะแนว ทำให้ได้เห็นถึงโอกาสทางอาชีพที่หลากหลาย และกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายในคณะ ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจเข้าร่วม DPU Experience Day เพื่อสัมผัสประสบการณ์จริง
“ตัดสินใจไม่ผิดที่วันนี้ได้มาทดลอง ตอนแรกคิดว่าถ้าเรียนด้านการท่องเที่ยวและการโรงแรม งานจะเป็นการต้อนรับเพียงอย่างเดียว แต่พอมาวันนี้พอได้ลองทำจริง ทั้งการทำอาหาร ทำขนม และเรียนรู้การบริการ ยิ่งรู้สึกมั่นใจว่าชอบงานด้านนี้ เพราะที่บ้านทำร้านอาหารและตัวเองก็ชอบทำอาหาร ทำขนมกันอยู่แล้ว การได้มาทดลองทำทั้ง 2 อย่างใน Workshop ของคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม ก็ยิ่งรู้สึกมั่นใจว่าชอบงานด้านนี้จริงๆ” น้ำเพชรและพิ้งพลอยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
นอกจากกิจกรรม Workshop ที่ทำให้ทั้งคู่ประทับใจแล้ว กิจกรรม DPU Bond ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ทั้งคู่ตัดสินใจสมัครเรียน โดยกิจกรรมนี้เปิดโอกาสให้ทั้งคู่ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ รุ่นพี่และอาจารย์ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสัมผัสถึงสังคมที่อบอุ่น ช่วยคลายความกังวลเรื่องการปรับตัว โดยเฉพาะในช่วงก่อนพักเที่ยงที่อาจารย์เปิดให้สอบถามอย่างเต็มที่ คำอธิบายที่ละเอียดและเข้าใจง่ายของอาจารย์ได้เคลียร์ทุกคำถามเกี่ยวกับหลักสูตรที่อยากเรียนก่อนตัดสินใจเรียนต่อ ทำให้เธอเลือกเรียนต่อในสาขาการโรงแรมและธุรกิจอาหาร เพราะเป็นสาขาที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ความชอบของทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี
“ตอนแรกยังไม่กล้าถามอะไรมากนัก แต่พอได้ทำกิจกรรมไปเรื่อยๆ ในช่วงเช้า ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดีและทุกคนเป็นกันเองมาก ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ไม่กดดัน และชอบบรรยากาศที่นี่ จนช่วงใกล้ๆ พักเที่ยงอาจารย์เปิดให้สอบถาม หนูตัดสินใจสอบถามอาจารย์เกี่ยวกับความแตกต่างระหว่าง การท่องเที่ยวและการโรงแรม คำอธิบายที่ละเอียดและเข้าใจง่ายของอาจารย์ ทำให้พวกหนูเห็นภาพรวมของคณะมากขึ้น รวมถึงโอกาสในการทำงานในอนาคต เช่น การเป็นพนักงานต้อนรับ การทำอาหาร การบริหารงาน และการบัญชี ฯลฯ ซึ่งเป็นโอกาสที่หลากหลาย น่าสนใจและมั่นคง ก็เลยตัดสินใจสมัครเรียนเลย”
