อ.เจษฎ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา แนะศึกษาข้อปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินบนรถบัสต้องทำอย่างไร ชี้ต้องมี 3 สิ่ง คือ ถังดับเพลิง, ประตูฉุกเฉิน และค้อนทุบกระจก
กรณีเกิดเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของเด็กนักเรียน ร.ร.วัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ระหว่างเดินทางกลับจากทัศนศึกษา มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก เบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีผู้สูญหาย 25 คน จาก 44 คน ขณะนี้ทุกหน่วยงานกำลังลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบรายละเอียดรวมถึงเก็บรวบรวมพยานหลักฐานถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น โดยตำรวจก็จะมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ขบวนรถทัศนศึกษารวม 3 คันเดินทางกลับ จ.อุทัยธานี ว่ารถคันดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุจากสาเหตุ เช่นมีการเฉี่ยวชนกับคันอื่นหรือไม่ เพราะทราบว่ารถคันเกิดเหตุมีก๊าซรั่ว ดังนั้นก็จะต้องมีการตรวจสอบกับกรมการขนส่งทางบกว่ามีการติดตั้งถังก่อน หรือมีการดัดแปลงภายหลังและได้มาตรฐานหรือไม่ ซึ่งในทางคดีหากมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตตำรวจก็จะต้องดำเนินการต่อคนขับ จากนั้นก็จะต้องตรวจสอบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของผู้ประกอบการรายใดที่จะต้องมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องความเสียหาย แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้และยังไม่พบคนขับรถคันเกิดเหตุ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้ว
วันนี้ (1 ต.ค.) เฟซบุ๊ก “Jessada Denduangboripant” หรือ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ระบุข้อความว่า "มาตรฐานความปลอดภัยของรถบัส และแนวทางการปฏิบัติตนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น" จากข่าวสลดวันนี้ น่าจะต้องถอดบทเรียน และคุมกันจริงจังมากขึ้น กับรถบัส รถเมล์ รถขนส่งสาธารณะ ที่ถ้าไม่ได้มีอุปกรณ์ความปลอดภัยครบถ้วนตามมาตรฐาน หรือเกิดมีปัญหาในการใช้งาน ก็จะทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงได้ (อย่างข่าววันนี้ ที่บอกว่าประตูฉุกเฉินเปิดไม่ได้ - ซึ่งความจริงต้องเปิดได้ตลอดทั้งจากในรถ และนอกรถ)
เลยขอเอาบทความของ Patsornchai Tour - ภัสสรชัยทัวร์ นี้มาสรุปให้ศึกษากันนะครับ
- 3 สิ่งสำคัญ ที่ถือว่าเป็นอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยที่รถบัสทุกคันต้องมี และผู้โดยสารทุกคนควรสังเกต นั่นก็คือ "ถังดับเพลิง" , "ประตูฉุกเฉิน" และ "ค้อนทุบกระจก" ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยบรรเทาความร้ายแรงของเหตุฉุกเฉินที่กำลังเกิดขึ้น และเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยทำผู้โดยสารออกจากห้องโดยสาร
1. #ประตูทางออกฉุกเฉิน
- ผู้โดยสารควรมองหาประตูรถทางออกฉุกเฉิน เพราะจะช่วยให้ออกจากตัวรถบัสได้ในขณะเกิดเหตุฉุกเฉิน
- ประตูรถทางออกฉุกเฉินจะต้องมีสัญลักษณ์บ่งบอก หรือมีสัญลักษณ์แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจน ทั้งภายในและภายนอกตัวรถ ว่าเป็นตำแหน่งของประตูฉุกเฉิน
- ถ้าเป็นประตูทางออก ที่อยู่ "ด้านท้าย" ของตัวรถ ต้องมีข้อความว่า “ทางออกฉุกเฉิน” เป็นอักษรภาษาไทย ความสูงไม่น้อยกว่า 5 เซนติเมตร สีแดงสะท้อนแสง ติดอยู่เหนือบริเวณที่เปิด-ปิดประตู หรือบริเวณขอบประตูด้านบนทางออกฉุกเฉิน ให้สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน
- ถ้าไม่อยู่ด้านท้ายของรถ ประตูฉุกเฉินจะต้องมีขนาดทางออกไม่น้อยกว่า 40 เซนติเมตร ความสูงไม่น้อยกว่า 120 เชนติเมตร อยู่ในตำแหน่ง "ด้านขวากลาง" ของตัวรถ หรืออาจจะค่อนไปทางท้ายรถ ตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้
- ประตูฉุกเฉินจะต้องสามารถเปิดได้ โดยไม่ต้องใช้กุญแจหรืออุปกรณ์ใดๆ
- ต้องเปิดได้เต็มทั้งส่วนกว้าง และความสูง
- ต้องไม่มีสิ่งติดตั้งถาวรกีดขวางทางออกนี้ เพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน
2. #ถังดับเพลิง
- รถบัสทุกคันจะต้องมี เพื่อไว้ใช้ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน เมื่อมีไฟลุกขึ้นที่บริเวณห้องโดยสาร
- ภายในห้องโดยสารส่วนใหญ่จะมีการติดตั้งถังดับเพลิงขนาด 2 ปอนด์ ไว้อย่างน้อย 2 ตำแหน่ง คือบริเวณ "เบาะหน้า" ใกล้คนขับ และบริเวณ "ที่นั่งด้านหลัง" หรือ "ตรงกลาง" ของห้องโดยสาร เพื่อให้สามารถหยิบให้งานได้ง่าย
- เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ให้ดึงสลักล็อกที่บริเวณคันบีบออก จากนั้นให้ปลดสายฉีดออกจากตัวถึง หันปากสายฉีดไปที่ "ฐาน" กองไฟ แล้วกดคันบีบแล้วส่ายสายฉีด เพื่อให้สารที่พ่นออกมาจากถังดับเพลิงพ่นให้ทั่วทั้งกองไฟ
- ไม่ควรฉีดไปที่เปลวไฟ เพราะเป็นการใช้แบบผิดวิธี ทำให้ไฟไม่ดับ
- ควรยืนห่างจากกองไฟประมาณ 6-8 ฟุต เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน
3. #ค้อนทุบกระจก
- รถบัสทุกคันจะต้องมีค้อนทุบกระจก หรืออุปกรณ์ที่มีด้ามจับสีแดง มีหัวเหล็กลักษณะกลมๆ ยื่นออกมา
- ส่วนมาก ติดอยู่ใกล้ๆ กระจกข้างรถ
- มีไว้สำหรับการกรีด หรือทุบกระจก เพื่อเปิดเป็นทางออกฉุกเฉิน สามารถทุบเปิดกระจกได้เร็วกว่าของแข็งอื่นๆ
- สามารถดึงออกจากแท่นเก็บ จากนั้นจับด้ามให้แน่น แล้วใช้ปลายแหลม "กรีด" ลงที่กระจกให้เป็นรอย แล้วใช้ปลายค้อน ทุบที่แนวกรีด กระจกก็จะแตกละเอียด
#ข้อแนะนำอื่นสำหรับการเดินทาง
1. เลือกเดินทางกับบริษัทผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ มีการตรวจเช็กสภาพรถก่อนออกเดินทาง และเป็นบริษัทที่ไม่มีประวัติการเกิดอุบัติเหตุหนัก ซึ่งท่านสามารถเช็กได้กับกรมการขนส่งทางบก
2. บนรถบัสทุกคันจะต้องมีเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติอย่างน้อย 2 จุด ทุกที่นั่ง เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารในขณะเดินทาง
3. ในขณะเดินทาง ผู้โดยสารควรสังเกตอาการของพนักงานขับรถ ว่ามีอาการมึนเมา หาวบ่อย หรือขับรถเร็วเกินไปหรือไม่ หากพบความผิดปกติควรโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จุดตรวจของกรมการขนส่งฯ หรือบริษัทของผู้ให้บริการ
4. หากเป็นระยะทางไกลมากกว่า 400 กิโลเมตร บริษัทผู้ให้บริการจะต้องมีพนักงานขับรถ 2 คน หรือจะต้องมีการหยุดจอดรถพักทุก 4 ชั่วโมง อย่างน้อยเป็นเวลา 30 นาที นอกจากนี้ พนักงานขับรถจะต้องขับรถด้วยความสุภาพ และมีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมทาง เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่อาจเกิดขึ้นได้