มาดูกันว่า "แกรนด์สปอร์ต" เป็นแบรนด์กีฬาของไทยหรือไม่ หลังจาก "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" บอกเสียดายให้โอกาสให้แบรนด์ไทยรู้จักระดับโลกเหมือนอย่างมองโกเลียไม่ได้
วันนี้ (21 ก.ค.) จากกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ที่จังหวัดลำพูนถึงดรามาชุดโอลิมปิกทีมชาติไทย ระบุว่า "ก็คิดว่าจบไปแล้วนะครับ เห็นว่าจะใช้ของแกรนด์สปอร์ตใช่ไหม ... ก็รู้สึกเสียดายว่าให้โอกาสให้แบรนด์ไทยให้รู้จักระดับโลกเหมือนอย่างมองโกเลียไม่ได้ แต่มันผ่านไปแล้วก็ผ่านไป ผมคิดว่าเราควรใช้เวลาในการเชียร์นักกีฬาไทยที่ไปแข่งดีกว่า"
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า แกรนด์สปอร์ต (Grandsport) เป็นแบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องใช้กีฬาในประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2504 โดยนายกิจ พฤกษ์ชะอุ่ม อดีตนักบาสเกตบอล โดยเริ่มจากการเป็นร้านค้าปลีกอุปกรณ์กีฬาและเครื่องใช้กีฬา ห้องแถวเล็กๆ ในย่านวงเวียน 22 กรกฎาคม ต่อมาปี พ.ศ. 2512 แกรนด์สปอร์ตได้เป็นบริษัทเครื่องกีฬาไทยบริษัทแรกที่ติดตรา "Made in Thailand" บนเสื้อผ้ากีฬา เพื่อให้ชื่อเสียงของสินค้าเป็นที่รู้จัก
ปี พ.ศ. 2514 แกรนด์สปอร์ต ได้รับเลือกให้เป็นชุดกีฬาในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ และในปี พ.ศ. 2522 ได้ขยายการส่งออกสู่ ประเทศฮ่องกงและประเทศบาห์เรน และได้ก่อตั้งแผนกวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นภายในองค์กร เป็นบริษัทแรกในอุตสาหกรรมเครื่องกีฬาของคนไทย เมื่อถึงปี พ.ศ. 2525 ได้ก่อตั้งบริษัท แกรนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ขึ้นมาเป็นบริษัทในเครือ เพื่อทำการตลาดอุปกรณ์กีฬาในประเทศ
และเมื่อปี พ.ศ. 2527 ได้รับรางวัลสินค้าไทยดีเด่นจากสมาคมนิยมไทย รับพระราชทานโล่จากสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ซึ่งอีกปีถัดมา แกรนด์สปอร์ตก็ได้ขยายการส่งออกไปสู่ประเทศตะวันออกกลาง คือ ประเทศกาตาร์ ประเทศโอมาน ประเทศคูเวต และประเทศคีร์กีซสถาน
ปัจจุบัน แกรนด์สปอร์ต มีนายธิติ พฤกษ์ชะอุ่ม ทายาทรุ่นที่สอง สานต่อกิจการของบิดาที่เสียชีวิตเมื่อปี 2563 โดยมีช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านสถาบันและมหาวิทยาลัยด้านการพลศึกษาต่างๆ หน่วยงานราชการ โรงเรียน บริษัทเอกชน จำหน่ายปลีกผ่านร้านค้ารายย่อยกว่า 300 ร้านค้า ร้านแกรนด์สปอร์ตรีเทล และช่องทางออนไลน์อย่างลาซาด้า ช้อปปี้ เป็นต้น