xs
xsm
sm
md
lg

สุดทน ชาวบ้านนับสิบเดือดร้อนหนักโครงการปรับพื้นถนน ฝุ่นคลุ้ง ฝาท่อเปิด ค้าขายไม่ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 9 มิ.ย. 67 นายอนุสรณ์ หรือทนายเอ๊ะ แก้ววิเชียร ส.ส.พรรคก้าวไกล เขต 3 จ.นนทบุรี ดร.ชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) จังหวัดนนทบุรี ลงพื้นที่ภายในซอยบางไกรใน ม.1 ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี หลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รวมตัวกว่า 10 คน หลังจากได้รับความเดือดร้อนจากโครงการปรับปรุงยกระดับถนนคอนกรีตเสริมเหล็กของเทศบาลตำบลปลายบาง ระยะทางก่อสร้างกว่า 1 กม. ใช้งบประมาณสัญญาจ้างกว่า 12,888,000 บาท โดยเริ่มสัญญาจ้างตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค. 66 สิ้นสุดสัญญาในวันที่ 8 มี.ค. 67 แต่กลับมีการรื้อทุบทำลายพื้นผิวถนนใหม่ระหว่างที่มีการสร้างเสร็จแล้ว เนื่องจากผู้รับเหมาทำการก่อสร้าง ระดับความหนาของถนนไม่เป็นไปตามกำหนดของแบบ เทศบาลจึงต้องสั่งผู้รับเหมารื้อทุบผิวถนนคอนกรีตใหม่ทั้งหมด และเลื่อนกำหนดจะแล้วเสร็จในวันที่ 30 มิ.ย. 67 ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าว คือ ฝุ่นมลพิษ การสัญจรรถบนเส้นถนนดังกล่าว พ่อค้าแม่ค้าต้องปิดร้านเนื่องจากค้าขายของไม่ได้ และยังเสียสุขภาพจิตไม่กล้าตากผ้าหน้าบ้านเพราะฝุ่นเยอะ ทั้งนี้ยังต้องจ้างรถบรรทุกนำหินคลุกมาปรับระดับถนนหน้าบ้านของตัวเองเนื่องจากไม่สามารถนำรถขับเข้าหน้าบ้านได้ ไร้หน่วยงานเข้าช่วยเหลือบรรเทา

นายชรินทร์ วัชระมานนท์ อายุ 54 ปี ชาวบ้าน เปิดเผยว่า ตนและชาวบ้านในพื้นที่ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนกับโครงการดังกล่าว ประเด็นหลักๆ ก็คือ 1. ฝุ่นมลพิษ 2. การสัญจรรถ 3. การค้าขาย 4. สุขภาพจิต 5. ค่าน้ำขึ้น ซึ่งชาวบ้านได้อดทนมานานกว่า 7 เดือน โดยโครงการเริ่มตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. 66 ตอนแรกชาวบ้านทุกคนดีใจว่าทางเทศบาลตำบลปลายบางได้เห็นความเดือดร้อนของประชาชน เนื่องจากภายในซอยดังกล่าวมีน้ำท่วมขังบ่อยเวลาฝนตกเป็นพื้นที่ต่ำ ปรากฏว่าขณะก่อสร้างถึงประมาณวันที่ 18 พ.ค. 67 ที่ผ่านมา ทางเทศบาลได้แจ้งประชาสัมพันธ์ชาวบ้านโดยมีการนำป้ายมาติดแก้ไขโครงการ โดยติดประกาศว่าทางผู้รับเหมาดำเนินการไม่เป็นไปตามรูปแบบการก่อสร้าง หรือเรียกง่ายๆ ว่า ก่อสร้างไม่ถูกต้อง ซึ่งตนมีข้อมูลมาว่าทางผู้รับเหมาก่อสร้างถนน ความหนาหรือสูงของถนนเกินกว่ากำหนด ทำให้เทศบาลต้องสั่งการทางผู้รับเหมาให้ปรับปรุงแก้ไขโดยมีการทุบถนนที่ก่อสร้างมาแล้วบางส่วนทั้งหมด ซึ่งชาวบ้านทุกคนอยากให้โครงการนี้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นไวที่สุดแต่กลับต้องทุบใหม่แบบนี้ ตอนนี้ก็ใกล้หน้าฝน น้ำจะท่วมเดือดร้อนกันไปหมด ระยะเวลากว่า 7 เดือนที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ชาวบ้านอดทนมามากพอแล้วอยากให้ทางหน่วยงานราชการได้เห็นใจชาวบ้านช่วยมาแก้ปัญหาในส่วนนี้ให้พวกตนหน่อย และอยากให้แจงกับชาวบ้านว่าจะแล้วเสร็จวันไหน เพราะตอนนี้ชาวบ้านหลายหลังคาเรือนได้จ้างรถบรรทุกหินคลุกมาถมหน้าบ้านกันเอง เพราะบางรายขับรถเข้าบ้านไม่ได้ โดยจ้างบรรทุกต่อครั้งประมาณ 2,600 บาท ไม่รวมค่าแรง ซึ่งอาทิตย์หน้าเห็นว่าบางคนก็จะจ้างมาถมหน้าบ้านต่อเนื่องจากยังขับรถเข้าออกหน้าบ้านไม่ได้ วันนี้ตนต้องขอขอบคุณทางทนายเอ๊ะ ส.ส.พรรก้าวไกล และ ดร.แก้วประธาน กต.ตร.ที่ลงพื้นที่มาดูแลชาวบ้านและให้การช่วยเหลือติดตามเรื่องกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นางหนูจัด ช่างจันทร์ ช่างตัดผม กล่าวว่า ตนได้รับความเดือดร้อนในเรื่องของการประกอบธุรกิจร้านตัดผม ตอนนี้ไม่มีลูกค้าเข้าร้านเนื่องจากสภาพแวดล้อมมีฝุ่นคลุ้งถนน และรวมถึงหน้าร้าน ลูกค้าประจำผู้สูงอายุไม่สามารถเดินขึ้นมาใช้บริการได้ ก่อนหน้านี้ได้มีลูกค้าผู้สูงอายุล้มอยู่บริเวณทางขึ้นหน้าร้านตนเนื่องจากสะดุดล้มจากโครงการก่อสร้างนี้ ตอนนี้ตนขาดรายได้ต้องปิดร้านไปก่อนเนื่องจากไม่มีลูกค้ามาใช้บริการ อยากฝากถึงเทศบาลตำบลปลายบางให้ช่วยเร่งดำเนินการแก้ไขให้ชาวบ้านอย่างเร่งด่วน

นายพยงค์ แนมใจ อายุ 80 ปี ชาวบ้าน กล่าวว่า หลังจากที่มีการซ่อมแซมโครงการปรับพื้นถนนดังกล่าว ทำให้มีฝุ่นมลพิษมากมายจากการที่รถยนต์ขับผ่านสัญจรบริเวณบ้าน ที่บ้านตนได้ซื้อเครื่องฟอกอากาศราคาประมาณ 30,000 บาท ใช้ได้ไม่ถึงเดือน ปรากฏว่าเครื่องกรองด้านในพังเพราะว่าเครื่องทำงานหนักฝุ่นเยอะไปเกาะกรองอากาศ ตนต้องเสียค่าซ่อมแซมไปประมาณ 8,000 บาท ส่วนที่นำมาพูดตรงนี้ไม่ได้จะมาเรียกร้องค่าเสียหายอะไรกับใคร แต่อยากให้เห็นว่าชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจริงๆ จากเรื่องฝุ่นมลพิษ

นายอนุสรณ์ หรือทนายเอ๊ะ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ซอยบางไกรใน ม.1 ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ว่ามีโครงการก่อสร้างปรับพื้นถนน ที่ก่อสร้างแล้วมีการรื้อทุบทำลายใหม่ ซึ่งชาวบ้านได้มีการร้องเรียนทำหนังสือยื่นไปที่เทศบาลตำบลปลายบาง และร้องเรียนไปยังจังหวัด แต่ยังไม่ได้คำชี้แจงใดๆ ทั้งสิ้น จึงร้องเรียนมาหาตน ซึ่งเรื่องนี้ตนได้ตั้งข้อสังเกตว่าปกติสัญญาของราชการก็จะต้องแบ่งงานเป็นงวดๆ การที่ทำเสร็จแล้วแก้ไขทุบทิ้ง ตนอยากจะตั้งคำถามทางเทศบาลว่ามีการควบคุมงานถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณก่อสร้างถูกต้องหรือไม่ เพราะฉะนั้นตนจะพาชาวบ้านเดินทางเข้าร้องเรียนต่่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เนื่องจากทางเทศบาลและจังหวัดไม่ได้มีการชี้แจงให้ชาวบ้านทราบ รวมถึงไม่มีมาตรการในการบรรเทาความเสียหายให้ชาวบ้าน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งตนและทีมงานได้ลงมาตรวจสอบพื้นที่สองอาทิตย์ติดแล้วก็ยังเป็นปัญหาเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสัญจร ฝุ่นมลพิษ ฝาท่อที่ไม่มีฝาปิดกั้น ซึ่งช่วงนี้ใกล้ฤดูฝนแล้ว ทางตนเห็นใจชาวบ้านและเด็ก จะได้รับผลกระทบน้ำท่วมและฝุ่นละอองมลพิษภาวะต่างๆ หากทางเทศบาลหรือจังหวัดมีการชี้แจง ตนเชื่อว่าชาวบ้านคงไม่มารวมตัวร้องขอความช่วยเหลือแบบนี้แน่นอน


















กำลังโหลดความคิดเห็น