ตั้ง อาชีวะ แชร์บทความ "ลี้ภัยยังไงให้พังทั้งขบวน" ของผู้ต้องหาคดี 112 พร้อมถาม "นุ๊ก จัสติน" สาแก่ใจหรือยัง หลังก่อเรื่องยืมตังค์แล้วไม่จ่าย แถมอวดความกินหรูอยู่สบายด้วยเงินคนอื่น
วันนี้ (21 เม.ย.) เฟซบุ๊ก Eakapop Luara ของนายเอกภพ เหลือรา หรือตั้ง อาชีวะ แดงฮาร์ดคอร์ซึ่งปัจจุบันเป็นชาวนิวซีแลนด์ ได้แชร์ข้อความจากเฟซบุ๊ก Nuttigar Woratunyawit หรือ น.ส.ณัฏฐิกา วรธันยวิชญ์ อดีตแอดมินเพจ 'เรารักประยุทธ์' ที่หลบหนีคดีมาตรา 112 โพสต์บทความหัวข้อ "ลี้ภัยยังไงให้พังทั้งขบวน" ระบุว่า "คิดไว้ระยะหนึ่งแล้วว่าจะเขียนเรื่องนี้ดีมั้ย และที่ตัดสินใจเขียนเพราะต้องการให้ผู้ที่กำลังคิดจะลี้ภัยได้มีข้อมูลใช้วิเคราะห์ต่อสถานการณ์ปัจจุบัน
เหตุ : จากผู้ลี้ภัยรายล่าสุดที่สามารถลี้ภัยสำเร็จ ได้ใช้ชีวิตในประเทศแถบอเมริกาเหนือ อวดความกินหรูอยู่สบายด้วยเงินคนอื่น และถูกเปิดโปงพฤติกรรมจนเป็นกระแสอยู่ระยะหนึ่ง ผู้ลี้ภัยรายนี้เริ่มต้นการลี้ภัยแบบเรียกว่าจากศูนย์ ผ่านขั้นตอนกระบวนการที่มีผู้เกี่ยวข้องช่วยเหลือตลอดทางตั้งแต่ต้นจนปลายทาง ด้วยเงินติดตัวไม่กี่บาท ด้วย connection ที่แทบไม่มี ด้วยภาษาที่แทบจะสื่อสารไม่ได้ ทุกอย่างสำเร็จด้วยผู้คนหลายคนที่ช่วยด้วยใจ ทั้งการระดมเงิน แปลภาษา เตรียมเอกสาร เตรียมการและประสานงานต่างๆ
ผล : เมื่อเรื่องราวถูกเปิดเผย เจ้าหนี้รายหลักตัดสินใจรีพอร์ตพฤติกรรมของผู้ลี้ภัยไปยังเจ้าหน้าที่ที่ช่วยเหลือ จนเป็นเหตุให้ประเทศปลายทางระงับการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยจากไทย ผู้เกี่ยวข้องทั้งกระบวนการต่างเสียเครดิตจากเหตุไม่คัดกรองคนให้ดี ผู้เกี่ยวข้องต่างวางมือ ไม่ต้องการช่วยเหลือเคสใดๆ ที่จะลี้ภัยอีกต่อไป รวมถึงอาสาสมัครที่ช่วยดำเนินการต่างๆ ก็ต่างถอดใจ หาคนช่วยเหลือได้ยากขึ้น จากที่ยากอยู่แล้ว ตอนนี้คือหันหาใครไม่ได้อีกเลย
สถานการณ์ปัจจุบัน : ยังคงมีนักเคลื่อนไหวที่ถูกคดี 112 และต้องการลี้ภัยออกจากประเทศไทย และยังตกค้างจากเหตุไม่มีประเทศปลายทางรับ รวมถึงสถานการณ์ปัจจุบันที่มีคนถูกคดีทางการเมืองมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว การถูกคดี 112 จึงไม่ใช่เครื่องการันตีว่าการลี้ภัยจะสำเร็จอีกต่อไป นอกจากเคสตกค้าง ยังมีเคสที่ไปถึงประเทศปลายทางและถูกปฏิเสธ บางรายยื่นอุทธรณ์และรอ ในขณะที่บางรายตัดสินใจกลับไทย
การเตรียมพร้อม : หากใครที่กำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะลี้ภัยหรือไม่ ให้ถามตัวเองก่อนเลยว่า พร้อมมั้ยที่จะต้องพึ่งพาตัวเองเท่านั้น ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง พร้อมหรือยังที่จะไม่มีคนยื่นมือมาช่วย และทุกอย่างอยู่ที่ศักยภาพของตนเองล้วนๆ
รวมถึงการเงินที่ต้องแน่นพอสมควร เพราะอาจต้องคำนึงถึงการว่าจ้างทนายฝีมือเยี่ยม ที่จะทำให้เคสของเราที่หนีภัยจากรัฐที่คุกคามทางสิทธิมนุษยชน เข้าตามากกว่าเคสของประเทศอื่นๆ ที่หนีสงครามหรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
อยากให้ทุกคนตระหนักไว้ว่า การลี้ภัยจากประเทศไทยในวันนี้ยากขึ้นกว่าเดิมแล้ว ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว และหาคนที่จะยื่นมือมาช่วยได้ยากขึ้นแล้ว และอาจจะไม่ใช่ไทมิ่งที่เหมาะในการจะลี้ภัยอีกต่อไป"
ขณะที่นายเอกภพกล่าวว่า "คนที่คิดจะลี้ภัยควรอ่านนะครับ ปัจจุบันไม่ง่ายแล้ว ส่วนไอ้ Nook Justin สาแก่ใจมึงยัง? พังทั้งขบวนเลยไอ้..."
สำหรับคนที่นายเอกภพอ้างถึง คือ นายชูเกียรติ แสงวงค์ หรือนุ๊ก หรือจัสติน ผู้ต้องหาคดี 112 ที่หลบหนีคดีเมื่อเดือน ธ.ค. 2566 ไปอยู่ที่ประเทศแคนาดา และได้สถานะ PR ก่อนหน้านี้ถูกแฉว่ามีพฤติกรรมยืมเงินผู้ที่หลบหนีคดีมาตรา 112 คนอื่นๆ แต่กลับใช้ชีวิตสุขสบาย เงินที่ยืมได้เอาไปซื้อกัญชา เสื้อผ้า รองเท้า iPad AppleWatch รุ่นล่าสุด โดยพบว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อให้นายชูเกียรติยืมเงินมากที่สุดถึง 3 พันดอลลาร์แคนาดา หรือประมาณ 77,000 บาท ภายหลังถูกตัดขาดออกจากกลุ่มคนไทยที่แคนาดา และเริ่มไปทำการขอยืมเงินคนที่ไทยและประเทศอื่นๆ
อ่านประกอบ : แฉจัสตินหนีคดี 112 ไปแคนาดา เที่ยวยืมเงินเป็นหมื่นๆ ซื้อกัญชา-ไอแพด-แอปเปิลวอตช์